อีสเตอร์ที่ใส่มาแบบจัดเต็ม แต่เสียดายที่หนังขาดความลึกซึ้งในการเล่าเรื่องชีวิตของตัวละครออกมาให้น่าจดจำชีวิตของตัวละครออกมาให้น่าจดจำ
เชื่อว่าใครที่เป็นคอหนัง หรือนักอ่านนิยายคงไม่มีใครไม่รู้จัก Lord of the Rings วรรณกรรมคลาสสิกที่สร้างแรงบันดาลใจ และอิทธิพลไปทั่วโลกจนถูกหยิบมาสร้างเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ และกำลังจะมีซีรีส์ฟอร์มยักษ์ในปีหน้า สำหรับ Tolkien คือหนังที่ว่าด้วยชีวประวัติของ เจ อาร์ อาร์ โทลคีน ผู้ประพันธ์หนังสือเรื่องดังกล่าว ที่จะพาทุกคนย้อนไปยังชีวิตในสมัยเด็กของเขา ไปจนถึงช่วงเวลาที่เป็นวัยรุ่น และได้ไปร่วมรบในสงครามโลก จนเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตของเขาก็ได้ทำให้ โทลคีน นำมันไปสร้างเป็นเรื่องราวการผจญภัยของเหล่าฮอบบิท และพันธมิตรแห่งแหวนที่กลายเป็นตำนานมาจนทุกวันนี้
Tolkien เรียกได้ว่ามาตามสูตรสำเร็จของหนังชีวประวัติ ด้วยการพาคนดูไปทำความรู้จักชีวิตของตัวผู้ที่ถูกนำมาเล่าอย่างละเอียด หนังมีการวางปมชีวิตตัวละครที่น่าติดตาม เริ่มจากการพูดถึงชีวิตในวัยเด็กของโทลคีน ที่แม่ชอบเล่านิทานก่อนนอนให้เขาและน้องฟังทุกวัน จนเขาต้องกลายมาเป็นเด็กกำพร้าหลังจากสูญเสียแม่ จนทำให้ โทลคีน กลายเป็นคนที่มีต้นทุนชีวิตน้อยกว่าคนอื่น ด้วยการนำเสนอปมชีวิตเป็นจุดเริ่มต้น ทำให้คนดูอยากเอาใจช่วยไปกับตัวละครนี้ตั้งแต่แรกเห็น นอกจากนี้หนังยังเล่าเรื่องแบบตัดสลับฉาก ระหว่างสองเส้นเรื่องคือเหตุการณ์ช่วงที่ โทลคีน ไปร่วมสงคราม และเส้นเรื่องหลักที่เป็นเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งทำให้หนังดูสนุก มีสีสัน ให้ได้ติดตามว่าทั้งสองเส้นเรื่องเชื่อมโยงกันอย่างไร
และด้วยความที่เป็นหนังที่ว่าด้วยชีวประวัติของคนแต่ง Lord of the Rings อีกหนึ่งความสนุกของหนังชุดนี้ ที่น่าจะถูกใจแฟนนิยายของโทลคีนเป็นอย่างยิ่งคือการใส่อีสเตอร์เอ้ก หรือการใส่สัญลักษณ์จากนิยาย เข้ามาสอดแทรกให้เห็นตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งงานโปรดักชั่นของหนัง ก็ทำออกมาเพื่อเคารพต่อตัวหนังของ ปีเตอร์ แจ็คสัน อยู่เช่นกัน ทำให้นอกจากการที่หนังเรื่องนี้จะพยายามเชิดชูตัว โทลคีนแล้ว นี่ยังเป็นหนังที่ทำมาเพื่อสรรเสริญการผจญภัยอันยิ่งใหญ่ของผลงานของเขาชุดนี้อีกด้วย
ส่วนที่น่าเสียดายของ โทลคีน คือการใช้ประโยชน์จากความเป็นหนังชีวประวัติของผู้สร้าง Lord of the Rings ได้ไม่คุ้มค่าเท่าที่ควร ตัวหนังค่อนข้างหนักไปที่ชีวิตช่วงวัยรุ่นของเขา ซึ่งเป็นช่วงที่เขาได้พบกับเพื่อน ๆ ที่สนิทกัน จนเกิดเป็นแก๊งดื่มน้ำชา และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องวรรณกรรม ศิลปะ และดนตรี รวมทั้งยังเป็นช่วงที่ โทลคีน ได้พบรักกับ อีดิท คู่ชีวิตของเขาอีกด้วย โดยหนังก็หนักเนื้อหาไปในส่วนดังกล่าว คือการเป็นหนังชีวิตวัยรุ่น ที่มีดราม่า เคล้าโรแมนติก แต่ทว่าหนังกลับให้พื้นที่กับพรสวรรค์ด้านวรรณกรรม และภาษาของเขาน้อยเกินไป ทำให้ใครที่หวังจะได้เห็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานอันโด่งดังของ โทลคีน อาจต้องผิดหวังเพราะหนังแตะต้องมันเพียงน้อยนิดช่วงท้าย ๆ เท่านั้น
ในด้านการแสดง ทีมนักแสดงนำในเรื่องนี้ค่อนข้างทำออกมาได้ดีสมบทบาท นิโคลัส ฮอลท์ สามารถสวมบทบาทเป็น โทลคีน ที่มีเสน่ห์ และบุคลิกที่น่าหลงใหล น่าค้นหา ในขณะที่ ลิลลี่ คอลลิน ในเรื่องนี้ก็ยังถ่ายทอดบทนางเอกของเรื่อง ได้อย่างงดงาม เคมีการแสดงของเธอ และ ฮอลท์ สามารถทำให้คนดูเชื่อ และรู้สึกร่วมไปกับความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งสองได้เป็นอย่างดี
โดยรวม Tolkien เป็นหนังที่แฟนนิยาย และหนังชุด Lord of the Rings น่าจะชื่นชอบไม่น้อย เพราะนี่เป็นหนังที่ทำออกมาเพื่อทั้งเชิดชูตัวผู้สร้าง และสรรเสริญผลงานของเขา ตลอดทั้งเรื่องคนดูจะได้เห็นอีสเตอร์เอ้ก และสัญลักษณ์จากผลงานชุดนี้มาให้เซอร์ไพรส์กันแบบจุใจ แต่หากใครที่หวังดูเพื่ออยากรู้แรงบันดาลใจของโทลคีน ที่แต่งนิยายชุดนี้อาจต้องผิดหวังพอสมควร เพราะหนังหนักไปที่ชีวิตบางช่วง และความคิด ความสามารถของ โทลคีนเท่านั้น หาได้เป็นหนังที่โฟกัสไปที่ชีวิตของเขาและนิยายชุดนี้แต่อย่างใด
สามารถรับชม Tolkien ได้แล้ววันนี้ที่ Disney+ Hotstar
Cr.ภาพ : IMDB