No mercy เป็นหนังเกาหลีฟอร์มเล็ก แนวแอคชั่น ล้างแค้น พร้อมหยิบยกประเด็นสะท้อนสังคมที่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เรามักจะพบเห็นแทบทุกวัน มานำเสนอ โดยหนังจะว่าด้วยเรื่องราวของ อินเอ หญิงสาวที่พึ่งออกจากคุกจากข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งเธอนั้นก็ได้กลับมาอาศัยอยู่กับ พัคอึนเฮ น้องสาวที่สติไม่ดี
แต่ทว่าเรื่องไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้นในวันหนึ่ง เมื่อจู่ ๆ น้องสาวของ อินเอ ได้ถูกลักพาตัวไปโดยนักเรียนที่เป็นเพื่อนร่วมห้อง อินเอ เลยต้องทำหน้าที่ตามหาตัวน้องของเธอ ก่อนจะพบว่า อึนเฮ ได้ถูกส่งต่อไปยังเหล่าอาชญากร ที่ต้องการนำ อึนเฮ ไปค้าประเวณี อินเอ เลยต้องใช้ความสามารถลีลานักบู๊ จากอดีตอาชีพบอดี้การ์ดหญิง เพื่อตามหาน้องสาว และเอาคืนคนที่ทำร้ายร่างกาย และจิตใจน้องสาว ให้สาสม
หนังมาตามสูตรหนังล้างแค้นแบบ High Tension หรือ Revenge ที่เน้นดูเอามันส์ ไม่เน้นบท โดยหนังใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบ บู๊ ปนสืบสวนเล็ก ๆ ด้วยการให้ตัวละคร อินเอ ต้องคอยรวบรวมข้อมูลระหว่างทางไปเรื่อย ๆ ซึ่งในส่วนนี้ก็ถือว่าเป็นตัวที่ทำให้หนังน่าติดตาม น่าค้นหามากกว่าแค่การเป็นหนังแอคชั่นที่เอะอะก็ขายแต่ฉากบู๊เพียงอย่างเดียว
โดยในส่วนของคิวบู๊ในหน้งถือว่าทำออกมาได้พลิ้วไหว โหด ดิบ และเซ้กซี่ในเวลาเดียวกัน คิวบู๊ทำออกมาได้สนุก หลาย ๆ ฉากทำออกมาให้อารมณ์เหมือน John Wick เวอร์ชั่นผู้หญิง ซึ่งความโหดของหนังเรื่องนี้ก็อยู่ในระดับที่คนดูทั่วไปสามารถรับได้ ไม่โหดเลือดสาดแบบที่เห็นเลือดเห็นเนื้อเกินไป แค่พอได้สะใจร่วมกับตัวละคร
แต่สิ่งที่ No Mercy ทำหน้าที่ได้ดียิ่งกว่าการนำเสนอฉากแอคชั่น คือการวิพากษ์สังคมเกาหลีในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นระบบกฎหมายที่ล้าช้า และยึดติดกับระบบเกินไป การทำอนาจารเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ การบูลลี่ในโรงเรียน การค้าประเวณี และการกดขี่จากสังคมที่ชายเป็นใหญ่ สิ่งเหล่านี้คือเรื่องปใกล้ตัวที่เกิดขึ้นรอบข้างเราตลอดเวลา แม้แต่ในประเทศไทยเอง หนังเรื่องนี้ได้สะท้อนประเด็นเหล่านี้ออกมาได้อย่างตรงไปตรงมา และน่าสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับข้อเสียของ No Mercy หนึ่งในส่วนที่เห็นได้ชัดคือเรื่องของบท ที่เล่าได้ขาดมิติ ขาดน้ำหนักการกระทำของตัวละครเท่าที่ควร แม้ว่าพาร์ทการล่า การล้างแค้นจะทำได้ค่อนข้างดี แต่หนังกลับปูความสัมพันธ์ของพี่น้องได้เบาบางมาก ทำให้เมื่อเราดูแล้วไม่รู้สึกอยากเอาใจช่วย หรือมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวเอกเท่าที่ควร
ในขณะที่การดำเนินเรื่องหนังก็มาแบบสูตรสำเร็จมากเกินไป พร้อมทั้งยังไม่สามารถนำเสนอพาร์ทแอคชั่น หรือความโหด ได้สุดเท่าที่ควร ทำให้ No Mercy เลยกลายเป็นหนังครึ่ง ๆ กลาง ๆ เมื่อเทียบกับหนังแนวเดียวกันอย่าง I Saw the Devil หรือหนังแอคชั่นล้างแค้น ยุคหลังเรื่องอื่น ๆ
โดยรวม no Mercy ถือว่าเป็นอีกหนึ่งหนังแอคชั่นล้างแค้นที่เน้นเพื่อดูเอามันส์ เอาบันเทิง ที่ดีอีกเรื่อง แม้ว่าหนังจะไปไม่สุดในด้านฉากบู๊ หรือความโหดก็ตาม แต่หนังเรื่องนี้ก็ได้สะท้อนด้านมืดของสังคมเกาหลีออกมาได้ตรงไปตรงมา ใครที่ชอบหนังแนวไล่ล่า ล้างแค้นเอาสะใจ นี่เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาด
สามารถรับชม No Mercy ได้แล้ววันนี้ทาง Netflix
Cr. ภาพ: HanCinema
ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com
FB : รวมพลคนบันเทิง