Black Widows พร้อมประกาศวันฉายใหม่ 9 กรกฎาคมนี้

Black Widows

Black Widows ปล่อยตัวอย่างใหม่ล่าสุด พร้อมประกาศวันฉายใหม่ 9 กรกฎาคมนี้

กลายเป็นหนัง Marvel ที่โดนผลกระทบจาก โควิด-19 จนทำให้ถูกเลื่อนฉายมาครั้งแล้ว ครั้งเล่า จนแฟนหนังแทบจะลืมกันแล้ว สำหรับ Black Widow ที่ก่อนหน้านี้ทาง Disney ได้ออกมาประกาศเลื่อนฉายหนังเรื่องนี้อีกครั้ง จากที่กำหนดฉาย 7 พฤษภาคมนี้ ไปเป็นวันที่ 9 กรกฎาคมแทน

โดยทางค่ายประกาศจะทำการฉายเรื่องนี้ในโรงและออนแอร์ในสตรีม Disney + ในวันเดียวกัน และคาดว่านี่จะเป็นการเลื่อนฉายครั้งสุดท้ายของหนังเรื่องนี้ นอกจากนี้เพื่อเป็นการเอาใจแฟน ๆ ทางค่ายก็ได้ทำการปล่อยตัวอย่างใหม่ล่าสุดของหนังเพื่อมาเรียกน้ำย่อยอีกครั้ง

สำหรับ Black Widow จะเป็นหนังเดี่ยวของสายลับสาว แบล็ค วิโดวส์ หรือนาตาชา โรมานอฟ (สการ์เลท โจฮันสัน) โดยเหตุการณ์ของหนังจะพาเราย้อนไปยังช่วงเวลาหลังจากภาค Captain America Civil War

เมื่อ นาตาชา ได้เดินทางกลับไปยังประเทศรัสเซีย และได้กลับไปพบกับครอบครัวเก่าของเธอ จนมันนำมาสู่ภารกิจกอบกู้โลกครั้งใหม่ และการเผชิญหน้ากับอดีตที่เลวร้ายของตัวเองอีกครั้ง

Black Widows

โดยความน่าสนใจของตัวอย่างใหม่ล่าสุดที่ปล่อยมานี้ก็คือการเปิดฉากด้วยการย้อนรำลึกถึงโมเมนต์สำคัญ ๆ ของ แบล็ค วิโดวส์ ตั้งแต่ The Avengers ,Captain America Winter Soldier ,Captain ,America Civil War และ Avengers Endgame ให้เราได้หายคิดถึงตัวละครนี้

พร้อมทั้งมีการเพิ่มฟุตเทจฉากแอคชั่นใหม่ ๆ ซึ่งทีเด็ดก็คงเป็นฉากต่อสู้กลางเวหาระหว่าง แบล็ค วิโดวส์และ ทาส์คมาสเตอร์ ที่อลังการ และยิ่งใหญ่ในแบบหนัง Marvel ที่ทุกคนคิดถึง

Black Widows

Black Widow เป็นผลงานการกำกับของ เคท ชอร์ตแลนด์ (Berlin Syndrome) เขียนบทโดย อีริค เพียร์สัน (Thor Ragnarok ,Godzilla Vs. Kong)

นำแสดงโดย สการ์เลท โจฮันสัน ที่น่าจะมารับบท แบล็ค วิโดวส์เป็นครั้งสุดท้าย สมทบด้วย ฟลอเรนจ์ พิวจ์ (Little Women) เดวิด ฮาเปอร์ (ซีรีส์ Stranger Thing) และ ราเชล ไวส์ (The Favourite)

นอกจาก Black Widow ที่จะฉายในปีนี้แล้ว Marvel ยังมีหนังอีก 3 เรื่องที่วางโปรแกรมฉายในปี 2021 เช่นกัน โดยจะมี Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings หนังฮีโร่เชื้อสายเอเชีย ที่มีวิชาต่อสู้เป็นมวยกังฟู โดยวางกำหนดฉาย กันยายนนี้

Eternals หนังที่จะย้อนไปยังจุดเริ่มต้นของอารยะธรรมของมนุษย์ ที่มีกำหนดฉาย พฤศจิกายนนี้ และส่งท้ายปีด้วย Spider-Man: No Way Home หนังภาคที่ 3 ของไอ้แมงมุม ที่หลาย ๆ คนต่างลุ้นว่าในภาคนี้จะได้เห็นการรวมตัวของจักรวาลสไปเดอร์แมนทั้งสามเวอร์ชั่นหรือไม่ ซึ่งหนังมีกำหนดฉาย 17 ธันวาคมนี้

Black Widows

อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่เป็นแฟนหนังซุปเปอร์ฮีโร่ จาก Marvel เตรียมพบกับความบันเทิง จากค่ายนี้กันไปยาว ๆ เพราะทั้งปีนี้ และปีหน้า จะมีหนัง รวมถึงซีรีส์จาก MCU (Marvel Cinematic Universe) มาให้ได้ชมกันตลอดปี ใครที่เป็นตอหนังฮีโร่ปักหมุดรอกันได้เลย

Black Widows

Tag #Black Widows #แบล็ค วิโดวส์ #Marvel #ซีรีย์ หนัง #news-entertainments.com

Cr.ภาพ : เว็บไซต์ IMDB

ฉีกทุกกฎฟิสิกส์ พร้อมระเบิดความมันส์ยิ่งกว่าเดิม ในตัวอย่างล่าสุด Fast & Furious 9

Fast & Furious 9

อีกหนึ่งหนังที่ผู้คนรอคอยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องโดนเลื่อนฉายออกไป 1 ปี ล่าสุดทาง Universal ก็ได้ทำการปล่อยตัวอย่างฉบับเต็มตัวที่ 2 ของหนัง Fast & Furious 9 ออกมาให้ได้ชมกันแล้ว ซึ่งต้องบอกเลยว่านี่เป็นตัวอย่างที่ให้อารมณ์ต่างจากตัวก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง เพราะในตัวอย่างนี้ได้มีการจัดเต็มด้วยฉากแอคชั่นที่เราไม่ได้เห็นในตัวอย่างก่อน เรียกได้ว่าพร้อมปล่อยของกันแบบเต็มที่ ไม่แคร์กฎฟิสิกส์ใด ๆ ทั้งสิ้น

สำหรับหนัง Fast 9 จะเป็นเรื่องราวภารกิจสุดท้าทายครั้งใหม่ของ ดอม ทอร์เรตโต (วิน ดีเซลล์) และผองเพื่อน ที่ต้องร่วมกันรับมือกับแผนร้ายครั้งใหม่ของ ไซเฟอร์ (ชาร์ลิซ เธียรอน) ผู้ก่อการร้ายที่เคยปะทะกับเขาเมื่อในภาคที่แล้ว นอกจากนี้ ดอม ก็ยังต้องเผชิญหน้ากับอดีตของเขา

คือการกลับมาอีกครั้งของน้องชาย (จอห์น ซีน่า) ที่เข้ามาร่วมเป็นคู่ปรับคนสำคัญของเขาในภาคนี้ ดอม และพรรคพวก เลยต้องรวมทีมกับ ฮาน (ซุงคัง) ที่กลับมาจากความตายอีกครั้ง และฌอน บอสเวลล์ (ลูคัส แบล็ค) นักซิ่งจากเมืองโตเกียว ในภารกิจที่ท้าทายยิ่งกว่า Mission Impossible

ในตัวอย่างนี้ ก็มาพร้อมความจุใจแบบให้หายคิดถึงด้วยความยาวถึง 4 นาที พร้อมฟุตเทจใหม่ ๆ ที่ไม่ได้เห็นในตัวอย่างก่อนอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นฉากที่ดอม ต้องขับรถข้ามเหวที่กลายเป็นที่พูดถึงในตัวอย่างแรก พร้อมฉากการกลับมาอีกครั้งของ ฮาน ที่รับบทโดยซุงคัง ตัวละครที่ครั้งหนึ่งเคยตายไปแล้วใน Furious 6

แต่ท้ายที่สุดทางทีมผู้สร้างก็ได้หาทางแถให้เขากลับมาจากความตายอีกครั้ง พร้อมมาร่วมสร้างสีสันคู่กับ ฌอน บอสเวลล์ ที่รับบทโดย ลูคัส แบล็ค ตัวละครจาก The Fast and the Furious: Tokyo Drift ที่แฟนหนัง Fast หลายคนต่างเผ้าฝันว่าจะได้เห็นตัวละครทั้งสองชุดนี้มารวมทีมกัน

และที่เซอร์ไพรส์ที่สุดคือการเดินทางไปอวกาศครั้งแรกของหนังชุดนี้ หลังจากที่เคยถูกนำไปล้อเลียน และเคยมีข่าวลือเมื่อไม่นานมานี้ ในที่สุดครั้งนี้ หนังชุดนี้ก็ได้สร้างความทะเยอทะยานทั้งหมดนี้ให้กลายเป็นจริงในที่สุด หนังได้ จัสติน ลิน มือกำกับที่อยู่เคียงคู่กับหนังชุดนี้มาตั้งแต่ The Fast and the Furious Tokyo Drift

มาจนถึง Furious 6 กลับมารับหน้าที่กำกับหนังชุดนี้อีกครั้ง เป็นครั้งที่ 5 พร้อมได้ แดเนียล เคซี่ย์ (Kin) มาร่วมเขียนบทให้ นอกจากนี้หนังยังได้ทีมนักแสดงชุดเดิมกลับมาแบบครบทีม

นำทีมโดย ดีเซลล์ (Bloodshot) , มิเชล โรดริเกซ (Avatar) , กิ๊บสัน (Black and Blue) , บริวสเตอร์ (ซีรีส์ Lethal Weapon) , คริส ลูดาคริส บริดเจส (Ride) , ชาร์ลิซ เธียรอน (Mad Max : Fury Road) , ซุงคัง (Code 8) , ลูคัส แบล็ค (ซีรีส์ NCIS: New Orleans) พร้อมสมทบด้วย จอห์น ซีน่า (The Suicide Squad) มาร่วมรับบทเป็นน้องชายของดอม อีกด้วย

Fast & Furious 9

Fast & Furious 9 มีกำหนดฉายในไทย เดือนมิถุนายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

Fast & Furiuos 9

Tag #Fast & Furious 9 #Universal #UIP Thailand #ซีรีย์หนัง #news-entertainment.com

Cr. ภาพ : Rotten Tomatoes, UIP Thailand

รีวิวหนัง Mortal Kombat : งานรีเมคที่สามารถแก้มือจากฉบับ 1997

Mortal Kombat 2021

รีวิวหนัง Mortal Kombat มอร์ทัล คอมแบท : งานรีเมคที่สามารถแก้มือจากฉบับ 1997 ได้สมศักดิ์ศรี ทั้งฉากแอคชั่นที่สะใจ และความโหด ดิบ แบบเรท R ที่คู่ควร

อีกหนึ่งหนังเกมในตำนาน ที่เหล่าเกมเมอร์ หรือเด็ก ๆ ที่โตมาในยุค 80-90 จะต้องคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นเหล่าตัวละครเหนือมนุษย์ ความสามารถของแต่ละตัวที่มีความโดดเด่นที่แตกต่างกันไป และที่สำคัญความดิบ ความโหด ที่เป็นที่กล่าวขวัญ จนเป็นลายเซ็นสำคัญของ Mortal Kombat ซึ่งแม้ว่าในตัวเกมจะทำออกมาได้ดีแค่ไหน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าเมื่อเกมนี้ถูกดัดแปลงเป็นหนังใหญ่ เมื่อปี 1997 มันก็ได้กลายเป็นหนึ่งในตราบาปของอาถรรพ์ หนังที่ดัดแปลงมาจากเกมนี้

Mortal Kombat 2021
Mortal Kombat 2021

มาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนสำหรับเวอร์ชั่นหนังปี 2021 นี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งการวัดดวง และพิสูจน์ผีมือครั้งสำคัญอีกครั้ง ว่า Mortal Kombat จะสามารถกลับมาผงาดเป็นหนังที่สร้างจากเกม ที่สนุกถูกใจแฟนบอย รวมถึงคอหนังได้หรือไม่ เพราะด้วยเทคโนโลยีการสร้างวิชวลเอฟเฟกต์สมัยใหม่ที่ตระการตากว่าเดิม รวมถึงการทำหนังเรื่องนี้ให้มีความโหดระดับ เรท R จนกลายเป็นความหวังใหม่ของเหล่าแฟนบอยที่เติบโตมากับเกมนี้

โดยในเวอร์ชั่นนี้หนังจะว่าด้วยเรื่องราวของเหล่านักสู้กลุ่มหนึ่ง ที่แต่ละคนจะมีปานแดงรูปมังกรอยู่บนร่างกาย ซึ่งปานนี้ก็เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าคน ๆ นั้นได้ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในนักสู้ บนสังเวียนการประลองที่มีจักรวาลเป็นเดิมพัน เหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อ โคล ยังเป็น นักมวย MMA ที่มีปานมังกรติดตัวมาตั้งแต่เด็ก จนวันหนึ่ง โคล และครอบครัวได้ถูก ซับซีโร่ มือสังหารผู้มีวิชาที่สามารถใช้น้ำแข็งเป็นอาวุธ เข้ามาโจมตีหวังฆ่าเขา แต่ โคลได้รับการช่วยเหลือจาก แจ็ค ชายที่มีปานมังกรเหมือนกับเขา

ซึ่งจากการพบกับ แจ็คก็ได้ทำให้ โคลรู้ถึงที่มาของปาน พร้อมพบว่าแท้จริงแล้วผู้บงการซับซีโร่ ก็คือจักรพรรติชางจง ที่หวังชิงลงมือฆ่านักสู้ทั้งหมด ก่อนที่จะเริ่มการประลอง เพื่อครอบครองจักรวาลนี้มาเป็นของตน โคล เลยต้องร่วมมือกับนักสู้คนอื่น ๆ ได้แก่ ซอนย่า เบลด. หลิว คัง, คัง เหลา เพื่อต่อสู้กับเหล่าลูกน้องอันทรงพลังของชางจง และกอบกู้จักรวาล

Mortal Kombat 2021
Mortal Kombat 2021

หากให้พูดถึงความโดดเด่น ความแตกต่างของ Mortal Kombat เวอร์ชั่นนี้ กับเวอร์ชั่น 1997 อย่างแรกที่ต้องพูดถึงคืองานวิชวลเอฟเฟกต์ของหนัง ที่เหมือนเป็นการแก้มือจากฉบับก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง ด้วยเทคโนโลยีการสร้างเอฟเฟกต์ในสมัยนี้ที่ช่วยทำให้หนังมีความสมจริง มีความดาร์ค ความเท่ และยังคงคาแรคเตอร์ดั้งเดิมจากเกมเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ผิดกับฉบับ 1997 ที่ด้วยความไม่พร้อมด้านวิชวลเอฟเฟกต์ ทำให้ความจริงจังที่มีของหนังกลับลดลง จนดูเป็นหนังเกรดปีที่ไม่มีอะไรให้น่าจดจำอย่างน่าเสียดาย

Mortal Kombat 2021
Mortal Kombat 2021

อีกสิ่งที่หนังฉบับนี้ทำออกมาได้ค่อนข้างดีก็คือฉากแอคชั่นที่มันส์ สะใจ ให้อารมณ์เหมือนกับว่าเล่นเกมอยู่ โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากความสามารถของตัวละคร ที่เคารพจากคาแรคเตอร์ในเกมไว้ได้ดี หนังสามารถโม้ความเก่งกาจ ความเวอร์วังอลังการออกมาได้แบบไม่มีกั๊ก ที่สำคัญคือหนังได้ซ่อนเซอร์ไพรส์เด็ด ๆ ที่แฟนเกมชุดนี้เห็นแล้วน่าจะประทับใจไม่น้อย

ส่วนในด้านความเป็นเรท R ของหนังก็ถือว่าทำออกมาค่อนข้างสุด แม้ว่าฉากโหด ๆ จะไม่ได้มีให้เห็นตลอดทั้งเรื่อง แต่ในฉากต่อสู้องก์สาม หนังก็เต็มไปด้วยฉากการเข้นฆ่ากันของตัวละคร ที่ดิบ เถื่อน และโหดแบบถึงเลือดถึงเนื้อ แบบเดียวกับในฉบับเกมที่หลายคนคุ้นเคย สำหรับใครที่อยากพาเด็กเล็ก ๆ ไปดูหนังเรื่องนี้ ขอไม่แนะนำอย่างยิ่ง

Mortal Kombat 2021
Mortal Kombat 2021

ในส่วนของข้อเสียของหนัง เรียกได้ว่าแทบไม่ต่างจากข้อเสียที่หนังเกมเรื่องอื่น ๆ ต้องเผชิญคือบทหนังที่ทำออกมาไม่สมเหตุสมผล มิติตัวละครที่แห้งแล้งจนทำให้น้ำหนักในการกระทำดูเบาบาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝั่งวายร้าย ที่ถูกสร้างมาเพื่อเป็นตัวร้าย ที่ไม่มีจุดหมายที่ชัดเจนโดยสิ้นเชิง นอกจากนี้หนังยังบริหารเวลา 110 นาทีของตัวเองได้ไม่คุ้มค่า แทนที่หนังจะเน้นขายฉากแอคชั่น ไล่ล่าของตัวละคร หรือเล่นกับความสัมพันธ์ของตัวละคร แต่หนังกลับเสียเวลาในการแนะนำตัวละคร และเสียเวลากับฉากการฝีกวิชา หรือฉากคอเมดี้ ที่ดูไม่จำเป็นกับเนื้อหาจนทำให้ฉากแอคชั่นที่น่าจะเป็นจุดขาย กลับทำหน้าที่ไม่สุดไปอย่างน่าเสียดาย

Mortal Kombat 2021

การแสดงของทีมนักแสดงของหนังเรื่องนี้ก็ถือว่าทำหน้าที่ออกมาได้สมน้ำสมเนื้อกับความเป็นหนังแอคชั่น ไม่ได้มีอะไรให้น่าจดจำมากนัก หากให้พูดถึงการแสดงที่น่าจดจำก็ต้องยกให้การแสดงของ ลูอิส ถัน เจ้าของบท โคล ยัง พระเอกของเรื่อง ที่สามารถถ่ายทอดบทบาทนักสู้ได้เท่ และมีเสน่ห์มาก ๆ

ถือว่าเป็นงานแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการในฐานะแอคชั่นสตาร์ของเขาก็ว่าได้ และอีกบทคือ ฮิโรยูกิ ซานาดะ เจ้าของบท ฮันโซ ฮาซากิ หรือสกอร์เปียน ที่แม้จะไม่ได้มีบทเยอะ แต่ทุกครั้งที่เขาปรากฏตัวก็สามารถขโมยซีน และตรึงคนดูได้อยู่หมัดอย่างน่าชื่นชม

โดยรวม Mortal Kombat ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่ทำจากเกม ที่ทำหน้าที่ตัวเองได้สมการรอคอย หนังสามารถนำลายเซ็นของฉบับเกม มาใช้งานได้คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นฉากแอคชั่น ความโม้แหลก และความโหดแบบเรท R ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถแก้ไขส่วนที่ขาดหายไปในหนังฉบับ 1997 ได้อย่างสมศักดิ์ศรี แม้ว่าหนังจะยังตกม้าตายในบางส่วนไม่ต่างจากหนังที่สร้างจากเกมเรื่องอื่น ๆ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหากใครที่เป็นแฟนเกมชุดนี้น่าจะถูกใจ และเซอร์ไพรส์กับหนังฉบับนี้ไม่มากก็น้อย

ภาพยนตร์ตัวอย่าง Mortal Kombat 2021

Tag #Mortal Kombat #มอร์ทัล คอมแบท #WarnerBros Thailand #ซีรีย์ หนัง #news-entertainment.com

รีวิว Cloverfield ถล่มจินตนาการด้วยความสมจริง

Cloverfield เป็นภาพยนตร์ที่มีคนรอคอยกันพอสมควรตอนนั้น  เพราะเป็นหนังที่เต็มไปด้วยปริศนา ข่าวลือ  ต้องบอกกล่าวกันอย่างหนึ่ง  ผมเป็นคลั่งไคล้หนังสัตว์ประหลาดมาตั้งแต่เด็กแล้ว  ยิ่งมาโปรโมท ว่าใช้มุมกล้องแบบ มุมมองบุคคลที่หนึ่ง(First personal) แบบเรื่อง The Blair Witch Project. ผมพร้อมที่จะเวียนหัว 

หลายปีมาแล้วตั้งแต่มีระบบ CG เข้ามามีบทบาทในโลกภาพยนตร์ เสน่ห์แบบหนังผี หนังสัตว์ประหลาดเก่าๆ หายไป เราจะเห็นเด่นชัดในรายละเอียด ทุกรูขุมขน เรียกได้ว่าไม่ต้องจินตนาการกันเลย ถึงเวลาไปดูมันโผล่ออกมาแบบเห็นกันจนเบื่อ ภาพยนตร์เรื่อง Clover field กำกับการแสดงโดย Matt Reeves

ที่ต่อมาก็ได้กำกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง Dawn of the Planet of the Apes และ War for the Planet of the Apes ร่วมด้วยนักแสดงอย่าง Michael Stahl-David ในบทของ ร๊อบ หนุ่มอนาคตไกลที่กำลังจะย้ายไปทำงานที่ญี่ปุ่น ร่วมกับ Odette Annabel ในบท อดีตแฟนสาวของ ร๊อบที่ติดอยู่ระหว่างการถล่มของเจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์ รอการช่วยเหลือจาก ร๊อบ

Cloverfield

หนังที่กำลังเป็นกระแสที่พูดถึงกันมากในขณะนั้น COVERFIELD ตัวบทภาพยนตร์นั่งเล่นกับความกลัวของมนุษย์ กับสิ่งที่ไม่เคยเห็น ในที่นี้เป็นสัตว์ประหลาดที่เขามาถล่มเมืองนิวยอร์ค หนังได้แบ่งกลุ่มคนดูออกอย่างเด่นชัดในคำตอบ ที่ว่าชอบหรือไม่ชอบ หากคุณคาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรแบบเต็มๆ ชัดเจน และพกความคาดหวังแบบหนังที่มีตัวเอกผ่าฟันอุปสรรค ไปต่อสู้กับสัตว์ประหลาด เพื่อเอาชีวิตรอด ช่วยมวลมนุษยชาติพยายามไปดูเรื่องอื่น ผมกลัวคุณจะเสียดายเวลา

Cloverfield

ผมชอบความเป็น เรียลริตี้ ของหนัง ไม่ต้องเกริ่นนำ ไม่จำเป็นต้องสร้างที่มา หรือสรุป เพราะทุกคนที่ดูจบจะกลับบ้านไปหาแบบสรุปของตัวเอง    **บอกว่าไม่ต้องที่มาหรือสรุป แต่ดูจบแล้วคือทุกคนต้องไปหาสรุปเองหรอ**   เป็นหนังที่ให้เกียรติคนดูอย่างแท้จริง  ขออนุญาตเหน็บคนทำหนัง (ผมไม่ได้รับเกียรติเรียกเขาว่าผู้กำกับ) บางคนในบ้านเรา บอกไว้ว่า “จะเอาอะไรมากกับหนัง แค่เข้าไปดูคลายเครียดก็พอแล้ว” ผมไม่ดูหนังที่คนนั้นทำอีกเลยครับ ให้บัตรฟรีก็ไม่ไป (ไปเดากันเอาเองว่าใคร หลายคนคงคิดแบบผม)

ข้อเสียของหนังเรื่องนี้เป็นของกลุ่มคนดูที่ชอบคือ ทำไมสั้นจัง (คาดหวังว่าจะมีแบบDirector’s cut มาให้ดููอีก) หรือว่าความตื่นเต้นนั้นทำให้ระยะเวลาสั้นลง ไม่มีดนตรีประกอบ ก็แน่นอนครับ ไม่มีดนตรีมาเร่งอารมณ์ให้ตื่นเต้นแน่นอน ต้องขอโทษถ้าบางส่วนของเนื้อหาจะไม่ตรงใจท่าน ผมต้องขออภัยมา ณ. ที่นี้

#Cloverfield #Matt Reeves #Michael Stahl-David #หนัง ซีรีย์ #news-entertainments.com

The Nightingale ปักษาพยาบาท หนังสยองขวัญ ล้างแค้น ที่มีดีมากกว่าแค่ความโหด

ปักษาพยาบาท

The Nightingale ปักษาพยาบาท หนังสยองขวัญ/ระทึกขวัญ แนวล้างแค้น ผลงานกำกับ และเขียนบทโดย เจนนิเฟอร์ เคนท์ ที่เคยสร้างผลงานจิตวิทยา สยองขวัญสุดโด่งดังอย่าง The Babadook เมื่อปี 2014 โดยใน The Nightingale เคนท์ ก็ได้ฉีกแนวจากผลงานเรื่องก่อนโดยสิ้นเชิง เพราะครั้งนี้หนังได้พาเราย้อนเวลากลับไปยังช่วงศตวรรษที่ 19 พร้อมนำเสนอความโหดร้าย ความหม่นของจิตใจคน จนหนังเรื่องนี้ถูกยกให้เป็นอีกหนึ่งหนังสยองขวัญที่มีฉากความรุนแรง น่าสะเทือนใจจนได้รับเรท R ในต่างประเทศ และในไทยได้รับเรทอยู่ที่ 18+

ปักษาพญาบาท หนังสยองขวัญ

หนังจะเล่าเรื่องราวในปี 1825 บนเกาะแวนดีเมน (หรือเกาะเทสเมเนียในปัจจุบัน) โดยหนังจะนำเสนอชีวิตของ แคลร์ หญิงสาวชาวไอริช ที่ถูกทหารอังกฤษที่ในตอนนั้นกำลังทำการล่าอาณานิคม จับเธอและครอบครัวมาเป็นทาส จนกระทั่งวันหนึ่ง แคลร์ต้องสูญเสียครอบครัวของเธอไปต่อหน้าต่อตา ส่วนเธอเป็นเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตมาได้ เธอจึงวางแผนที่จะล้างแค้นทหารอังกฤษเหล่านั้น โดยเธอได้ว่าจ้างให้ บิลลี่ ชาวเผ่าพื้นเมืองช่วยนำทางเธอในการหาเบาะแสของทหารอังกฤษ ในขณะเดียวกันเธอ และบิลลี่ ก็ได้เรียนรู้มิตรภาพของกันและกัน พร้อมทั้งเผชิญกับความโหดร้าย รุนแรงต่าง ๆ จากการล่าอาณานิคมของทหารอังกฤษ

แม้จะใช้หมวดหมู่ว่าเป็นหนังสยองขวัญ/ระทึกขวัญ แนวล้างแค้น แต่ The Nightingale ก็ไม่ได้เป็นหนังสูตรสำเร็จเหมือนอย่างที่หนังแนวนี้ส่วนใหญ่เป็น โดยหนังจะเล่าเรื่องในรูปแบบหนังจิตวิทยา ผสมประเด็นทางสังคมประวัติศาสตร์ ทำให้หนังอาจไม่ได้เน้นขายฉากแอคชั่น หรือฉากการเข่นฆ่าที่ชวนสยดสยองมากนัก ตัวหนังจะโฟกัสไปที่จิตใจที่บอบช้ำของตัวละคร รวมทั้งควมเลือดเย็นของทหารอังกฤษเกือบตลอดทั้งเรื่อง ใครที่หวังเสพฉากแอคชั่นมันส์ ๆ ในเรื่องนี้อาจผิดหวัง แต่หากใครชอบหนังจิตวิทยา ประวัติศาสตร์ น่าจะถูกใจกับสิ่งที่หนังนำเสนอไม่น้อย

อีกหนึ่งความน่าสนใจของ The Nightingale คือการนำเสนอผ่านอัตราส่วนภาพอยู่ที่ 4:3 ซึ่งจะเป็นอัตราส่วนที่ผู้ชมจะไม่ได้เห็นภาพแบบเต็มจอเหมือนหนังเรื่องอื่น ๆ แต่จะเห็นเพียงใบหน้า และส่วนที่ผู้กำกับต้องการให้เห็นเท่านั้น ที่ช่วยทำให้เราไม่ต้องเห็นความรุนแรง โหดร้าย ทารุณของหนังแบบเต็ม ๆ แต่ความรุนแรงเหล่านั้นจะถูกถ่ายทอดผ่านสีหน้าการแสดงของนักแสดงแทน ซึ่งในส่วนนี้ต้องชื่นชมเหล่านักแสดงนำของเรื่อง ที่แต่ละคนสามารถถ่ายทอดอารมณ์ให้ผู้ชมได้เห็นถึงความวิปริต วิปลาสออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม จนราวกับว่าผู้ชมกำลังร่วมอยู่ในเหตุการณ์เหล่านั้น

ปักษาพญาบาท หนังสยองขวัญ

ในด้านความโหด ความรุนแรงของหนัง แม้ว่าจะไม่ได้มีฉากชวนสยดสยองเยอะมากนัก แต่ความรุนแรงจากหนังล้วนมาจากพฤติกรรม ความคิดของตัวละคร ที่หนังนำเสนอตลอดทั้งเรื่อง โดยส่วนที่หนังถ่ายทอดออกมาได้ชัดเจนคือการเหยียดเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ และวิธีการแสดงออกที่ไร้มนุษยธรรม ด้วยเหตุนี้ทำให้ตอนที่หนังเรื่องนี้ ฉายที่เทศกาล Sydney Film Festival ผู้ชมบางส่วนถึงกับทนรับความรุนแรงของหนังไม่ไหวจนต้องลุกออกจากโรงในช่วงกลางเรื่อง

อย่างไรก็ตาม ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า The Nightingale ถือว่าเป็นอีกหนึ่งหนังน้ำดี ที่แม้จะไม่ใช่หนังที่ทำเพื่อความบันเทิง แต่หนังเรื่องนี้ก็ได้เป็นเครื่องบันทึกประวัติศาสตร์ความรุนแรง ความโหดร้ายทารุณในช่วงล่าอาณานิคมออกมาได้อย่างมีมิติ และสมจริง ที่สำคัญหนังสามารถทำหน้าที่ได้สุดทางได้แทบทุก ๆ ด้าน ทั้งพาร์ทดราม่า พาร์ทสยองขวัญ รวมถึงการแสดงที่ทรงพลังของทีมนักแสดงนำ ใครที่ชื่นชอบหนังที่มีประเด็นสังคม ประวัติศาสตร์ และเต็มไปด้วยนัยยะที่ชวนคิด นี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่อยากแนะนำเป็นอย่างยิ่ง
The Nightingale เข้าฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์

ตัวอย่างหนัง The Nightingale ปักษาพญาบาท

Tag #The Nightingale #ปักษาพยาบาท #M picture #หนังสยองขวัญ #ระทึกขวัญ #หนัง ซีรีย์ #news-entertainments.com

ขอขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes

Green Book

Green book

       “กรีนบุ๊ค” (Green Book) หนังน่าดูที่สร้างจากเหตุการณ์จริง ที่เกิดขึ้นในสมัยที่คนผิวสียังไม่ได้รับการยอมรับจากคนอเมริกันผิวขาว และถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มผู้ใช้แรงงานเท่านั้น แต่เรื่องราวในหนังเรื่องนี้กลับเป็นตรงกันข้าม ลองคิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อคนขาวที่ควรเป็นนาย ต้องกลายมาเป็นแค่พลขับให้คนผิวสีผู้ร่ำรวย? ถ้านี่เป็นแค่พลอตหนัง ก็นับว่าน่าสนใจมากแล้ว แต่นี่คือเรื่องจริง!

           เรื่องราวในหนัง “กรีนบุ๊ค” เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในยุค 60’s ที่มีการเหยียดสีผิวอย่างรุนแรง โรงแรม ร้านค้า และสถานบริการต่างๆ ถึงกับประกาศชัดเจนว่า ไม่รับลูกค้าผิวสี  อย่างไรก็ตาม ในยุคนั้นก็มีคนผิวสีส่วนน้อยที่ร่ำรวยอยู่ด้วยเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือ ดร.ดอน เชอร์ลี ผู้ร่ำรวยจากความสามารถขั้นเทพในการเล่นเปียโนและแต่งเพลง เรื่องราวได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อเขาต้องเดินสายทำการแสดงตามเมืองต่างๆ ทั่วอเมริกาเป็นเวลากว่าสองเดือน และประกาศหาคนขับรถที่สามารถทำงานให้เขาได้ตลอดทริป

green book

ในที่สุด ดร. เชอร์ลี ก็ได้โชเฟอร์คู่ใจเป็น โทนี่ ลิป หนุ่มอเมริกันผิวขาวที่กำลังถังแตก และยินดีรับทุกงานที่ทำให้เขามีเงิน และงานนี้ก็ได้เงินดีซะด้วยซิ  โทนี่เป็นคนเจ้าอารมณ์ และมักใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ซึ่งตลอดการเดินทางไปกับ ดร. เชอร์ลี เขาทั้งคู่ต้องเผชิญกับปัญหามากมาย อันเกิดมาจากการเหยียดผิว และโทนี่เองก็ต้องใช้ทักษะหลายๆ อย่างที่ตัวเขามี เข้าไปแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้การทัวร์คอนเสิร์ตของเจ้านายผิวสีของเขา ดำเนินไปได้ตลอดรอดฝั่ง

Green book

           หนังเป็นแนวคอมเมอดี้ดราม่า ที่มีทั้งความสะเทือนใจ และแทรกความฮาแบบตลกร้ายเอาไว้ตลอดเรื่อง นักแสดงนำอย่าง Viggo Mortensen ผู้รับบทโชเฟอร์เลือดร้อนอย่างโทนี่ นับว่าแสดงได้ดีในทุกบทบาท ทั้งกวนประสาท กราดเกรี้ยว หรือแม้แต่บทซึ้งก็ทำเอาคนดูน้ำตาซึมตามไปด้วยเหมือนกัน และ Mahershala Ali ผู้รับบท ดร. เชอร์ลี ก็เล่นเข้าถึงบทบาท จนทำให้ดูแล้วอินและเห็นใจคนผิวสีไปด้วยจริงๆ

Green Book – Official Trailer [ ตัวอย่าง ซับไทย ]

Tag #Green Book #กรีนบุ๊ค #Viggo Mortensen #Mahershala Ali #Mongkol Major Mongkol Cinema ##mongkolmajor #ซีรีย์ หนัง #news-entertainments.com

แนะนำหนังน่าดู Mile 22

mile22

Mile 22 คนมหากาฬ เดือดมหาประลัย จัดได้ว่าหนังแอ็คชั่นอีกเรื่องหนึ่งที่มีความมันส์และครบครันด้วยคุณภาพ โดยถือว่าการเป็นการร่วมงานกันอีกครั้งหนึ่ง ของผู้กำกับ ปีเตอร์ เบิร์ก กับพระเอกยอดฝีมือ มาร์ค วอลเบิร์ก สำหรับคุณภาพและความมันส์การรันตีอย่างแน่อน

สำหรับเรื่องนี้ทั้งคู่ก็ยังคงรักษาคุณภาพเอาไว้ได้เป็นอย่างดี แต่ก็ยังรู้สึกว่าเป็นหนังทดลองที่ทั้งคู่อยากที่จะทำร่วมกันมากกว่ามันจึงยังไม่รู้สึกว่าเทียบเท่ากับหนังเรื่องที่ผ่านมา ซึ่งถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบหนังแอ็คชั่นมันส์ไม่เน้นเนื้อเรื่องมากนักก็อาจจะผิดหวังได้

แต่หากชื่นชอบหนังที่ใช้ความคิดตามแถมยังมันส์ด้วยก็บอกเลยเรื่องนี้ตอบโจทย์คุณอย่างแน่นอน เพราะเนื้อเรื่องมีความซับซ้อนในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เรียกได้ว่าปวดหัวได้เลยล่ะ แต่เมื่อดูไปจนจบแล้วคุณจะรู้สึกว่าอยากให้ทำภาคต่อออกมาอีก ซึ่งความรู้สึกของผมเป็นแบบนั้นเมื่อหนังจบ เอาเป็นว่าหากใครอยากมีอาการแบบผมให้ดูหนังเรื่องนี้ครับ Mile 22 คนมหากาฬ เดือดมหาประลัย

mile22

ในส่วนของเนื้อเรื่อง Mile 22

Mile 22 เป็นเรื่องราวของ เจมส์ ซิลวา (มาร์ค วอลเบิร์ก) ซึ่งเขาคือหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการลับ โอเวอร์ว็อช ของ ซีไอเอ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ตั้งขึ้นมาเป็นหน่วยปฏิบัติการณ์ลับ และด้วยเกิดเหตุสารเคมีที่ใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตอาวุธนิวเคลียได้ถูกขโมยไป จึงทำให้กลุ่ม โอเวอร์ว็อช ต้องกลับมาปฏิบัติการณ์อีกครั้ง

โดยมี ลี นัวร์ ตำรวจของประเทศที่ไม่เปิดเผยชื่อในหนัง เป็นคนที่รู่ว่าสารเคมีนั้นถูกขโมยไปไหน โดยเขาเรียกร้องขอให้ทำการลี้ภัยเขาออกนอกประเทศเพื่อแลกกับการเปิดเผยความลับ โดยกลุ่ม โอเวอร์ว็อช ของ เจมส์ ซิลวา จึงต้องรับหน้าที่ในการพา ลี นัวร์ ลี้ภัยออกนอกประเทศ 

โดยต้องต่อสู้กับกลุ่มที่หมายจะเอาชีวิตของ ลี นัวร์ เพื่อปิดปากไม่ให้ความลับถูกเปิดเผย ซึ่งเป็นกลุ่มคนใหญ่คนโตของประเทศนั่นเอง และพวกเขาจะทำได้สำเร็จหรือไม่ ท่านสามารถติดตามได้ในหนังเลยครับ 

mile22

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากหนังเรื่อง Mile 22 

สำหรับหนังเรื่อง Mile 22 เป็นการร่วมงานกันทำหนังแอ็คชั่นคุณภาพดี กันเป็นครั้งที่ 4 แล้วของ ผู้กำกับ ปีเตอร์เบิร์กกับ มาร์ค วอร์เบิร์ก โดย 3 เรื่องก่อนหน้านั้นคือ Lone Survivor , Deep Water Horizone และ Patriots Day ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นผู้กำกับและนักแสดงคู่บุญกันเลยก็ว่าได้ และประเทศที่เกิดหุตการณ์ขึ้นในหนังเรื่องนี้ล้วนแต่เป็นประเทศสมมุติขึ้น แต่ก็พอเดาออกว่ามันคือที่ไหน ซึ่งอยู่ฝั่งเอเชียเรานี่เอง

Tag #Mile 22 #Mile 22คนมหากาฬ เดือดมหาประลัย #ปีเตอร์ เบิร์ก #มาร์ค วอลเบิร์ก #หนังแอ็คชั่น

#Mongkol Major Mongkol Cinema #mongkolmajor #ซีรีย์ หนัง #news-entertainments.com

Behind Her Eyes : ปมนัยน์ตา หนังระทึกขวัญทางจิตวิทยา

Behind Her Eyesปมนัยน์ตา

รีวิว Behind Her Eyes เป็นซีรีส์ระทึกขวัญแนวจิตวิทยาถูกสร้างมาจากนวนิยายดังของ  Sarah Pinborough และพึ่งเข้ามาใน Netflix ไม่กี่เดือน เรื่องนี้จะเกี่ยวกับความสัมพันธ์รักสามเส้า เลขาแม่เลี้ยงเดี่ยวแอบหลงรักเจ้านายตัวเองที่แต่งงานแล้วซึ่งมันน่าสนใจตรงที่พวกเธอต่างมีฝันผวาที่เป็นปมสำคัญของเรื่องนี้ 

คำเตือน : มีติดเรท18+บางฉาก ดูแล้วรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเนื่องจากเป็นหนังแนวจิตวิทยาและค่อนข้างจะใช้ความอดทนในการดูสูง 

เนื้อเรื่อง

เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับตัวละครเด่นสี่ตัว โดยหลัก ๆ จะเป็นลูอีส หญิงสาวอารมณ์ขัน เธอเป็นเลขาของเดวิดชายหนุ่มที่ฉายแววของความเจ็บปวดและความกังวลอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าเขาจะมีภรรยาแล้วก็ตามแต่เขากลับถูกเสน่ห์ลูอีสดึงดูดในคืนนั้น ก็เลยทำให้ทั้งคู่ตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น แน่นอนว่าลูอีสยังเผลอใจไปพัวพันกับชีวิตคู่แสนบิดเบี้ยวและซับซ้อนของพวกเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และความลับของเดวิดกับอเดลที่ควรจะถูกปิดไว้เริ่มถูกเปิดเผยขึ้นมาทีละนิดจนค้นพบความจริงที่น่าตกใจและยากที่จะเชื่อ หลังจากผ่านพ้นพาทนี้ไปก็จะเริ่มเล่าถึงตัวละครที่ชื่ออเดลและตัวละครลึกลับอีกตัวที่จะเป็นกุญแจไขเรื่องราวปริศนาทั้งหมด

บทบาทนักแสดง

Simona Brown รับบทเป็น ลูอีส แม่เลี้ยงลูกเดี่ยวที่เผลอใจไปแอบรักเจ้านายของตัวเอง เธอเป็นคนที่ ตลก พูดตรง มองโลกในแง่ดีแต่มักจะฝันร้ายอยู่บ่อย ๆ เป็นฝันร้ายที่ไม่มีทางรักษาให้หาย 

Tom Bateman รับบทเป็น เดวิด  หนุ่มจิตแพทย์เสน่ห์แรง เป็นคนที่จริงจังกับงานและมักจะตามติดกับชีวิตประจำวันของภรรยาเขามากเกินไปในเชิงกังวล

Eve Hewson รับบทเป็น อเดล แฟนเดวิดเธอเป็นคนที่สวย สมบูรณ์แบบทุกอย่างและเห็นลูอีสเป็นเพื่อนคนเดียวที่เข้าใจเธอ ซึ่งหลัง ๆ เธอจะเริ่มมีบุคลิกแปลก ๆ ที่ไม่สามารถคาดเดาได้

ความสัมพันธ์ที่พัฒนาไปไกล

หลัง ๆ เดวิดแทบไม่อยากกลับบ้าน เพราะอเดลยิ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดถึงการกระทำของเธอในอดีตมากขึ้น เขาเลือกที่จะไปหาลูอีสและมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้ง ในตอนนั้นอเดลรับบทเป็นคนที่น่าสงสารที่สุดเลยก็ว่าได้เพราะว่าเธอไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย อเดลคอยปรึกษาลูอีสแทบจะทุกครั้งกับพฤติกรรมของสามีที่เริ่มเปลี่ยนไปซึ่งก็เป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนทำให้พวกเขาสองคนเริ่มสนิทกัน ในตอนนั้นอเดลก็ได้รู้ความลับของลูอีสและเธอก็ตัดสินใจที่จะช่วยให้ลูอีสหลุดพ้นจากมันพร้อมทั้งหยิบยื่นบางสิ่งบางอย่างให้ แต่ใครจะไปรู้ว่าความหวังดีของเธอดันกลายเป็นหายนะตัวร้ายในวันข้างหน้า

ปริศนาดวงตาแห่งฝันร้าย

กว่าทุกอย่างจะเฉลยก็เกือบใกล้จะจบตอน เราจะได้เห็นถึงบทบาทของตัวละครปริศนาอีกตัวมากขึ้น ตัวละครนี้จะให้คำตอบเราเกี่ยวกับปมลึกลับที่เขาได้กุมไว้นานแสนนานและจะไม่มีทางที่คนอื่น ๆ ได้รับรู้แน่นอนนอกจากตัวเขาคนเดียว เป็นตอนที่พีคซ้ำซ้อนที่จะทำให้คุณรู้สึกปรับอารมณ์ไม่ถูกแน่นอน

Behind Her Eyes ปมนัยน์ตา

ความรู้สึกหลังชม

ส่วนดี : เนื่องจากว่าเป็นซีรีส์ที่ถูกสร้างมาจากนวนิยายแนวจิตวิทยา ทำให้มีความรู้สึกจดจ่อกับเนื้อเรื่องและตั้งใจดูมาก แต่ผ่านไปไม่กี่ตอนก็เริ่มรู้สึกอึดอัดเหมือนกับว่าหนังไม่ได้เล่นกับหนังอย่างเดียวแต่ยังเล่นกับความรู้สึกของคนดูอีกด้วย นั่นก็หมายความว่าหนังทำออกมาได้ดีมากที่ทำให้คนดูมีความรู้สึกร่วมด้วย ในส่วนของการแสดงนั้นทุกคนมีความมืออาชีพมากและสุดท้ายคือฉากบรรยากาศของหนัง มีความเก็บรายละเอียดได้ดีสื่อกลิ่นอายความเป็นตัวเมืองและชนบทได้ชัดเจนมาก ๆ 

ส่วนเสีย : ส่วนตัวเราไม่อินกับตอนจบที่วางไว้เลยมันเหมือนกับว่าเอาเวลาที่ดูเกือบทั้งตอนมาเสียเปล่าจริง ๆ เพราะในขณะที่ดูเราค่อนข้างคาดหวังกับตัวหนังไว้พอสมควรและอยากให้กลายเป็นตอนจบที่แฮปปี้ แต่หนังดันไม่ง่ายแบบนั้น เขามีปมที่ลึกลับซับซ้อนเป็นสิ่งที่เหนือธรรมชาติเข้ามาเกี่ยวข้องและตัดจบให้เราไปคิดต่อกันเอาเอง 

Behind Her Eyes : ปมนัยน์ตา เรื่องนี้สนุกมากค่ะเป็นซีรีส์ที่เดาได้ยาก ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบความท้าทายที่เล่นกับอารมณ์ของคนดูและอยากจะรู้เรื่องราวของจุดจบรักสามเส้า ฝันผวาที่กลายเป็นปมสำคัญของเรื่องนี้ เราขอแนะนำให้คุณมาหาคำตอบด้วยกันใน Netflix ค่ะ 

ข้อมูล Behind Her Eyes

ชื่อหนัง : Behind Her Eyes ปมนัยน์ตา

นักแสดง : Simona Brown l Tom Bateman l Eve Hewson 

ประเภท : จิตหลอน l บอกลางร้าย l ระทึกใจ

ตอน : 6 ตอน ยาว 50 นาที

เรท : 18+

รับชมได้ที่ : Netflix

เสียงรับชม : อังกฤษ l ญี่ปุ่น

Tag #Behind Her Eyes ปมนัยน์ตา #NETFLIX #ซีรีย์ หนัง #news-entertainments.com