แม้ว่าในยุคนี้ แนวแนว Post-Apocalypse หรือหนังที่ว่าด้วยยุคหลังการสูญสิ้นของมนุษยชาติ จะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใดสำหรับวงการฮอลีวูด แต่ทุกครั้งที่หนังแนวนี้ถูกนำมาฉายก็มักได้รับความสนใจจากคนดูไม่น้อย ด้วยการนำเสนอวิสัยทัศน์ของผู้กำกับที่ต่างกันไป แต่ท้ายที่สุดสิ่งหนึ่งที่มักมีเหมือน ๆ กันสำหรับหนังแนวนี้คือ ที่มาของการล่มสลาย
ที่มักจะเป็นซอมบี่ หรือมนุษย์ต่างดาว สำหรับ Love and Monsters ถือว่าเป็นอีกหนึ่งหนัง Post-Apocalypse ที่ไม่ได้ต่างจากเรื่องอื่นมาก ที่สำคัญมันคือหนังทุนไม่ได้สูงมาก ที่ค่ายผู้สร้างอย่าง Paramount วางแผนปล่อยหนังเรื่องนี้ฉายลงสตรีมตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว แต่บ้านเราพึ่งได้รับชมจากการซื่อสิทธิ์เข้ามาฉายของ Netflix
Love and Monsters จะว่าด้วยเรื่องราวของโลกที่ถูกสัตว์ประหลาดยึดครอง ทำให้มนุษย์จำนวนมากถูกฆ่า และส่วนที่เหลือก็ต้องหลบซ่อนอยู่ใต้ดินแทน โจเอล (ดีแลน โอ ไบรอัน) ชายหนุ่มสุดเนิร์ดที่มีความสามารถในการซ่อมวิทยุ และวาดรูป แต่ดันขี้กลัวทุกครั้งเมื่อเจอสัตว์ประหลาด ที่วันหนึ่งเขาได้ตัดสินใจจะออกเดินทางตามหา เอมี่ (เจสซิก้า เฮนวิค) แฟนสาวของเขาที่ไม่ได้เจอกันมาร่วม 7 ปี นับตั้งแต่เกิดภัยพิบัติ ซึ่ง โจเอล ก็ต้องออกเดินทางเพียงลำพัง ซึ่งระหว่างทางเขาก็ได้พบมิตรภาพ และเรื่องเสี่ยงตายมากมาย
หากให้พูดถึงสีสัน และความสนุกของ Love and Monsters ที่ต่างจากหนังแนวนี้เรื่องอื่น ๆ ก็คือการที่หนังสร้างตัวละครเอกอย่าง โจเอล ให้ดูเป็นเด็กหนุ่มขี้กลัว ไม่น่าพึ่งพา มีความเป็น Loser สูง แต่ความใสซื่อ ความตรงไปตรงมาของตัวทโจเอลนี่เอง ที่ทำให้ใครที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ จะประทับใจ และพร้อมเอาใจช่วย โจเอล ไปตลอดทั้งเรื่อง นอกจากนี้การที่หนังสร้างตัวละครที่อ่อนแอในช่วงเริ่มต้น และค่อย ๆ เข้มแข็งขึ้น มันก็ช่วยทำให้หนังมีประเด็นของเรื่องที่ชัดเจนอย่างการเติบโต และการพิสูจน์ตัวเองของตัวละคร ที่ดีมาก ๆ อีกเรื่องหนึ่ง
ในด้านฉากแอคชั่น ถือว่าไม่ได้หวือหวามาก ด้วยความที่หนังไม่ได่มีทุนสร้างที่ใหญ่โตมาก แต่สิ่งที่ค่อนข้างพิเศษของหนังเรื่องนี้คือการสร้างคาแรคเตอร์ของสัตว์ประหลาด ที่ดัดแปลงมาจากแมลง หรือสัตว์ป่าที่เราคุ้นเคย ซึ่งความสามารถของสัตว์แต่ละตัวก็ต่างกันไป ในด้านนี้หนังได้สร้างสรรค์สัตว์ประหลาดออกมาได้สมจริง บางช่วงที่ต้องเป็นฉากเอาชีวิตรอดก็ทำได้ตื่นเต้น ชวนลุ้น ไม่แพ้หนังฟอร์มยักษ์
อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือเรื่องราวมิตรภาพระหว่างคนกับหมา โดยในเรื่องนี้เราจะได้เห็นการผจญภัยของมโจเอล และบอย หมาตัวหนึ่งที่เขาพบระหว่างทาง ซึ่งเคมีของคนกับหมาในเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีเกินคาด หลาย ๆ ฉากหนังสามารถทำให้เราประทับใจกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ซึ่งทั้งนี้ก็ต้องขอชื่นชมตัว ดีแลน โอ ไบรอัน ผู้รับพระเอกของเรื่อง ที่สามารถแบกหนังเรื่องนี้ได้อยู่หมัด และเมื่อได้เคมีของเขา และเจ้าบอย ก็ยิ่งเพิ่มเสน่หฺให้ตัวละครไปอีก คงไม่เกินไปที่จะพูดว่ามิตรภาพของคนกับหมาในเรื่องนี้ มันดีที่สุดนับตั้งแต่ I Am Legend เมื่อปี 2007
ตัวหนังอาจมีจุดด้อยอยู่บ้างตรงในด้านการเพลย์เซฟ ของผู้สร้าง หลาย ๆ ฉากค่อนข้างมาในสูตรสำเร็จ ตัวร้ายที่ขาดมิติ หรือบางช่วงที่หนังเร่งจังหวะการเล่าเรื่องไปหน่อย แต่อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหาที่ใหญ่โตนัก เมื่อเทียบกับภาพรวมที่หนังทำออกมาได้ดี
โดยรวม Love and Monsters นับว่าเป็นหนังแนวแอคชั้น ไซไฟ เอาชีวิตรอด ที่มีประเด็นการเล่าเรื่อง และบทที่ค่อนข้างต่างจากเรื่องอื่น ๆ และชวนน่าติดตาม หนังค่อนข้างฟีลกู้ดมากกว่าที่คิด ทำให้เป็นอีกเรื่องที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดูกับครอบครัว ที่น่าสนใจอีกอย่างคือหนังมีวัตถุดิบชั้นดีที่สามารถนำไปต่อยอดในภาคต่อ หรือทำเป็นซีรีส์ ซึ่งก็ต้องมารอลุ้นว่าอนาคตเราจะได้เห็นโปรเจกต์ขยายจากหนังเรื่องนี้หรือไม่ อย่างไร
Cr. ภาพ : เว็บไซต์ IMDB
ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com
FB : รวมพลคนบันเทิง