รีวิวหนัง Cruella: หนังอาชญากรรมสไตล์ Disney

Cruella

รีวิวหนัง Cruella: หนังอาชญากรรมสไตล์ Disney ที่กล้าฉีกกรอบตัวเองด้วยการเพิ่มความดาร์ค ความสมจริงเข้าไป พร้อมทั้งถ่ายทอดสงครามแฟชั่นดีไซน์ ออกมาได้โดดเด่น อลังการ เอมม่า สโตน เป็นครูเอลล่า ที่ทั้งร้าย และแซ่บ จนสะกดคนดูได้อยู่หมัดทั้งเรื่อง

หลังจากที่เมื่อปี 2019 ด้าน Warner Bros. และ DC ได้มีหนังที่ว่าด้วยวายร้ายในตำนานอย่าง Joker จนคว้ารางวัลจากหลายเวที และได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์ และคนดูอย่างล้นหลาม ในปี 2021 นี้ ค่ายหนังสำหรับครอบครัวอย่าง Disney ก็ได้มีหนังที่ว่าด้วยวายร้ายที่กลายเป็นกระแสที่ถูกจับตามาก ๆ ในปีนี้อย่าง Cruella ที่หยิบตัวร้ายจาก 101 Dalmatians มาต่อยอด โดยได้นักแสดงสาวมากฝีมืออย่าง เอมม่า สโตน มารับบทนำ

เรื่องราวของหนังจะพูดถึง เอสเทร่า (เอมม่า สโตน) หญิงสาวที่เกิดมาพร้อมสีผมที่แตกต่างจากคนอื่นคือสีขาว และดำอย่างละครึ่ง ผู้มีความฝันอยากเป็นดีไซน์เนอร์ โดยเธออาศัยอยู่กับแม่เพียงสองคน ซึ่งตัว เอสเทร่า ก็เป็นเด็กหญิงที่มีนิสัยไม่ยอมแพ้ ชอบทะเลาะกับเพื่อน ๆ จนทำให้เธอเข้าห้องปกครองอยู่บ่อย ๆ จนวันหนึ่ง แม่ของ เอสเทร่า ได้พาเธอได้ยังงานเลี้ยงแฟชั่นโชว์ของ บารอนเนส (เอมม่า ทอมป์สัน) ดีไซน์เนอร์ชื่อดัง และในที่นั่นเองก็ได้เกิดอุบัติเหตุที่ทำให้แม่ของเอสเทร่า ตกหน้าผาตาย

หลังจากนั้น เอสเทร่า ก็ได้กลายเป็นเด็กกำพร้า ที่เข้ามาใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ ด้วยการเป็นขโมยร่วมกับ แจสเปอร์ (โจเอล ฟราย) และ ฮอเรช (พอลล์ วอลเตอร์ เฮาเซอร์) จนเมื่อ เอสเทร่า เติบโตจนเป็นสาว เธอก็ได้รับโอกาสสำคัญจาก บารอนเนส ทีชวนให้เธอมาเป็นดีไซน์เนอร์ในชุดแฟชั่นของเธอ ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต ที่ทำให้ เอสเทร่า ต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อเธอได้พบความจริงบางอย่างที่ทำให้เธอต้องกลายเป็นคนชั่วที่มีนามว่า “ครูเอลล่า”

Cruella เรียกได้ว่าเป็นหนังที่ฉีกกรอบเดิม ๆ ของ Disney ที่เราคุ้นเคยไปโดยสิ้นเชิง แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยมี Maleficent หนังที่ว่าด้วยแม่มดร้ายของ แองเจลิน่า โจลี่ ก็ตาม แต่เรื่องดังกล่าวก็ยังมีความสดใส ความโลกสวยสไตล์ Disney อยู่พอสมควร แต่สำหรับ Cruella นั้นได้กลายเป็นหนังของวายร้ายไปโดยสมบูรณ์ไม่ต่างจากที่ Joker เคยทำไว้ โดยหนังได้มาในโทนของหนังอาชญากรรม ระทึกขวัญ ที่มีฉากหลังอยู่ในอังกฤษช่วงยุค 60-70 และยังเป็นหนึ่งในหนังไม่กี่เรื่องของ Disney ที่ไม่มีเรื่องแฟนตาซี หรือเวทมนต์เข้ามาเกี่ยวข้อง

ตัวหนังมีการวางปมของตัวละคร เอสเทร่า ที่ค่อย ๆ กลายมาเป็น ครูเอลล่า ได้อย่างน่าติดตาม โดยได้มีการผสมผสานทั้งความเป็นหนังดราม่า อาชญากรรม และคอเมดี้ ที่เข้ากันได้ลงตัว หนังสามารถทำให้ตัวละคร เอสเทร่า เปี่ยมไปด้วยมิติ มีการพัฒนาการแบบไล่ระดับที่ชัดเจน ซึ่งในส่วนเหล่านี้จะเป็นการเฉลยปมต่าง ๆ ของวายร้ายผู้นี้ใน 101 Dalmatians ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

แต่ความสนุกของหนังเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่การดูพัฒนาการของตัวละคร เอสเทร่า เท่านั้น แต่หนังยังมาพร้อมพาร์ทการจารกรรม การล้างแค้นด้วยแฟชั่น ที่ทำออกมาได้ดุเด็ดเผ็ดมันส์จนละสายตายไม่ได้อีกด้วย โดยในส่วนของพาร์ทจารกรรมนั้น หนังก็มาพร้อมฉากการปล้นที่เหนือชั้น โดยในเรื่องจะมาพร้อมการปล้นแบบเป็นทีมที่ให้กลิ่นอายแบบหนังชุด Ocean’s แต่พอมันเป็นงานของ Disney ก็ได้มีการลดความรุนแรงลง และเพิ่มสีสันความน่ารักของเหล่าสุนัขที่เป็นหนึ่งในสมาชิกทีมปล้น เข้าไปสร้างสีสัน ความน่ารักซุกซนให้คนดูได้ยิ้มกันเป็นช่วง ๆ

ส่วนอีกหนึ่งความพีคของหนังเรื่องนี้คือการล้างแค้นของตัว ครูเอลล่า ที่มีการใช้แฟชั่น ในการต่อสู้ ซึ่งหนังก็ได้มีการออกมาคอสทูมของตัวละคร ออกมาได้โดดเด่น แปลกตา ในแทบจะทุกชุด โดยแฟชั่นในเรื่องนี้ไม่ได้เพียงแค่ความงาม เป็นศิลปะเท่านั้น แต่มันคืออาวุธที่ตัวละครเอาไว้ฟาดฟันอย่างเหนือชั้น ยิ่งเมื่อมาผลมกับพาร์ทจารกรรมที่ชวนติดตาม มันทำให้หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยฉากปฏิบัติการณ์ล้างแค้นที่มีชั้นเชิง เกินคาดเดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงองก์สามของหนัง ที่เป็นการเอาคืนครั้งสุดท้าย ที่เต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์และบทสรุปที่สวยงามลงตัว

การแสดงของ เอมม่า สโตน ในเรื่องนี้ ก็สามารถถ่ายทอดพัฒนาการของตัวละครจาก เอสเทร่า มาสู้ครูเอลล่า ออกมาให้เห็นความแตกต่างที่ชัดเจน พร้อมทั้งยังถ่ายทอดความร้าย ความแซ่บ ของ ครูเอลล่า ออกมาได้สมบทบาท ซึ่งการแสดงบทร้ายของ สโตนในเรื่องนี้ ก็ให้อารมณ์เหมือนว่ากำลังดู Joker เวอร์ชั่นผู้หญิง ที่มีทั้งความดาร์ค และความน่าสงสารอยู่ในคน ๆ เดียวกัน นับได้ว่าเป็นอีกบทบาทของ สโตน ที่น่าจดจำ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เธอเคยรับบทนางร้ายมาแล้วใน The Favourite และเป็นไปได้ว่าในอนาคตเราอาจได้เห็นเธอในบทที่ร้าย และแรงยิ่งกว่าเดิม

โดยรวม Cruella ถือว่าเป็นงานของ Disney ที่กล้าฉีกกรอบเดิม ๆ ของตัวเองได้อย่างน่าประทับใจ หนังสามารถนำสนอเรื่องราวของวายร้าย ให้ออกมาดาร์คแบบกำลังดี ตัวละครเต็มไปด้วยมิติ เนื้อหาที่น่าติดตาม และยังมีความน่ารักสดใส แบบ Disney โดยที่ตัวหนังยังไม่เสียความเป็นตัวเอง จึงไม่น่าแปลกที่หนังเรื่องนี้จะสามารถเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ครองใจคนดูในปีนี้ไปเป็นที่เรียบร้อย

สามารถรับชม Cruella ได้แล้ววันนี้ที่ Disney+ Hotstar รีวิวหนัง Cruella: หนังอาชญากรรมสไตล์ Disney

Cr.ภาพ: IMDB, Rotten Tomatoes

ลิงก์ตัวอย่าง: https://youtu.be/JpIdQwH6KaE

ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง 

รีวิวหนัง Free Guy: หนังแอคชั่น ฟีลกู้ดแห่งปี 2021

รีวิวหนัง Free Guy: หนังแอคชั่น ฟีลกู้ดแห่งปี 2021

เป็นผลงานหนังแอคชั่น คอเมดี้ ฟีลกู้ด ผลงานการกำกับของ ชอว์ เลวี่ (The Internship) โดยผลงานเรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เอาใจขาวเกมเมอร์โดยแท้จริง เพราะหนังจะว่าด้วยเรื่องราวของเกม ๆ หนึ่งที่มีชื่อว่าฟรีซิตี้ เกมแนว Open World ที่ให้คนเล่นเข้าไปผจญภัยในโลกของเกมที่สมจริง เหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อ กาย (ไรอัน เรย์โนลด์) หนึ่งในตัวละคร NPC หรือตัวละครประกอบในเกมที่ถูกสร้างมาให้มีชีวิตที่วนลูป แต่วันหนึ่ง กาย ได้พบกับ มิลลี่ (โจดี้ คอร์เมอร์) หญิงสาวที่ทำให้เขาตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ และนั่นก็ทำให้ชีวิตของ กาย ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อเขาได้ออกจากลูปเดิม ๆ และได้เริ่มใช้ชีวิต NPC ในบทบาทของผู้เล่นคนหนึ่งที่ไล่เก็บเลเวล รวมถึงใช้ชีวิตแบบคนปกติ

รีวิวหนัง Free Guy: หนังแอคชั่น ฟีลกู้ดแห่งปี 2021
รีวิวหนัง Free Guy: หนังแอคชั่น ฟีลกู้ดแห่งปี 2021

เรียกได้ว่าเป็นหนังที่สามารถใช้คุณสมบัติพิเศษของตัวเองออกมาใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม ตัวหนังสามารถใช้ความเป็นเกม มาเป็นลูกเล่นในหนังได้อย่างชาญฉลาด ซึ่งหากใครที่เป็นเกมเมอร์ หรือชอบเล่นเกมออนไลน์น่าจะอินไปกับหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยาก ในขณะเดียวกันนอกเหนือจากการใช้ประโยชน์จากความเป็นเกมได้ดีแล้ว หนังยังสามารถนำเสนอประเด็นความเป็นหนังไซไฟ ที่ว่าด้วย AI หรือคอมพิวเตอร์ ออกมาได้น่าสนใจ ชวนติดตามไม่แพ้กัน ซึ่งในส่วนนี้ก็ทำให้หนังมีกลิ่นอายแบบซีรีส์ Black Mirror ของ Netflix

รีวิวหนัง Free Guy: หนังแอคชั่น ฟีลกู้ดแห่งปี 2021
รีวิวหนัง Free Guy: หนังแอคชั่น ฟีลกู้ดแห่งปี 2021

นอกจากด้านความเป็นเกม ความเป็นหนังว่าด้วยไอทีแล้ว ความพิเศษ คือการนำเสนองานโปรดักชั่นที่ยิ่งใหญ่ ตระการตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างสรรค์ฉากแอคชั่นที่แปลกตา มีความเวอร์วัง ซึ่งตัวหนังก็ได้มีการนำเสนอฉากแอคชั่นที่ล้อเลียน และได้แรงบันดาลจาจากหนังดัง ๆ มากมาย พร้อมทั้งยังซ่อนเซอร์ไพรส์เอาใจเนิร์ดหนัง เนิร์ดเกมทั้งหลาย ที่เชื่อว่าเมื่อดูแล้วจะต้องอิ่มอกอิ่มใจกันอย่างแน่นอน

รีวิวหนัง Free Guy: หนังแอคชั่น ฟีลกู้ดแห่งปี 2021
หนังแอคชั่น ฟีลกู้ดแห่งปี 2021

ในด้านความฟีลกู้ดของหนังก็เป็นอีกหนึ่งจุดขายที่หนังทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยมไม่แพ้กัน หนังสามารถหยิบความน่ารัก เป็นกันเอง ตามสไตล์ของ ไรอัน เรย์โนลด์ มาใช้งานได้อย่างคุ้มค่า การแสดงของเขา สามารถทำให้คนดูหลงรักตัวละครกาย ตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นตัวละครนี้ รวมทั้งการสอดแทรกมุกตลกแบบพอหอมปากหอมคอ ที่ทำเอาชวนยิ้มตามตลอดทั้งเรื่อง ในขณะที่พาร์ทโรแมนติก ก็สามารถสร้างอารมณ์ร่วมกับคนดู ให้ได้จิ้นความสัมพันธ์ของตัวละครได้ดีไม่แพ้กัน จนเมื่อส่วนหล่านี้มาผสมผสานกันอย่างละเล็กละน้อย ทำให้ Free Guy เป็นหนังที่เป็นมิตรต่อคนดูมาก ๆ เรื่องหนึ่งของปีนี้

รีวิวหนัง Free Guy: หนังแอคชั่น ฟีลกู้ดแห่งปี 2021
หนังแอคชั่น ฟีลกู้ดแห่งปี 2021

โดยรวม นับว่าเป็นอีกหนึ่งฟีลกู้ดแห่งปี 2021 ที่คอหนังไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ตัวหนังเต็มอิ่มด้วยความบันเทิง ทั้งจากความตลก ความอบอุ่น ความน่ารักของหนัง รวมทั้งฉากแอคชั่น ที่จัดเต็ม ให้ความรู้สึกที่ชวนลุ้น ชวนติดตามตลอดเวลา เรียกได้ว่าเป็นอีกเรื่องที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับชมกับครอบครัวในช่วงเทศกาลแห่งความสุขสิ้นปีนี้โดยแท้จริง

สามารถรับชม Free Guy ได้แล้ววันนี้ที่ Disney+ Hotstar

Cr.ภาพ: Rotten Tomatoes, IMDB

ติดตามบทความ บันเทิง ดารา-นักร้อง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง