ริวิวหนัง Ad Astra : หนังผจญภัยอวกาศยุคใหม่

ริวิวหนัง Ad Astra

ที่นำเสนอบรรยากาศนอกโลกออกมาได้ยิ่งใหญ่ สมจริง พร้อมเนื้อหาที่ชวนตื่นเต้น น่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง แต่กลับล้มเหลวในพาร์ทดราม่าอย่างน่าเสียดาย

Ad Astra คือหนังแอคชั่น ไซไฟ เมื่อปี 2019 ผลงานการกำกับของ เจมส์ เกรย์ (Lost of City Z) และยังเป็นการร่วมเขียนบทระหว่าง เกรย์ และ อีธาน กรอส (ซีรีส์ Fringe) ภายใต้การสร้างของ 20th Century Fox ซึ่งหนังก็ได้ดาราดังอย่าง แบรต พิตต์ มารับบทนำ ร่วมสมทบโดยนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง ทอมมี่ ลี โจนส์ (Jason Bourne)

หนังจะว่าด้วยเรื่องราวของ รอย แมคบริด (แบรต พิตต์) นักบินอวกาศ ที่ได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจลับ ในการเดินทางไปยังดาวเนปจูน เพื่อตามหา เอช คริฟฟอร์ด แมคบริด (ทอมมี่ ลี โจนส์) คุณพ่อของเขาที่ได้ทำภารกิจเดินทางสำรวจจักรวาลเมื่อหลายสิบปีก่อน เพื่อตามหาสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก โดย รอย ต้องพยายามส่งข้อความถึงพ่อของเขา และหาทางยับยั้งมหัตภัยครั้งใหญ่จากนอกโลกที่อาจมาถึงโลกมนุษย์ในเร็ววัน ซึ่งเงื่อนไขของภารกิจนี้คือรอยต้องเก็บมันไว้เป็นความลับเพียงคนเดียวเท่านั้น

ในฐานะหนังไซไฟ อวกาศ Ad Astra ถือว่าเป็นอีกหนึ่งหนังแนวนี้ในยุคหลัง ๆ ที่ทำออกมาได้ดีไม่แพ้รุ่นใหญ่อย่าง Gravity, Interstellar หรือ First Man โดยเฉพาะในด้านงานโปรดักชั่นที่เน้นความสมจริงก็ระบบสุริยะ ตลอดความยาว 2 ชั่วโมงของ Ad Astra หนังได้พาคนดูไปร่วมผจญภัยในอวกาศร่วมกับตัวละคร ซึ่งหนังก็สามารถนำเสนอวิสัยทัศน์นอกโลกออกมาได้ยิ่งใหญ่ สวยงาม ทั้งนี้ต้องขอชื่นชมงานกำกับภาพของ ฮอยเต้ แวน ฮอยเตมา มือกำกับภาพที่เคยร่วมงานกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน มาแล้วใน Interstellar, Tenet ซึ่งในเรื่องนี้เขาก็ยังสามารถถ่ายทอดบรรยากาศของอวกาศ โดยเฉพาะภาพมุมกว้างออกมาได้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

ด้านการดำเนินเรื่องหนังจะมาในโทนดราม่า ระทึกขวัญ ซึ่งในตลอดทั้งเรื่องหนังได้มีการเล่นกับความน่าจะเป็น ถึงความระทึกต่าง ๆ ที่น่าจะเกิดขึ้นในอวกาศไม่ว่าจะเป็นภัยจากมนุษย์ด้วยกันเอง หรือภัยพิบัติจากธรรมชาติ ซึ่งหนังก็ได้มีการใส่อุปสรรคเหล่านี้มาให้ได้ลุ้น ได้ติดตามตลอดทั้งเรื่อง โดยที่หนังไม่ได้เน้นศัพท์เฉพาะทาง หรือเน้นความเป็นไซไฟจ๋าจนถึงขั้นดูไม่รู้เรื่อง ในขณะเดียวกันหนังก็สอดแทรกพาร์ทดราม่าความสัมพันธ์พ่อลูก และการพูดถึงจิตใจของตัวละคร รอย ไปพร้อม ๆ กันได้อย่างลงตัว

แต่กระนั้น พาร์ทดราม่าของหนังเองก็กลายเป็นจุดด้อยที่เด่นชัดของหนังเรื่องนี้ เนื่องจากหนังพยายามขายความตื่นเต้น ระทึกขวัญ เป็นส่วนใหญ่ แต่ทว่าในด้านพาร์ทดราม่าหนังกลับนำเสนอออกมาได้เบาบาง ความสัมพันธ์ของ รอย และพ่อ ไม่สามารถจะทำให้คนดูรู้สึกร่วมไปกับหนังได้ ผิดกับดราม่าของ Interstellar ที่กลายเป็นหนึ่งในดราม่าหนังอวกาศโดยสิ้นเชิง นอกจากนี้หนังยังพยายามเล่นกับปมในอดีตของตัวละคร แต่ก็กลับสามารถเล่าออกมาได้ดีพอ จนกลายเป็นช่วงที่น่าเบื่อของหนังไปอย่างน่าเสียดาย

การแสดงของ แบรต พิตต์ ในเรื่องนี้ยังคงถ่ายทอดบทบาทออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมสมกับเป็นดาราระดับเอลิสท์ พิตต์สามารถทำให้คนดูเชื่อในความเป็นนักบินอวกาศ และยังมาพร้อมลุ้คที่เท่ และชวนจดจำ ในขณะที่ด้าน ทอมมี่ ลี โจนส์ ที่แม้จะออกมาน้อย แต่ก็สามารถสร้างสีสันให้หนังได้เป็นอย่างดี เสียดายเพียงเคมีการแสดงในฐานะพ่อ และลูกระหว่างเขากับพิตต์ กลับไม่สามารถทำให้คนดูเชื่อได้อย่างที่ควร

โดยรวม Ad Astra เรียกได้ว่าเป็นหนังผจญภัยในอวกาศอีกเรื่องในยุคหลัง ๆ ที่ถ่ายทอดบรรยากาศของระบบสุริยะออกมาได้อย่างสมจริงที่สุดอีกเรื่อง หนังมีการดำเนินเรื่องที่ชวนตื่นเต้น น่าติดตาม ตลอดทั้งเรื่อง แม้ว่าในด้านพาร์ทดราม่าหนังจะทำออกมาได้ค่อนข้างล้มเหลว แต่ตลอดความยาว 2 ชั่วโมงในหนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นอีกประสบการณ์ที่คอหนังไซไฟไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

สามารถรับชม Ad Astra ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix

Crภาพ : IMDB

ติดตามบทความ ซีรีย์-หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง