การกลับมาอีกครั้งในรอบ 10 ปีของหนังไล่เชือดสุดโด่งดังแห่งยุค 90 ที่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเป็นภาคที่ 5 ของหนังชุดนี้เท่านั้น แต่ยังเป็นการนำเสนอหนังชุดนี้ผ่านตัวละครชุดใหม่ โดยหนังได้ตัว แมท แบตติเนลลิ-ออร์ฟิน และ ไทเลอร์ กิลเลต สองผู้กำกับจาก Ready or Not มารับหน้าที่กำกัแทนผู้กำกับผู้ล่วงลับ เวส คราเวน ที่อยู่คู่หนังเรื่องนี้มาตลอด 4 ภาค
ใน Scream ภาคล่าสุดนี้หนังจะพาคนดูกลับไปยังเมืองวู้ดเบอร์รี่ อีกครั้ง เมื่อฆาตกรหน้ากากผี หรือ Ghost Face ได้กลับมาอาละวาดอีกครั้ง โดยครั้งนี้มันมุ่งจะเล่นงานไปยัง แซม (เมลิสซ่า เบอร์เรร่า) และทาร่า (จีนน่า ออเทก้า) สองพี่น้องที่มีความลับบางอย่างเกี่ยวกับการการฆาตกรรมในหนังภาคแรก เพื่อหาทางหยุดยั้งการฆาตกรรมครั้งต่อไป และหาตัวจริงของฆาตกร ทำให้ผู่รอดชีวิตก่อนหน้านี้อย่าง ซิดนีย์ (เนฟ แคมป์เบล), เกล (คอร์ทนีย์ ค้อก) และ ดิวอี้ (เดวิด อาร์เควด) ต้องกลับมาร่วมไล่ล่าหาตัวฆาตกรอีกครั้ง
Scream เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งการกลับมาของหนังสยองขวัญ ที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย และยังสามารถส่งต่อความสยองจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างยอดเยี่ยม เช่นเดียวกับที่ Halloween ทำไว้ได้ก่อนหน้านี้ โดยหนังได้พาตัวเองย้อนกลับไปสู่ภาคแรกอีกครั้ง ผ่านตัวละคร และช่วงเวลาใหม่
ตัวหนังยังคงสไตล์เดิมของ Scream ทั้ง 4 ภาคก่อน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของฆาตกร ที่ยังคงใช้อาวุธดั้งเดิมอย่างมีดสั้น และมีวิธีการลงมือที่ตามสูตรต้นฉบับทั้งการแปลงเสียง การโทรศัพท์ถึงเหยื่อก่อนลงมือ นอกจากนี้หนังยังคงอ้างอิงถึงสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่ใน Scream ทุกภาคตั้งแต่การล้อเลียนตัวเองในหนังเรื่อง “Stab” รวมถึงการแซะถึงวงการฮอลีวูด และหนังสยองขวัญยุคใหม่ ที่หากใครเป็นเนิร์ดหนังสยองขวัญ หรือหนังแฟรนไชส์ ก็จะยังสนุกไปกับบทสนทนาเชิงล้อเลียนจากหนังเรื่องนี้ ที่ทำออกมาได้ดุเด็ดเผ็ดมันส์ไม่แพ้ภาคก่อน ๆ
ในด้านความสยอง Scream ภาคนี้เรียกได้ว่าโหด เลือดสาดกว่าภาคก่อน ๆ หนังมีการนำเสนอฉากการฆ่าที่สมจริง ในขณะเดียวกันตัว Ghost Face ในภาคนี้ก็โหดเหี้ยม และบ้าคลั่งแบบสุด ๆ เช่นกัน ซึ่งหนังยังสามารถนำเสนอความน่ากลัวผ่านการใช้จิตวิทยาสับขาหลอกคนดูได้อย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งการเล่นกับฉากตุ้งแช่ การเล่นกับความฉงนสงสัยของคนดู ที่ยากจะเดาได้ว่าคนร้ายตัวจริงนั้นคือใคร
อย่างไรก็ตาม Scream ก็ยังคงมีข้อด้อย ในความซ้ำซากจำเจบางอย่างของหนังแนว Slasher ทั้งคาแรคเตอร์ของนางเอก ที่ยังคงมาแนวหญิงสาวที่มีความอ่อนต่อโลก และค่อนข้างจะเป็นบทนางเอกสูตรสำเร็จที่เราเดาการกระทำได้ตลอด รวมทั้งการใช้จังหวะการหลอกซ้ำ ๆ บ่อยเกินไปจนบางครั้งมันก็หลอกคนดูไม่ได้ผล
โดยรวม Scream คืองานคืนฟอร์มที่น่าจดจำอีกครั้งของหนัง Slasher หนังยังคงสามารถนำสไตล์การเล่าของภาค 1 กลับมาใช้อีกครั้ง ได้อย่างมีชั้นเชิง และยังคงเป็นหนังที่นำหน้าคนดูได้เสมอ ใครที่โตมากับหนังชุดนี้ นี่คืออีกหนึ่งภาคที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
สามารถรับชม Scream ได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์
Cr.ภาพ: IMDB
ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com
FB : รวมพลคนบันเทิง