ที่มาพร้อมฉากบู๊สุดเดือดที่เน้นโหด ไม่เน้นอลังการ แต่ด้านบทกลับไร้ซึ่งความแปลกใหม่ ที่ยังมาพร้อมพลอตสูตรสำเร็จที่เดาทางได้ตั้งแต่ต้นจนจบ
Kate หนังแอคชั่น ฟอร์มยักษ์เรื่องล่าสุดจาก Netflix ผลงานการกำกับโดย เซดริค นิโคลัส-โทรยัน (The Huntsman: Winter’s War) ที่ได้มือสร้างแอคชั่นแห่งยุคอย่าง เดวิด ไลตช์ (Hobbs & Shaw) มารับหน้าที่อำนวยการสร้าง ที่ได้ แมรี่ อลิซาเบธ วินสเตท ที่เคยรับบท The Huntress จาก Birds of Prey กลับมารับบทสาวนักบู๊อีกครั้ง ซึ่งหนังก็มาพร้อมโทนเรื่องแบบหนังบู๊ เลือดสาด แบบ John Wick เวอร์ชั่นผู้หญิงก็ว่าได้
โดยหนังจะว่าด้วยเรื่องราวของ เคท (แมรี่ อลิซาเบธ วินสเตท) นักฆ่าสาวมือฉมัง ที่เธอได้รับมอบหมายให้ทำการลอบสังหารหัวหน้าแก๊งยากูซ่าซึ่งเป็นภารกิจสุดท้ายในวงการของเธอ แต่ทว่าในระหว่างที่กำลังจะทำภารกิจอยู่นั้น เคทก็พบว่าตนได้ถูกวางยาพิษปริศนา ที่จะทำให้เธอตายภายในเวลา 24 ชั่วโมง ทางเดียวที่จะทำให้รอดชีวิตคือการตามหาคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด พร้อมหายาถอนพิษให้ทัน ซึ่งเธอก็ต้องร่วมมือกับ อานิ (มิกุ แพทริเซีย มาร์ตินโน) หนึ่งในลูกสาวของแก๊งยากูซ่า ที่ถูกตามล่าจากความขัดแย้งของครอบครัวตัวเอง
Kate ยังคงเป็นหนังจาก Netflix อีกเรื่องที่มาพร้อมความบันเทิงสูตรสำเร็จ ตามสไตล์หนังแอคชั่นป้อปคอร์น ที่อาจไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก โดยหนังจะมาพร้อมพลอตเรื่องที่ว่าด้วยการล้างแค้น การตามล่า ที่มีการไล่ระดับ จากระดับลูกน้อง ไปสู่บอสใหญ่ ที่ระหว่างทางก็เต็มไปด้วยการนองเลือดสุดเข้มข้น เคล้าไปด้วยดราม่าเล็ก ๆ ระหว่าง เคท และ อานิ และตามสไตล์ของ เดวิด ไลตช์ ที่ยังคงมีการขายฉากบู๊ที่โหด ดิบ เถื่อน สไตล์แบบ John Wick มีการผสมผสานศิลปะการต่อสู้หลากหลายรูปแบบ ทั้งมือเปล่า การใช้ปืนยิงกัน และการใช้อาวุธแบบต่าง ๆ ให้ออกมาเป็นรูปแบบการฆ่าที่ทั้งโหด และชวนหวือหวา อยู่ไม่น้อย
แต่กระนั้นนอกเหนือจากความบันเทิงจากฉากบู๊แล้ว Kate แทบจะล้มเหลวในด้านอื่น ๆ โดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านบทหนัง ที่ขาดความแปลกใหม่ ไม่ว่าจะเป็น คาแรคเตอร์ตัวละครที่มาตามสูตรหนังนักฆ่า และหนังยากูซ่า จนไม่มีอะไรให้น่าค้นหา การวางปมตัวละครที่ไม่ชัดเจน พร้อมทั้งการดำเนินเรื่องที่เดาทางได้ตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เป็นบทสรุปของเรื่อง ที่หนังพยายามจะหักมุม แต่มันกลับไม่สามารถสร้างเซอร์ไพรส์ให้คนดูได้ แถมยังรีบตัดจบแบบง่าย ๆ จนทำให้กลายเป็นตอนจบที่แห้งแล้ง จืดชืด ไปอย่างน่าเสียดาย
อีกหนึ่งส่วนที่น่าเสียดายคือหนังไม่สามารถใช้งานนักแสดงสมทบได้อย่างคุ้มค่าเท่าที่ควร ทั้ง ๆ ที่หนังเต็มไปด้วยดารา ที่น่าจะสามารถเพิ่มสีสันให้หนังได้ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น วู้ดดี้ ฮาร์เรนสัน (Venom: Let There Be Carnage) ,จุน คูนิมูระ (ซีรีส์ The Naked Director) และที่น่าเสียดายที่สุดคือ ไมเคิล ฮิวส์แมน (ซีรีส์ The Flight Attendant) ที่แต่ละคน ต่างมาในบทที่ไม่ต่างจาก ดารารับเชิญ ที่บทถูกนำมาใช้แบบทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ เพียงเท่านั้น
ในขณะที่ดารานำอย่าง แมรี่ อลิซาเบธ วินสเตท และ มิกุ แพทริเซีย มาร์ตินโน กลับเป็นสองดาราที่สามารถช่วยกันแบกหนังเอาไว้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะ วินสเตท ที่ในเรื่องนี้เธอมาพร้อมบทบู๊ที่จริงจังขึ้น ดิบ และดุดันมากขึ้น ซึ่งเธอก็สามารถถ่ายทอดบทบาทนักบู๊ออกมาได้อย่างน่าชื่นชม ในขณะที่ มาร์ตินนูว์ ก็สามารถเพิ่มสีสันให้หนังด้วยคาแรคเตอร์ที่สร้างรอยยิ้ม และเพิ่มมิติด้านดราม่าให้หนังได้อยู่พอสมควร
โดยรวม Kate ถือว่าเป็นอีกหนึ่งหนังแอคชั่นจาก Netflix ที่ไม่ได้มีอะไรหวือหวา แตกต่างมาก โดยเฉพาะด้านบทตามสูตรที่เดาทางกันได้ตั้งแต่ต้นจนจบ แต่กระนั้นหนังก็สามารถทำหน้าที่ในการมอบความบันเทิงแบบป้อปคอร์นได้เป็นอย่างดีในตลอดเวลา 100 นาทีของหนังเรื่องนี้ ใครที่มองหาหนังบู๊ เน้นโหด ไม่เน้นอลังการ ที่มาพร้อมความดิบ เลือดสาด สไตล์ John Wick ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่ง
สามารถรับชม Kate ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix
Cr.ภาพ : Netflix