ผลงานหนังแนวสืบสวนสอบสวน พีเรียดเรื่องล่าสุดจาก Netflix ที่ดัดแปลงมาจากนิยายของ หลุยส์ บายาร์ด โดยเวอร์ชันหนังได้ สก้อต คูเปอร์ (Black Mass) มารับหน้าที่กำกับ และเขียนบท พร้อมได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง คริสเตียน เบลล์ (Thor: Love and Thunder) มารับบทนำ ร่วมด้วย แฮร์รี เมลลิง (The Queen Gambit)
หนังจะว่าด้วยเรื่องราวของ ออกัสตัส แลนดอร์ (คริสเตียน เบลล์) ยอดนักสืบที่ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาทำการสืบคดีฆาตกรรมปริศนาของนักเรียนตำรวจรายหนึ่งที่ถูกฆ่าโดยการแขวนคอ และผ่าหัวใจออกไป ออกัสตัส ต้องทำการสืบสวนด้วยการร่วมมือกับ เอ็ดการ์ อลัน โพ (แฮร์รี่ เมลลิง) นักเรียนตำรวจผู้หลงไหลในด้านกวี เมื่อทั้งสองเริ่มสืบหาความจริงไปเรื่อย ๆ ก็ได้พบว่ามีความเป็นไปได้ที่คนร้ายจะเป็นคนวงในของโรงเรียนตำรวจ
ตัวหนังมาพร้อมการดำเนินเรื่องในรูปแบบหนังฟิล์มนัวร์ Slow Burn ที่จะมีการนำเสนอที่เนิบช้า ไม่มีฉากแอ็คชัน หรือฉากระทึกขวัญมากนัก แต่จะเน้นไปที่การสืบสวน การค่อย ๆ ตามหาความจริงของตัวละคร อย่างค่อยเป็นค่อยไป ให้อารมณ์แบบหนัง เดวิด ฟินเชอร์ยุคเก่าอย่าง Se7en, Zodiac ที่มีบรรยากาศที่อึมครึม มึดหม่น ตลอดทั้งเรื่อง
จุดขายของหนังคือบทที่สามารถถ่ายทอดการสืบสวนของตัวละครออกมาได้อย่างน่าติดตาม โดยหนังได้ใช้ความเป็นคู่หูระหว่างตัว ออกัสตัส และ โพ มาเป็นจุดขาย ไม่ต่างจาก โฮล์ม และวัตสัน ซึ่งเนื้อเรื่องจะค่อย ๆ ไต่ระดับความเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นการไล่ล่าตามหาหลักฐาน การเผชิญหน้ากับสถานการณ์เสี่ยงตาย ที่ให้คนดูได้ตื่นเต้นตลอดทั้งเรื่อง
เคมีการแสดงของ คริสเตียน เบลล์ และแฮร์รี เมลลิง นับว่าเป็นจดขายสำคัญของเรื่อง ทั้งสองสามารถถ่ายทอดเคมีการเป็นนักสืบได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะคริสเตียน เบลล์ ก็ยังคงมอบการแสดงที่โดดเด่น และน่าจดจำให้หนังเรื่องนี้ ในขณะที่ด้าน แฮร์รี เมลลิง ก็ถ่ายทอดบทดราม่าออกมาได้อย่างดีเยี่ยม แม้จะไม่ได้เป็นตัวหลัก และยังเทียบรัศมี เบลล์ไม่ติด แต่ก็นับว่าเป็นอีกบทบาทการแสดงที่ยอดเยี่ยมของนักแสดงหนุ่มผู้นี้
น่าเสียดายที่แม้ว่า The Pale Blue Eye จะมีวัตถุดิบในการเป็นหนังสืบสวนฟิล์มนัวร์ที่ดี แต่ทว่าหนังกลับเลือกเดินเรื่องแบบสูตรสำเร็จไปพอสมควรทำให้หลาย ๆ ฉากของหนัง ไม่อิมแพคต่อความรู้สึกของคนดูได้เท่าที่ควร แม้หนังจะพยายามสับขาหลอกแค่ไหนก็ตาม นอกจากนี้ด้านพาร์ทดราม่าที่ว่าด้วยปูมหลังของตัวละครหนังก็ทำออกมาได้ไม่สุด ทั้ง ๆ ที่หนังมีประเด็นที่สามารถทำได้ดีกว่านี้
อย่างไรก็ตาม The Pale Blue Eye ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งหนังสืบสวนสอบสวน ที่ทำออกมาได้สนุก สมจริง หนังมีความกลมกล่อมลงตัวของการแสดงที่ยอดเยี่ยม และบทหนังที่น่าติดตาม แม้ว่าจะมีสูตรสำเร็จที่เดาง่ายไปบ้าง แต่ก็นับว่าเป็นอีกเรื่องที่คอหนังสืบสวนห้ามพลาด
สามารถรับชม The Pale Blue Eye ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix
Cr.ภาพ: Rotten Tomatoes
ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com
FB : รวมพลคนบันเทิง