เวอร์ชั่นใหม่ ที่เน้นมิวสิคคัล เล่าเรื่องร่วมสมัย และจัดเต็มด้วยเพลงเพราะตลอดทั้งเรื่อง แต่กลับแป้กในด้านบท และความแปลกใหม่โดยสิ้นเชิง
นิทานปรัมปราคลาสสิก เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบยอดนิยมสำหรับฮอลีวูดที่มักจะหยิบมาสร้างเป็นหนัง ไม่ว่าจะเป็น Snow White, Hanzel & Gretel ล่าสุด Cinderella ก็ได้ถูกหยิบมาสร้างเป็นหนังอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อปี 2015 พึ่งมีเวอร์ชั่นของ Walt’s Disney ไป โดยครั้งนี้เป็นผลงานสร้างของ Sony Pictures ที่ได้ฉายลงบนสตรีมดังอย่าง Amazon Prime
ตัวเนื้อหาในเวอร์ชั่นนี้ก็ไม่ได้ต่างจากฉบับดั้งเดิม คือยังเป็นการพูดถึง เอลล่า หรือซินเดอเรลล่า (รับบทโดย คามิเลีย คาเบลโล) หญิงสาวกำพร้าที่ต้องอาศัยอยู่ในบ้านของแม่เลี้ยงใจร้าย วันหนึ่งพระราชาของเมือง(เพียช บอชแนน) ได้ประกาศที่จะจัดงานเต้นรำเพื่อคัดเลือกหญิงสาวที่จะมาเป็นคู่ครองของเจ้าชายเพื่อสืบราชวงศ์ต่อไป ด้าน เอลล่า ที่ได้พบกับเจ้าชายที่ปลอมตัวโดยบังเอิญ และได้ถูกเชิญไปยังงานเต้นรำ จนนำมาสู่เรื่องราวความรักสุดโรแมนติก
ตัวหนังในเวอร์ชั่นนี้ ได้มีการปรับเนื้อหา การนำเสนอ ให้มีความร่วมสมัยมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นคาแรคเตอร์ของ เอลล่า และเจ้าชายที่มีความเป็นวัยรุ่นแบบยุคนี้ รวมถึงเพลงประกอบที่มีการนำเพลงป้อป ที่โด่งดังในอดีต และเพลงป้อปปัจจุบันมาทำการคัฟเวอร์ใหม่ ในรูปแบบมิวสิคคัล ด้านโปรดักชั่น อาจไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการหากเทียบกับของ Disney แต่ความพิเศษของเวอร์ชั่นนี้คือการนำเสนอแบบมิวสิควีดีโอ ที่จะเน้นความสวยงามในด้านบรรยากาศ และตัวนักแสดง เรียกได้ว่าใครที่ชอบเพลงป้อปสากล ดูเรื่องนี้น่าจะเพลิดเพลินไม่น้อย
แต่กระนั้น นอกเหนือจากส่วนที่กล่าวไป หนังเรื่องนี้กลับเต็มไปด้วยข้อบกพร่องมากพอสมควร ในส่วนที่เห็นได้ชัดคือการพยายามทำให้ตัวเองเป็นมิวสิคคัลเกินไป จนลืมสนใจบทของหนัง ทำให้หนังที่เต็มไปด้วยเพลงเพราะ แต่ตัวละครกลับไร้มิติ และน้ำหนัดของการกระทำ หลาย ๆ ช่วงที่เป็น Conflict (ความขัดแย้ง) ของเรื่อง หนังก็ใช้เพลงแทรกในการเล่าเรื่อง ก่อนที่สุดท้ายปมเหล่านั้นก็ถูกเคลียร์ลงอย่างง่ายดาย ไร้เหตุผล
นอกจากนี้ หากย้อนดูเวอร์ชั่นของ Disney ที่ว่าโลกสวยแล้ว ในเวอร์ชั่นนี้กลับโลกสวยยิ่งกว่า ตัวละครทุกตัวในเรื่องมีความใจดี ความเอ็นดู รวมทั้งด้านอุปสรรคของตัวละคร ก็ดูแทบจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่ทุกอย่างคลี่คลายได้โดยง่ายจนไม่สมเหตุสมผล จนหนังแทบจะไร้แก่นสารใด ๆ นอกไปจากการร้องเพลง
ด้านการแสดงของ คามิลา คาเบลโล ที่ประเดิมงานแสดงครั้งแรก ก็ถ่ายทอดบทบาทออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร แม้ว่าเธอจะสามารถนำเสนอความน่ารัก สดใส ของเอลล่า ออกมาได้มีชีวิตชีวา และมีเสียงร้องที่ไพเราะมาก ๆ ก็ตาม ในด้านด้านพาร์ทอารมณ์ เธอกลับถ่ายทอดออกมาดูประดิษฐ์เกินไป จนไม่เป็นธรรมชาติ ในขณะที่บทของ เพียช บอชแนน ที่ดูน่าจะมืออาชีพสุดในเรื่อง หนังก็ให้พื้นที่ของตัวละครนี้เพียงน้อยนิด พร้อมทั้งยังไม่สามารถใช้ความสามารถด้านการแสดงของ บอชแนน ได้เต็มที่ เลยเป็นอีกส่วนที่ดูแล้วเสียดายของมาก ๆ ในหนังเรื่องนี้
โดยรวม Cinderella เวอร์ชั่น 2021 เรียกได้ว่าเป็นผลงานที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่ หรือแตกต่างไปจากเวอร์ชั่นก่อน ๆ สิ่งเดียวที่หนังทำได้ดีคือการรวมคนเสียงดี และคณะนักร้องประสานเสียง มาทำหน้าที่ขับร้องเพลงในเรื่อง (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพลงที่เราคุ้นหู) มาคัฟเวอร์ เพิ่มความไพเราะขึ้นกว่าเดิม แต่ในด้านคุณค่า หรือเนื้อหาสาระกลับแทบไม่มีอะไรให้น่าค้นหา
สามารถรับชม Cinderella ได้แล้ววันนี้ที่ Amazon Prime
Cr.ภาพ : Rotten Tomatoes
ติดตามบทความ ซีรีส์-หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com
FB : รวมพลคนบันเทิง