เตรียมพบ ภูมิ-กานต์ ประกบคู่ครั้งแรกใน ละครมนตราตะเกียงแก้ว ช่อง 7HD

ละครมนตราตะเกียงแก้ว ช่อง 7HD “ภูมิ-กานต์” ประกบคู่ครั้งแรก

ละครมนตราตะเกียงแก้ว ทางช่อง 7HD เรื่องราวความรักโรแมนติกและฉากแฟนตาซีในเมืองแห่งเวทมนตร์

สำหรับทางฝั่งละครรักโรแมนติกแฟนตาซีในช่วงนี้ต้องมอบให้กับ ละครมนตราตะเกียงแก้ว ที่ผลิตโดย บริษัท ดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด เขียนบทโดย ชมนาด และผลงานการกำกับของ แดง บูรพา จากบทประพันธ์ โสภี พรรณราย ซึ่งเป็นการโคจรมาพบกันครั้งแรกของคู่พระนาง ภูมิ – เกียรติภูมิ บันลือชัยฤทธิ์ ในบทพ่อมดหนุ่ม กับนางเอกน้องใหม่อย่าง กานต์ – ณัฐชา รัตน์ชยางคานนท์ ที่รับบทเป็น เรนี่ สาวลูกครึ่งมนุษย์และแม่มด

นอกจากนี้ก็ยังมีนักแสดงหน้าใหม่ของทางช่อง 7HD อย่าง เฌอ – เฌอลีนน์ สตาฟฟี่ และ ตรัย – จักรภัทร อังศุธนมาลี พร้อมนักแสดงมากฝีมือที่เป็นตำนานอย่าง แม่มดทาฮิร่า ที่รับบทโดย ดวงดาว จารุจินดา เจ้าของแมวดำชิกเก้นสุดน่ารักที่จะกลับมาสร้างสีสันให้เหล่าแฟนๆ กันอีกเช่นเคย และยังรวมดาราอีกมากมายมาสร้างความสนุกให้ชมกัน อาทิ นวพล ภูวดล, ธัญสินี พรมสุทธิ์, บัณฑิตา ฐานวิเศษ, อิงฟ้า เกตุคำ, อัครัช จิตตะศิริ

ละครมนตราตะเกียงแก้ว ช่อง 7HD “ภูมิ-กานต์” ประกบคู่ครั้งแรก

เตรียมพบเรื่องราวความรักโรแมนติกและฉากแฟนตาซีในเมืองแห่งเวทมนตร์กับการใช้ CG สุดอลังการงานสร้าง ซึ่งจะขนทัพจัดเต็มกันชุดใหญ่ทั้งเหล่าพ่อมดแม่มด ที่สวยงามอลังการจัดเต็มตั้งแต่เครื่องแต่งกายนักแสดงยันฉากต่างๆ ให้ทุกคนได้สนุกไปกับ ละครมนตราตะเกียงแก้ว จากเรื่องราวสุดวุ่นวายในโลกเวทมนตร์ที่ถึงคราวจะดับสิ้นเพราะแม่มดฝ่ายดำ ดังนั้นมีเพียงพลังจากตะเกียงแก้วเท่านั้นที่จะช่วยได้

แต่ทว่าตะเกียงแก้วกลับไปอยู่กับสาว เรนี่ ลูกครึ่งมนุษย์แม่มด ( รับบทโดยกานต์ ณัฐชา ) สาวน้อยผู้ที่เติบโตมาในครอบครัวมนุษย์ หน้าที่ในการออกตามหาจึงต้องตกเป็นของ วิล พ่อมดหนุ่มผู้เก่งกาจ ( รับบทโดยภูมิ เกียรติภูมิ ) ที่จะต้องตามหาเธอเพื่อให้ได้คำตอบ เมื่อความใกล้ชิดก่อเกิดเป็นความรัก แต่พลังมนตร์ดำที่แฝงอยู่ในตัวเธอกลับเป็นอุปสรรค งานนี้เมืองเวทมนตร์จะพ้นจากเงื้อมมือแม่มดผู้ชั่วร้ายหรือไม่ แล้ววิลจะช่วยให้เรนี่กลับมาเป็นแม่มดสาวแสนดีได้หรือไม่นั้น ก็ต้องติดตามในละครมนตราตะเกียงแก้ว ทางช่อง 7HD

ละครมนตราตะเกียงแก้ว ช่อง 7HD “ภูมิ-กานต์” ประกบคู่ครั้งแรก

และนี่ก็คือข่าวสารและความบันเทิงที่เราได้นำมาฝากแฟนๆ ชาวละครในวันนี้ โดยสามารถติดตามความสนุกสนาน และเรื่องราวความรักความแฟนตาซีตระการตาครบรสได้ในละครมนตราตะเกียงแก้ว หลังจบข่าวภาคค่ำ ได้ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 18.45 น. ซึ่งจะเริ่มออกอากาศตอนแรกในวันพุธที่ 27 กันยายนนี้ ทางช่อง 7HD ใครที่ดูในทีวีให้กดช่อง 35 ส่วนการดูสดออนไลน์สามารถดูได้ทาง BUGABOO.TV และช่องทางออนไลน์อื่นๆ อาทิ Facebook, IG, X ( Twitter ), TikTok, YouTube: Ch7HD หรือเว็บไซต์ www.ch7.com

รูปภาพประกอบ : ch7.com
รูปภาพประกอบ : sanook.com

ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง 

เปิดประเด็นร้อน ลิซ่า BLACKPINK กับข่าวลือ ไม่ต่อสัญญาค่าย YG Entertainment

เปิดประเด็นร้อน ลิซ่า BLACKPINK กับข่าวลือ ไม่ต่อสัญญาค่าย YG Entertainment

สำหรับนักร้องสาวสายเลือดไทยแท้อย่าง ลิซ่า BLACKPINK หนึ่งในสมาชิกวง BLACKPINK ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้โดยมีข่าวลือว่าลิซ่าปฏิเสธการต่อสัญญากับค่ายต้นสังกัด YG Entertainment มูลค่าสูงถึง 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 1.4 พันล้านบาท ซึ่งทำให้ตอนนี้หลายๆ ฝ่ายรวมถึงเหล่าแฟนคลับต่างจับตามองกันเป็นแถบๆ และดูเหมือนว่ายังมีข่าวลืออีกหลายระลอกออกมาให้คาดการณ์กันไป และทุกคนก็หวั่นๆ กันว่ากระแสข่าวลือที่ออกมานี้ ไม่แน่ว่าอาจจะกลายเป็นเรื่องจริงก็เป็นได้

เมื่อไม่นานมานี้สาว ลิซ่า BLACKPINK ได้อวดหุ่นแซ่บในชุดบิกินี่ตัวจิ๋ว พร้อมทั้งมีข่าวออกเดทกับหนุ่ม เฟรเดอริก อาร์โนลด์ มหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลก ทายาทธุรกิจในเครือ LVMH นอกจากนี้ ลิซ่า เองยังได้ยังได้ประกาศว่าจะเข้าร่วมแสดงโชว์ระบำเปลื้องผ้ากับคาบาเร่ต์ในสไตล์ปารีเซียง “Crazy Horse Paris” (Le Crazy Horse Saloon หรือ Le Crazy Horse de Paris) ซึ่ง ลิซ่า ถือเป็นศิลปิน K – POP คนแรกที่ได้ขึ้นแสดงโชว์นี้อีกด้วย

สำหรับเหตุผลที่หลายคนคาดการณ์ว่านี่อาจทำให้ ลิซ่า ไม่ต่อสัญญาค่ายนั้นมีหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการถูกเอาเปรียบและถูกเลือกปฏิบัติ ซึ่งช่วงแรกที่ได้เดบิวต์ก็มีแฟนคลับเกาหลีบางส่วนเรียกร้องให้เธอออกจากวงเพราะเธอเป็นคนไทย ทั้งยังมีข่าวแอนตี้ว่าร้ายและคอยแซะมากมาย รวมถึงขณะที่เดินสายโปรโมทอยู่นั้น เธอยังถูกแฟนๆ บางส่วนหมางเมินและถูกนักข่าวเดินชนอีกด้วย

แม้ว่าปัจจุบัน ลิซ่า BLACKPINK จะโด่งดังไปทั่วโลก จนมียอดฟอลไอจีถึง 97.7 ล้าน และยังเป็นผู้ทรงอิทธิพลทั้งในวงการเพลงและวงการแฟชั่นต่างๆ แล้ว แต่ดูเหมือนว่ารายได้ของเธอจะถูกกดให้น้อยกว่าเพื่อนๆ ร่วมวงคนอื่นๆ เนื่องด้วยกฎหมายเรตค่าตัวของคนต่างชาติ

จากผลงานความสำเร็จในอัลบั้ม “LALISA” ที่สามารถคว้ารางวัลใหญ่บนเวที “Best K-Pop Award 2022 แต่ ลิซ่า มีโอกาสโปรโมทเพลงเดี่ยวเพียงแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น นอกจากนี้เธอยังเคยถูกอดีตผู้จัดการโกงเงินกว่า 1 พันล้านวอน หรือราวๆ 26 ล้านบาทอีกด้วย ซึ่งเหล่าแฟนคลับที่เป็นเมนของ ลิซ่า นั้นต่างรู้กันดี และนี่ทำให้หลายคนมองว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เป็นธรรมกับเธอ และอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอตัดสินใจไม่ต่อสัญญาก็ได้

แต่อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น ซึ่งก็คงต้องรอความชัดเจนจากปากสาว ลิซ่า BLACKPINK กันอีกครั้งและไม่ว่า ลิซ่า จะต่อสัญญาหรือไม่ ก็ขอให้แฟนคลับทุกคนเคารพในการตัดสินใจของเธอ เพราะตลอด 7 ปีที่ผ่านมานั้นสาว ลิซ่า ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเธอคือหนึ่งในศิลปินชาวไทย ที่สร้างความภาคภูมิใจแก่คนไทย และสามารถโลดแล่นบนเวทีระดับโลกได้อย่างคู่ควรไร้ที่ติ

รูปภาพประกอบ : dudeplace.co

รูปภาพประกอบ : posttoday.com

รูปภาพประกอบ : tnews.co.th

ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง 

N GAMES ไม่ใช่ END GAME ก้าวที่เอาจริงของ NETFLIX กับการรุกตลาดเกมบนมือถือ

N GAMES ไม่ใช่ END GAME ก้าวที่เอาจริงของ NETFLIX กับการรุกตลาดเกมบนมือถือ

เมื่อปีที่แล้วมีข่าวว่า NETFLIX อยากทำเกมบนมือถือ ในตอนนั้นใครๆก็คิดว่าสร้างกระแส หรือต้องการทำปรากฏการณ์บางอย่าง

เพราะว่างานหลักธุรกิจใหญ่ของ NETFLIX คือให้บริการสตรีมมิ่งหนังและซีรีส์จากทั่วโลกให้กับคนทั่วโลกเช่นกัน ไม่ได้มีอะไรกับวงการเกมเลย

น่าจะเหมือนกับค่ายแอพหาคู่ชื่อดัง Tinder ที่เพิ่มยอดคนใช้งานได้เป็นล้านๆคนผ่านการทำอินเตอร์แอ็คทีพเกมที่พูดถึงวันสิ้นโลกว่าแต่ละคนจะเลือกจุดจบอย่างไร ประโยชน์ของคนใช้ไม่เท่าไหร่ แต่เรียกแขกได้จำนวนมากทีเดียว หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรต่อเป็นเรื่องเป็นราว

เกมบน NETFLIX

พอต้นปี 2021 NETFLIX ได้หอบเงินไปจ้างบริษัททำเกมชื่อ studio BonusXP แล้วก็นำเกมที่สำเร็จแล้วไปเริ่มทดสอบกับสมาชิก NETFLIX ในประเทศโปแลนด์ เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา (อาจจะเพราะประชาชนโปแลนด์อาจจะไม่ค่อยขิงเหมือนอย่างบางประเทศมั้ง (-_-))

แต่อีกสองวันถัดมา วันที่ 28 กันยายน NETFLIX ก็ประกาศว่าได้เข้าซื้อบริษัทผลิตเกมขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กอย่าง Night School Studio เรียบร้อยแล้ว

โดยที่ Night School Studio เป็นสตูดิโอที่มีชื่อเสียงจากการผลิตเกมแนวผจญภัยบวกแก้ไขปริศนา (Puzzle) ที่มีเรื่องราวยาวเป็นหนัง เรียกว่าเข้าทางของ NETFLIX ที่หากว่าจะมีเกมที่ทำจากหนังอย่างต่อเนื่องก็คงต้องหาทีมงานแบบนี้เข้ามาในเครือข่าย

ตอนนั้นหลายๆค่ายก็เริ่มรู้แล้วว่า ท่าทาง NETFLIX จะไม่ได้ทำแค่อีเว้นท์

Night School เป็นของ NETFLIX

มาชัดเจนเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา NETFLIX เปิดตัว NETFLIX GAMES ที่เป็นเหมือนแผนกที่จะทำงานด้านเกมมือถือเป็นหลัก

เกมแข่งขันเรียกยอด Subscriber

ปัจจุบันการแข่งขันตลาดวีดีโอสตรีมมิ่งค่อนข้างตึงเครียดทีเดียว เมื่อผู้เล่นทั้งเก่าใหม่กระโดดเข้าสู่สนามเดียวกันแล้ว โดยมียักษ์ใหญ่อย่าง Disney ที่ส่ง Disney+ เข้าประกวด แม้ว่าจะตามหลังทุกๆค่ายแต่การเติบโตของ Disney+ นั้นน่ากลัวทีเดียว (ยังไม่นับรวมแอพพลิเคชั่นจากจีนสองสามค่ายที่มีตัวเลขผู้ใช้งานหลักร้อยล้านกันทั้งนั้น)

เกมที่ดุเดือด NETFLIX คิดจะใช้ “เกม” เพื่อชิงความได้เปรียบ

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า NETFLIX ต้องการดึงผู้ใช้ให้อยู่กับตัวเองให้มากที่สุดด้วยการส่งคอนเท้นท์ความบันเทิงในทุกรูปแบบให้กับสมาชิก รวมไปถึงการผลิตเกมมือถือ ที่สามารถเล่นได้เฉพาะสมาชิก NETFLIX เท่านั้น

วันที่ 3 พฤศจิกายนเป็นต้นไป สมาชิก NETFLIX ทั่วโลกที่ใช้งานระบบAndriod จะสามารถดาวน์โหลดเกม 5 ตัวต่อไปนี้ผ่าน Play Store ไปเล่นได้ฟรีๆ โดยที่ไม่ว่าสิทธิใช้งานมีอยู่กี่เครื่องทุกเครื่องก็จะสามารถดาวน์โหลดไปเล่นได้หมดในแบบออฟไลน์

เกมของ NETFLIX

ได้แก่ Stranger Things: 1984, Stranger Things 3: The Game, Shooting Hoops, Card Blast และ Teeter Up

ส่วนคนที่ใช้ IPhone ยังต้องรอไปก่อนเนื่องจากระบบยังเข้ากันไม่ได้ ซึ่งคาดว่าคงอีกไม่นานก็คงให้บริการได้แน่นอน

NETFLIX GAMES ประกาศเอาไว้ว่า นี่เป็นการเริ่มต้น เป็นก้าวแรก และจะก้าวต่อไปแน่นอน รอพบเกมใหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าได้เลย!

ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง 

ทอม ฮอลแลนด์ เผยเหตุหลุด

ทอม ฮอลแลนด์ เผยเหตุหลุด

เผยเหตุหลุดจากการทดสอบบท ฟินน์ ใน Star Wars แบบหมอไม่รับเย็บ

อันที่จริง ทอม ฮอลแลนด์ เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าเขาสนใจที่จะร่วมเล่นใน Star Wars และเคยไปออดิชั่น แต่ผลคือไม่ผ่าน สิ่งที่เราไม่เคยรู้ก็คือรายละเอียดของมัน วันนี้เราได้รู้แล้วเมื่อทอมมาชยายความให้ฟังผ่านการให้สัมภาษณ์ทาง Hot Ones รายการวาไรตี้ที่เชิญดารามากินเผ็ดแล้วสัมภาษณ์ไปพร้อมๆกัน

ทอมเคยให้สัมภาษณ์ไว้หลายปีก่อนเมื่อตอนที่ Home Coming หนังภาคแรกของ Spider-Man ในเวอร์ชั่นของเขาว่า เขาเป็นแฟนคนหนึ่งของ Star Wars ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ดูภาคต้นฉบับทั้งสามภาคของปี 1977-1983 แต่หลังจากนั้นในภาค Prequel (ก่อน) กับ Sequel (หลัง) อีกสองภาคเขาได้ดูทั้งหมด (ในเวลาที่ให้สัมภาษณ์ปี 2017)

จึงไม่แปลกที่ ทอม ฮอลแลนด์จะเป็นหนึ่งในนักแสดงที่อยากมีส่วนร่วมกับภาพยนตร์ที่ชื่นชอบเป็นการส่วนตัว และในปี 2014 ทอมเคยเข้าร่วมออดิชั่นเพื่อรับบทสำคัญใน Star Wars: The Force Awakens แต่ว่าเขาก็พลาดไปในครั้งนั้น  ซึ่งต่อมาไม่นานนักหลังจากนั้นในปี 2015 ทอมก็ได้ออดิชั่นในบท Spider-Man และเป็นผู้ได้รับเลือก เรื่องนี้ทอมเคยเปิดเผยเอาไว้แล้ว แต่ว่าไม่มีใครรู้รายละเอียดเท่าไหร่

แต่ในรายการ  Hot Ones มีอยู่ช่วงหนึ่งที่พิธิกรถามทอมว่าได้ยินว่ามีเรื่องที่เขาไม่ผ่านการออดิชั่น StarWars เพราะว่าควบคุมการหัวเราะไม่ได้

ทอม ฮอลลแลนด์ตอบว่า  “จริงครับ” แล้วก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในการออดิชั่นบท ฟินน์  บทนำที่สำคัญใน Star Wars: The Force Awakens

ก่อนอื่น ทอมแสดงความเห็นที่น่ารัก สุภาพและระมัดระวังมาก โดยบอกว่าเขาไม่คิดว่าเพราะว่าเหตุการณ์นั้น (ที่เขากลั้นหัวเราะไม่ได้) ทำให้เขาไม่ได้บท ฟินน์ เพราะว่าในท้ายที่สุดแล้ว จอห์น โบเยก้า ยังไงก็เป็นคนที่เหมาะสมกับบท ฟินน์ มากกว่าเขาอยู่ดี

ในตอนนั้นทอมต้องต่อบทกับนักแสดงสาวคนหนึ่งที่รับบทเป็นแอนดรอยด์ ในขณะที่ทอมตะโกนว่า “เราต้องกลับไปที่ยานเดี๋ยวนี้” แต่ในทันทีนั้นผู้หญิงที่อยู่ตรงข้ามก็กำลังพยายามเข้าบทการเป็นหุ่นยนต์อย่างจริงจังมาก แล้วเธอก็เริ่มตอบเป็นเสียงหุ่นยนต์ที่ไม่เป็นภาษาคน “ปี้ ดิ๊บ ปี๊ ดิบ ปิบ ปิบ ปิบ”

และในวินาทีนั้น ทอมที่เป็นมนุษย์หลุดขำได้ง่าย รู้สึกว่าความจริงจังของนักแสดงร่วมกับเสียงที่เธอปล่อยออกมากระตุ้นต่อมฮาของเขาพอดี ทำให้เขาชำออกมา แม้ว่าทอมจะบอกว่า “เรามาเริ่มต้นกันอีกทีเถอะ” แต่สาวน้อยคนนั้นก็ยังคงอินอยู่ในบทแอนดรอยด์และตอบเขาด้วยเสียงประหลาดอย่างเดิม นั่นก็คือตอนที่เขาหยุดหัวเราะอีกไม่ได้เลย

แน่นอนว่าการคัดเลือกตัวนักแสดงไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการแสดงเพียงอย่างเดียว  เพราะในปี 2014 ทอมมีร่างกายผอมบางมากโตจากในบทลูกชายของบ้านที่ประสบภัยใน The Impossible ในปี 2012 ไม่เท่าไหร่ จะไปเป็นนักรบในจักรวาล Star Wars ก่อนที่เขาจะฟิตหุ่นมาออดิชั่นเป็น Spider-Man ในปี 2015 ได้สำเร็จ

แต่นี่อาจเป็นเรื่องดีก็ได้เพราะถ้าคิดอีกที ถ้าเกิดเสีย Spider-Man ของ ทอม ฮอลแลนด์ ให้กับ Star Wars ไปละก็น่าเสียดายแย่เลย

ติดตามบทความ บันเทิง ดารา-นักร้อง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง

ทอม ฮอลแลนด์ “บ้ง”

ทอม ฮอลแลนด์

ส่งท้ายก่อนหนัง Spider-Man: No Way Home ออกฉาย

วันที่ได้อ่านบทความนี้คุณน่าจะได้ทราบแน่ชัดไปแล้วว่า Spider-Man: No Way Home มีสองสไปดี้รุ่นพี่ โทบี้และแอนดรู มาร่วมแจมหรือเปล่า  ไม่ว่าจะด้วยการดูเองหรือดูสปอยล์ แต่งานนี้เราไม่มีสปอยล์ มีแต่ความ “บ้ง” ส่งท้ายของ ทอม ฮอลแลนด์มาฝาก

ไม่รู้ว่าทีมงาน Marvel คิดยังไงแต่ก่อนที่รอบปฐมทัศน์วันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ในคืนเดียวกันก่อนหน้าฉายรอบแรกไม่กี่ชั่วโมง ทีมงานยังปล่อยสี่นักแสดงนำ ทอม ฮอลแลนด์, เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์, เซนดาญ่า และ เจคอป เบทาลอน ไปออกรายการสดของ จิมมี่ คิมเมล ที่เป็นหนึ่งในรายการไลฟ์ยอดนิยมทางทีวี ที่ตัวพิธีกรเป็นนักพูดนักแสดงตลกฝีปากคมกริบ ที่แค่บอกชื่อรู้แล้วว่า รอดยาก โดยเฉพาะทอม!

และเป็นไปตามคาด หลังจากจิมมี่พาวนไปมาสักครู่ ก็ยิงคำถามแรกเกี่ยวกับเทรลเลอร์ Spider-Man: No Way Home เจ้าปัญหาเวอร์ชั่นที่บราซิล ในฉากที่ เดอะ ลิซาร์ด กระโจนไปกลางอากาศ พร้อมๆกับเหล่าร้ายทั้งแก็งค์เข้าหา Spider-Man แล้วอีกไม่กี่วินาทีถัดมา หน้าของ เดอะ ลิซาร์ด ก็หันกลับไปอีกทางเหมือนถูกต่อยจากบางสิ่งที่มองไม่เห็น

พวกรุ่นเด็กแทบจะรับมือไม่ทัน ตอบว่าเป็นเพราะก้อนหินบ้าง นกบ้าง แต่เบเนดิกต์ที่เก๋าเกมที่สุดบอกว่า “มันต้องเป็นเพราะ เดอะลิซาร์ด ทนกลิ่นเต่าตัวเองไม่ไหวแลยต้องเบือนหน้าหนี” เรียกเสียงเฮฮาไปรอบหนึ่ง

จากนั้นจิมมี่ก็เริ่มถามเกี่ยวกับนักแสดงเหล่าร้ายจากภาคเก่าๆที่มาปรากฏตัวใน No Way Home อย่าง อัลเฟรด โมลินา, วิลเล็ม แดโฟร์ และคนอื่นๆ ทอมได้เจอกับพวกเขาหรือเปล่า

ทอมตอบแบบใสๆไปว่า  “แน่นอนว่าต้องเจอกัน เราถ่ายหนังเรื่องเดียวกันนี่นา”

จิมมี่บอกว่าเขาไม่แน่ใจหรอก เพราะว่ามันอาจจะเป็นคอมพิวเตอร์กราฟฟิคแล้วเอาแค่หัวมาก็ได้ ดังนั้นทอมจึงเล่าเรื่องในกองถ่ายระหว่างเขากับอัลเฟรด แต่หลังจากเม้าท์แบบหัวเราะกันขำๆอยู่ดีๆ

จู่ๆ จิมมี่ ก็มองไปที่ ทอม พูดขึงขังออกมาว่า

“โทบี้ แมคไกว และ แอนดรู การ์ฟิลด์ ว่ามา”

เท่านั้นเองนักแสดงทั้งหมดก็หัวเราะกันออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ ทั้งห้องส่งก็กรีดกร๊าดฮาเฮกันใหญ่ ตัวทอม ฮอลแลนด์ก็หน้าแดงตบมือแก้เก้อไปด้วยแบบทำตัวไม่ถูกอย่างเห็นได้ชัด

ครั้งนี้ไม่มีใครช่วยได้ ทอม ตอบด้วยตัวเองว่า เขายอมรับว่า “ผมเคยเจอพวกเขาในงานปาร์ตี้…”

จิมมี่ก็ต่อให้ด้วยความว่องไวว่า “ปาร์ตี้ปิดกล้องเหรอ?” ทำให้คนทั้งห้องส่งหัวเราะกันดังลั่น นักแสดงทั้งสี่ก็ขำกันท้องแข็ง ครั้งนี้เบเนดิกซ์ถึงกับตบมือให้กับจิมมี่ให้กับจังหวะยิงสอยร่วงแบบนี้

ทอมบอกว่า “ไม่รอดูกันอีกหน่อยเหรอ เดี๋ยวรอบปฐมทัศน์ก็จะฉายอยู่แล้ว”

จิมมี่จึงว่า “นี่เป็นหน้าที่รับผิดชอบของผม ผมถามแทนคนที่อยู่ที่นี่ แล้วก็ พลังอันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง” ก็อปม็อตโต้ของสไปเดอร์แมนมาตอบโต้

ทำให้ทอม ฮอลแลนด์ต้องตอบแบบทำหน้าจริงจังสุดๆว่า “คุณรู้มั้ยมันบ้ามากเลย เร็วๆนี้ ผมเจอแอนดรูในงานปาร์ตี้แห่งหนึ่ง แล้วก็พอไปอีกงานปาร์ตี้อีกแห่ง ก็เจอโทบี้ที่นั่น มันบังเอิญมากๆ บังเอิญเป็นบ้าแบบนี้ที่จริงน่าจะมีใครถ่ายเอาไว้”

ในที่สุดจิมมีก็ยอมปล่อยทอมไปจากประเด็นนี้ ไปสู่ประเด็นอื่นๆ

ทอม ฮอลแลนด์ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในจอมหลุด ทั้งหลุดขำ หลุดสปอยล์มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา  ถึงแม้ว่ารอบนี้ทอมยังไม่หลุดอะไรออกมาเกี่ยวกับ No Way Home แต่ปฏิกิริยาพังสุดๆของทอมตอนขึ้นเวทีกับจิมมีนั้น ใครได้ดูก็ต้องบอกว่าแทบจะไปต่อไม่ไหว

ไม่รู้ว่าทั้งหมดแป็นพราะทอม ฮอลแลนด์พังเอง หรือว่าเพราะว่าความลับมันคับอกกันแน่ คิดว่าทุกคนกำลังจะได้รู้ หรืออาจจะได้รู้กันหมดไปแล้ว

ติดตามบทความ บันเทิง ดารา-นักร้อง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง

โปรเจกต์เรื่องถัดไปของ คริสโตเฟอร์ โนแลน

คริสโตเฟอร์ โนแลน

ย้ายบ้านจาก Warner Bros. มาเป็น Universal แทน โดยหนังจะว่าด้วยชีวประวัติของนักฟิสิกส์ผู้พัฒนาระเบิดปรมาณู

เรียกได้ว่าเป็นข่าวที่คอหนังต่างพูดถึงกันเยอะมากในช่วงสัปดาห์ที่่ผ่านมา สำหรับผลงานหนังเรื่องถัดไปของ คริสโตเฟอร์ โนแลน (The Dark Knight, Tenet) ที่ครั้งนี้เขาได้ย้ายบ้านจาก Warner Bros. มาทำหนังให้กับค่าย Universal แทน พร้อมทั้งโปรเจกต์นี้ก็เป็นหนังชีวประวัติเรื่องแรกของเขาอีกด้วย

โดยผลงานกำกับเรื่องถัดไปของ โนแลน จะเป็นหนังที่ว่าด้วยชีวประวัติของ เจ. โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์ นักฟิสิกส์ผู้เป็นคนที่คิดค้น และพัฒนาระเบิดปรมาณูในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สำหรับรายละเอียดยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการมากนัก แต่แน่นอนว่า โนแลน จะมารับหน้าที่กำกับ และอำนวยการสร้างภายใต้บริษัทของเขาและภรรยาอย่าง Syncopy Inc. พร้อมทั้งด้านนักแสดงนำก็ยังมีการวางตัว คลินเลียน เมอร์ฟี่ ที่เคยร่วมงานกับ โนแลน มาแล้วใน (Batman Begins, Dunkirk) มารับบทนำในหนังเรื่องนี้

ส่วนด้านสตูดิโอผู้สร้างอย่าง Universal ก็ได้มอบเงื่อนไขการทำงานร่วมกับโนแลน โดยหนังจะได้ทุนในการสร้าง 100 ล้านเหรียญฯ และทุนในการโปรโมทอีก 100 ล้านเหรียญฯ ซึ่งโนแลน จะได้อิสระในการสร้างสรรค์หนังเรื่องนี้ทั้งหมด นอกจากนี้หนังจะต้องเข้าฉายในโรงภาพยนตร์อย่างน้อย 100-130 วัน ถึงจะสามารถลงฉายบนสตรีม หรือจำหน่ายในรูปแบบโฮมเธียเตอร์ โดยช่วงก่อน และหลังการฉายหนังเรื่องนี้ ห้ามมีหนังเรื่องอื่น ๆ ของ Universal ฉายในโรงภาพยนตร์

สำหรับสาเหตุที่ โนแลน โบกมือลา Warner Bros. หลังจากที่ร่วมงานกันมากว่า 20 ปี ก็เนื่องจากเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทาง Warner Bros. ได้วางแผนรับมือการฉายหนังในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ด้วยการประกาศว่าจะทำการฉายหนังทุกเรื่องของค่ายในโรงภาพยนตร์ พร้อมกับลงฉาย HBO MAX ในเวลาเดียวกัน โดยที่ทางค่ายไม่ได้บอกให้ทางผู้สร้างหนังได้รับทราบ ทำให้ด้านผู้กำกับที่ยึดมั่นในการฉายหนังในโรงภาพยนตร์อย่าง โนแลน ไม่พอใจกับการกระทำของ Warner Bros. ในครั้งนี้มาก ๆ ทำให้เขาตัดสินใจแยกทางกับสตูดิโอ

สำหรับ คริสโตเฟอร์ โนแลน เป็นผู้กำกับหนังมากฝีมือ สัญชาติอังกฤษ โดยผลงานของเขาส่วนใหญ่จะเป็นหนังที่มาพร้อมความหวือหวาในด้านการเล่าเรื่อง การผสมผสานระหว่างไซไฟ และจิตวิทยา ที่ลึกล้ำ ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ โนแลน ก็ยังเป็นผู้สร้างหนังไตรภาคแบทแมน ที่ดีที่สุดอย่าง The Dark Knight Trilogy ที่กลายเป็นหนังเรื่องโปรดของหลาย ๆ คนมาจนทุกวันนี้ ส่วนผลงานที่โดดเด่นของเขาก็ได้แก่ Momento, Inception, The Dark Knight และ Interstellar

ส่วนกำหนดฉายหนังเรื่องถัดไปของโนแลน ยังไม่มีการกำหนดช่วงเวลาอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าหนังจะเปิดกล้องในช่วงต้นปีหน้า และน่าจะเข้าฉายในช่วงปี 2023-2024

Cr.ภาพ : IMDB

ติดตามบทความ บันเทิง ดารา-นักร้อง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง

การปรากฏตัวของ CL และ Rosé

CL และ Rosé

2 สาวศิลปินไอดอล K-POP ชื่อดังในงาน Met Gala 2021

งาน Met Gala เป็นงานเลี้ยงเฉลิมฉลองประจำปีในช่วงกลางคืน เพื่อหารายได้สนับสนุนสถาบันเครื่องแต่งกายแห่งพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน (Metropolitan Museum of Art) ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1870 ตั้งอยู่ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยงาน Met Gala ถูกจัดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1948 จนได้แอนนา วินทัวร์​ (Anna Wintour) ซึ่งเป็นบรรณาธิการบริหารของ Vogue มาดำรงตำแหน่งเป็นประธานการจัดงานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1995 เป็นต้นมา ในแต่ละปีจะมีการกำหนดธีมของงานและและเครื่องแต่งกาย เพื่อให้แขกได้แต่งกายให้สอดคล้องกัน โดยในปี ค.ศ. 2021 นี้ มีเดรสโคดคือ “American Independence” ตามธีมของงาน นั่นคือ “In America: A Lexicon of Fashion” บรรดาแขกที่จะมาเข้าร่วมงานจะต้องได้รับการเชิญและอยู่ในอำนาจการตัดสินใจของประธานการจัดงานอย่างแอนนา วินทัวร์ เท่านั้น เรียกได้ว่า งาน Met Gala เปรียบเสมือนงานออสการ์แห่งโลกแฟชั่นเลยทีเดียว

ในทุกปีจะมีนักออกแบบ นางแบบ นายแบบ นักร้อง นักแสดง คนดังระดับโลกที่ได้รับเชิญมาเข้าร่วมงาน และปรากฏตัวในเครื่องแต่งกายอลังการเพื่อให้เข้ากับธีมของงาน ในปีนี้ก็ได้สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากในกลุ่มแฟนคลับ K-POP เนื่องจากการปรากฏตัวของ CL บนพรมแดงหน้างาน ซึ่ง CL หรือ ลี แชริน เป็นที่รู้จักในฐานะนักร้อง แร็ปเปอร์ และนักแสดงชื่อดัง เธอเป็นอดีตหัวหน้าวง 2NE1 ที่สามารถสร้างกระแสเพลงฮิตไปทั่วเอเชีย ปัจจุบันเธอเป็นศิลปินเดี่ยว และมีบทบาทในการเป็นนักแสดงในฮอลลีวูดอีกด้วย ทำให้ CL กลายเป็นแร็ปเปอร์ที่เป็นที่รู้จักในระดับโลกด้วยความสามารถที่โดดเด่นของเธอ

CL ปรากฏตัวบนพรมแดงของงาน Met Gala ด้วยเครื่องแต่งกายจากแบรนด์สัญชาติอเมริกันชื่อดังอย่าง อเล็กซานเดอร์ หวัง (Alexander Wang) เธอสวมเดรสผ้าเดนิมคลุมไหล่และอันเดอร์แวร์สีขาว ซึ่งลักษณะของผ้าเดนิมสื่อถึงความเป็นอเมริกันได้ดีทีเดียว พร้อมกับสวมสร้อยคอโทนสีเขียวและรองเท้าส้นสูง ที่โดดเด่นคือทรงผมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากทรงผมของราชวงศ์ของเกาหลีนั้นเอง

นอกจากนี้ ยังมีศิลปินไอดอล K-POP อีกหนึ่งคนที่มาเข้าร่วมงาน Met Gala ด้วย นั่นคือ Rosé หนึ่งในสมาชิกของวง BLACKPINK ที่มีเพลงฮิตไปทั่วโลกและสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการ K-POP อีกด้วย เมื่อไม่นานมานี้เธอได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Global Brand Ambassador ของ Saint Laurent แบรนด์ดังระดับโลก

ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าเธอจะได้ไปเข้าร่วมงาน Met Gala ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ก่อนที่จะมีการจัดงาน ซึ่งก็เป็นไปตามคาดของเหล่าแฟนคลับ Rosé ได้ปรากฏตัวบนพรมแดงของงานด้วยเครื่องแต่งกายจากแบรนด์ Saint Laurent โดยสวมชุดเดรสสั้นสีดำคาดด้วยโบว์สีขาวบริเวณอก พร้อมกับเครื่องประดับสร้อยคอที่หรูหรา ซึ่งถือว่า CL และ Rosé เป็นศิลปินไอดอลหญิงจากวงการ K-POP 2 คนแรกที่ได้เข้าร่วมงาน Met Gala เลยทีเดียว

ติดตามบทความ บันเทิง ดารา-นักร้อง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง

5 สาวหวานใจแร็ปเปอร์ ที่สวย เซ็กซี่ที่สุด

5 สาวหวานใจแร็ปเปอร์

สำหรับวงการแร็ปเปอร์ที่ชาวเน็ตให้ความสนใจ

เป็นอีกหนึ่งวงการที่น่าติดตามอยู่ในขณะนี้ หลายคนเฝ้าติดตามวงการแร็ปเปอร์ มาเป็นเวลานาน ถูกใจคอเพลงแนวฮิปฮอปสุดคูล ที่ร้องเพลงออกมาในจังหวะที่โดนใจ แต่งตัวมีสไตล์ ซึ่งแต่ละคนมีสไตล์ที่ต่างกันออกไป ทำให้ถูกใจเหล่าบรรดาแฟนคลับอยู่ไม่น้อย

และนอกจากผลงานต่างๆ ที่น่าติดตามแล้ว ทั้งเพลง ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต วันนี้เราจะขอมานำเสนอในด้านของหวานใจของหนุ่มแร็ปเปอร์แต่ละคน เรียกว่า สะใภ้ของวงการแร็ปเปอร์ ต่างก็สวย น่ารัก สดใส เซ็กซี่ เป็นอย่างมาก ทำเอาหนุ่มๆหลายคนใจสลายไปกันมากแล้ว มาชมกันดีกว่าว่า สาวๆแต่ละคนมีดี ปังอย่างไรกันบ้าง ซึ่งจะของัด 5 อันดับหวานใจแร็ปเปอร์ ที่ถูกใจชาวเนตเป็อนย่างมาก ไว้ดังนี้

อันดับ 5 กร ษิภูตา

สาวสวยที่ล่าสุดกลายเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งไปแล้ว สำหรับหวานใจของ นักร้องแร็ปเปอร์ชื่อดัง เป้ วงมายด์ เป็นสาวนอกวงการ ที่หน้าตาน่ารัก หน้าหวาน ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ใครที่ได้เห็นรอยยิ้มอันสดใสของธอต้องเป็นอันตกหลุมรักอย่างแน่นอน

อันดับ 4 มาร์กี้ ราศรี

สำหรับสาวคนนี้ ไม่มีใครไม่รู้จัก ด้วยผลงานละครที่ผ่านมา นางเอกดังของช่อง 3 ที่ฝากผลงานละครไว้อย่างมากมาย จนเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ คุณแม่ลูกแฝดของ มีก้า-มีญ่า ศรีภรรยาของแร็ปเปอร์ ที่มีดีกรีเป็นทายาทเจ้าของเซ็นทรัล อย่าง ป๊อก ภัสสรกรณ์ ปัจจุบันเป็นครอบครัวที่มีภาพความน่ารัก อบอุ่น มาให้ชาวเน็ตได้ชื่นชมและติดตามกันอย่างล้นหลาม

อันดับ 3 ซานิ นิภาภรณ์

สำหรับสาวคนนี้ นอกจากความสวยและความแซ่บที่มีแล้ว เจ้าตัวเองยังเป็นนักร้องเสียงทรงพลัง อย่าง ซานิ นิภาภรณ์ ที่กำลังปลูกต้นรักกับแร็ปเปอร์หนุ่ม อย่าง ดรีม ศุภกฤต  แม้ที่ผ่านมาจะไม่ค่อยออกสื่อ เรื่องความรักเท่าไร แต่สถานะหัวใจตอนนี้ กำลังหวานฉ่ำเลยทีเดียว

อันดับ 2 ปราง กัญญ์ณรัณ

นักแสดงสาว มากความสามารถ สาวหน้าหวานตาคม อย่าง ปราง กัญญ์ณรัณ แน่นอนว่าหนุ่มๆหลายคนต่างตกหลุมรักเธอ ครบทุกด้าน ทั้งสวย หุ่นดี เสียงเพราะ แต่ก็ต้องยอมถอยให้กับแร็ปเปอร์หนุ่ม โต้ง ทูพี ที่กำลังคบหากันอยู่ ถึงแม้จะเคยเลิกรากันไป แต่คู่กันแล้ว อย่างไรก็ไม่แคล้วกลับมาคบหากันอีกครั้ง และเหมือนครั้งนี้จะไปได้ดีอีกด้วย

อันดับ 1 ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา

คุณแม่มือใหม่สายแซ่บ อย่าง ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา ที่แม้จะท้องก็ไม่วายเผยภาพสุดแซ่บออกมาให้หนุ่มๆหัวใจจะวายกันหลายคน หวานใจของแร็ปเปอร์ลูกครึ่ง กวินท์ ดูวาล สาวสุดแซ่บที่มีเสน่ห์ ด้วยความตรงไปตรงมา เผ็ด แซ่บ ของเธอนั้น ทำให้หลายคนติดตามอย่างล้นหลาม

ติดตามบทความ บันเทิง ตารา-นักร้อง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง

กวินเน็ธ พัลโทรล อดีตหวานใจ

กวินเน็ธ พัลโทรล

Iron Man เผยสูตรลับที่ทำเป็นประจำทุกเช้าในการเริ่มต้นวันใหม่

กวินเน็ธ พัลโทรล หญิงเก่งของวงการฮอลลีวู้ดที่ผู้ชมรู้จักเธอดีบทบาทของ เป็ปเปอร์ พ็อตต์ หวานใจสุดแกร่งของ Iron Man ที่ปรากฏตัวอยู่ในหนังหลายเรื่องในจักรวาล MCU แถมถ้าดูดีๆแล้วตั้งแต่ภาคแรกของ Iron Man ในปี 2008 จนถึงการปรากฏตัวในหนัง Avengers: Endgame ในปี 2019 กวินเน็ธ เปลี่ยนแปลงไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่ดูแลสุขภาพตัวเองได้ดีสุดๆ จนไม่แปลกที่จากความโดดเด่นนี้เธอได้เปิดธุรกิจด้านสุขภาพและไลฟ์สไตล์ในปี 2008 บริษัทชื่อ Goop ของเธอเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีครีเอทีพมากๆ

มีทั้งสเปรย์น้ำมันพลังจิตไล่แวมไพร์ที่มีกลิ่นหอมที่ตัวเราจะสดชื่นและใช้ไล่คนที่ไม่ชอบออกไปได้(ใช่..ฟังไม่ผิดหรอก) ยังมีไข่หยกที่ใช้สำหรับเสริมพลังที่มีวิธีการใช้ได้ประหลาดสุดๆ (ไม่สามารถเขียนได้อยากรู้ต้องหาอ่านเอง)

แต่ใช่ว่าจะมีแต่ของซุปเปอร์ครีเอทีพที่ใช้ดึงสายตาผู้ซื้อ(และขายได้ด้วย) ยังมีผลิตภัณฑ์ธรรมดาอื่นๆอีกมากมายให้เลือกใช้ และแน่นอนว่ามีสไตล์สมกับเป็นกวินเน็ธ ด้วยความแปลกประหลาดและความเป็นกวินเน็ธทำให้ยอดขาย Goop ไม่มากไม่น้อยอยู่ที่หลัก 200 กว่าล้านUSDต่อปีเท่านั้นเอง!

เมื่อมีภาพลักษณ์เช่นนี้ ธุรกิจก็เช่นนั้น เมื่อเร็วๆนี้นิตยสารและเว็บไซต์วอลล์สตรีทเจอร์นัลได้มีโอกาสสัมภาษณ์กวินเน็ธ จึงไม่พลาดที่จะถามว่าอะไรเป็นเคล็ดลับส่วนตัวของเธอในการเริ่มต้นวันใหม่

เคล็ดลับที่กวินเน็ธเปิดเผยนั้น เรียกว่า “Oil Pulling” หรือเรียกได้ว่าน้ำมันล้างพิษ เมื่อตื่นนอนตอนเช้าเธอจะใช้น้ำมันมะพร้าวหนึ่งช้อนเต็มๆอมไว้ในปากเป็นเวลาหลายนาที และนั่นจะทำให้สุขภาพดีขึ้นพร้อมรับวันใหม่ ซึ่งเป็นเทคนิคของชาวอินเดียโบราณ

ช่างสมกับเป็นเจ้าของบริษัท Goop จริงๆ แม้แต่วิธีการดูแลสุขภาพก็ยังไม่เหมือนใครอีกด้วย!

แล้วสุขภาพดีจริงหรือไม่?

วิธีการนี้เริ่มเป็นที่รู้จักในอเมริกาช่วงปี 2014 ตามข้อมูลแล้ววิธีการนี้จะทำให้น้ำมันมะพร้าวดูดพิษตกค้างในร่างกาย เมื่อบ้วนทิ้งไปก็เท่ากับขจัดพิษออกไปได้

คุณหมออีริค อาสเชอร์ แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวโรงพยาบาลเล็นน็อกซ์ฮิลล์ ยืนยันว่าน้ำมันมะพร้าวจะช่วยเสริมสุขภาพช่องปากด้วยการนำเอาสารพิษตกค้างออกไปจริงๆ ทำให้ช่องปากสะอาดขึ้น ลดคราบหินปูน และช่วยทำลายเชื้อแบคทีเรียทำให้ลมหายใจสะอาดขึ้น

เอาจริงดิ!

นอกจากนี้ยังมีทันตแพทย์คนอื่นๆอีกที่บอกว่าแม้มันจะไม่ค่อยชัดเจนเรื่องคุณสมบัติทั้งหมดของวิธีการ Oil Pulling แต่ว่าเห็นตรงกันว่าช่วยให้สุขภาพเหงือกดีขึ้นแน่ๆ

ย้ำอีกที ยืนยันว่าเคล็ดลับนี้เวิร์ค!

แต่คุณหมอก็เตือนเหมือนกันว่า การอมน้ำมันมะพร้าวกลั้วปากคอในตอนเช้า ไม่ได้แทนที่การแปรงฟัน แต่เป็นออฟชั่นเสริมเท่านั้น

กวินเน็ธทิ้งท้ายในการสัมภาษณ์ว่า น้ำมันมะพร้าวที่ใช้ผสมมินท์ด้วย “หลังจากน้ำมันล้างพิษแล้ว ถ้าคุณใช้ที่ขูดลิ้นด้วย รับรองว่าจะรู้สึกว่าปากสะอาดและรู้สึกสดชื่นสุดๆไปเลยในทุกๆเช้า”

ฟังกวินเน็ธอย่างนี้แล้วอยากลองวิธีของเธอกันบ้างมั้ย!

ติดตามบทความ บันเทิง ดารา-นักร้อง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง

เผยสาเหตุที่สองพี่น้อง Russo เกือบออกจาก MCU

Russo เกือบออกจาก MCU

Joe และ Anthony Russo มีบทบาทสำคัญในการกำกับภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง

เป็นเวลามากกว่า 10 ปีที่ Marvel Studio สร้างสรรค์ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่สุดพิเศษให้เราได้รับชมซึ่งแต่ละเรื่องนั้นก็จะมีความสนุกแตกต่างกันออกไปมีทั้งภาพยนตร์เดี่ยวและภาพยนตร์รวมตัวของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่ง 10 กว่าปีที่ผ่านมาก็มีภาพยนตร์เข้าฉายในโรงภาพยนตร์มากกว่า 20 เรื่องแล้วโดนเป็นการเล่าถึงที่มาที่ไปของตัวละคร ปมปัญหาในอดีต และเรื่องราวต่าง ๆ ให้มีการเชื่อมโยงกันอย่างลงตัวมากจนเราต้องโอ้โหทำไมมาลงตัวกันขนาดนี้ ซึ่งภาพยนตร์ที่ดีนั้นต้องออกมาจากตัวของนักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์ ซึ่งภายใน Marvel Studio ก็มีทั้งนักแสดงเก่งๆ มากมายและร่วมกับเก่งๆ อีกมากมายด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งผู้กำกับที่เป็นที่รู้จักใน Marvel Studio ก็คือ 2 พี่น้อง Russo (Joe และ Anthony Russo)

Joe และ Anthony Russo มีบทบาทสำคัญในการกำกับภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น Captain America: The Winter Soldier, Captain America: Civil War, Avengers: Infinity War และ Avengers: Endgame ซึ่งภาพยนตร์แต่ละเรื่องนานก็เป็นที่นิยมมากมายจาก แฟนคลับ Marvel เรียกว่าถ้าไม่มีสองคนนี้ก็อาจจะทำให้ภาพยนตร์ดังกล่าวนั้นไม่ได้สนุกเท่าที่เราได้เห็นในโรงภาพยนตร์ก็เป็นได้ ซึ่งในช่วงสองพี่น้องกำลังผลิตภาพยนตร์เรื่อง Captain America: Civil War ก็ได้เกิดข้อถกเถียงกันระหว่างพี่น้อง Russo กับ คณะกรรมการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Marvel

สิ่งที่เราได้เห็นภาพยนตร์เรื่อง Captain America: Civil War เป็นการถกเถียงกันของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่เกี่ยวกับสัญญาโซโคเวีย ซึ่งทำให้ทีมอเวนเจอร์แบ่งเป็น 2 ฝ่าย นำโดยกัปตันอเมริกาและไอรอนแมน หลังจากที่ดูเหมือนปัญหาระหว่างไอรอนแมนกับกัปตันอเมริกาจะคลี่คลาย โทนี่สตาร์คก็ได้รู้ความจริงว่าบัคกี้บาร์นส์เพื่อนของกัปตันอเมริกาเป็นคนฆ่าพ่อแม่ของเขา ทำให้เขาระเบิดความโกรธและเข้าต่อสู้กับทั้งคู่จนในท้ายที่สุดกัปตันอเมริกาก็เป็นฝ่ายชนะ

แต่สิ่งที่ฝ่ายคณะกรรมการสร้างสรรค์ของ Marvel อยากให้ภาพยนตร์ออกมาในอีกรูปแบบหนึ่ง ก็คือหลังจากที่ได้มีการทะเลาะกันของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ก็อยากให้ทีมอเวนเจอร์กลับมารวมตัวกันแล้วเข้าต่อสู้กับ Baron Zemo (ตัวร้ายภายในภาพยนตร์) และวินเทอร์โซลเยอร์ที่อยู่ในฐานทัพลับ

ซึ่งทางประธานของ Marvel Studio อย่าง Kevin Feige ก็เห็นด้วยกับ2 พี่น้อง Russo ทำให้ในท้ายที่สุดแล้วภาพยนตร์เรื่อง Captain America: Civil War ก็มีฉากจบที่เป็นความคิดของ2 พี่น้อง Russo และหลังจากภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว พี่น้อง Russo ก็ยังอยู่ช่วยกำกับภาพยนตร์เรื่อง Avengers: Infinity War และ Avengers: End Game ลองจินตนาการดูว่าถ้าสองพี่น้องออกจาก Marvel Studio กลางคันเราคงจะไม่ได้เห็น Avengers: Infinity War และ Avengers: End Game ในแบบที่เราเห็นในโรงภาพยนตร์ก็เป็นได้

Cr.ภาพ : Koimoi / wall.alphacoders

ติดตามบทความ บันเทิง ดารา-นักร้อง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง