“Oxygen” หนังระทึกขวัญ ไซไฟ ผลงานล่าสุดของ อเลกซานเดอ อาจา

Oxygen หนังระทึกขวัญ ไซไฟ

เมลานี โลรองต์ เป็นหญิงสาวที่ต้องตามหาความทรงจำภายใน 90 นาที ใน “Oxygen” หนังระทึกขวัญ ไซไฟ ผลงานล่าสุดของ อเลกซานเดอ อาจา

Oxygen หนังระทึกขวัญ ไซไฟ

เชื่อว่าใครที่เป็นคอหนังสยองขวัญ/ระทึกขวัญ น่าจะต้องเคยดูหนังเรื่อง Buried หนังที่นำแสดงโดย ไรอัน เรย์โนลด์ ที่รับบทเป็นชายที่ถูกฝังทั้งเป็นอยู่ในโลงไม้ และต้องเจรจากับผู้ก่อการร้ายที่เชื่อว่าคือคนที่จับตัวเขามาฝัง

ตลอดทั้งเรื่อง Oxygen หนังเล่าเหตุการณ์ภายในโลงไม้แคบ ๆ จนมันกลายเป็นหนังระทึกขวัญที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ ล่าสุดในปี 2021 นี้เรากำลังจะได้ชมหนังระทึกขวัญเรื่องใหม่ที่มาในธีมเดียวกับ Buried แต่ครั้งนี้มาในรูปแบบหนังไซไฟ สุดล้ำ กับหนังที่มีชื่อว่า “Oxygen”

Oxygen หนังระทึกขวัญ ไซไฟ

โดยหนังจะว่าด้วยเรื่องราวของ อลิซาเบธ เฮนสัน (เมลานี โลรองต์) หญิงสาวที่ตื่นขึ้นมาและพบว่าตนอยู่ในโลงแห่งหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยเทคโนโยีสุดไฮเทค ตัว อลิซาเบธ นั้นได้สูญเสียความทรงจำของตัวเอง สิ่งเดียวที่สามารถพูดคุยโต้ตอบ และเป็นผู้ช่วยของเธอในที่แห่งนี้คือ “มิโล” AI อัจฉริยะ

ที่คอยช่วยเหลือเธอในการสืบสาวราวเรื่องจากทั้งหมดผ่านฐานข้อมูลต่าง ๆ อลิซาเบธ จะต้องหาความจริงทั้งหมดว่าใครคือคนที่นำเธอมาใส่ไว้ในโลง และที่มาของเหตุการณ์ทั้งหมดคืออะไรกันแน่ ซึ่งเธอจะต้องหาคำตอบทั้งหมดให้ทันภายใน 90 นาที ก่อนที่ออกซิเจนในโลงของเธอจะหมดลง

Oxygen หนังระทึกขวัญ ไซไฟ

Oxygen เป็นผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของ อเล็กซานเดอ อาจา มือกำกับหนังสยองขวัญที่เคยมีผลงานสุดโด่งดังในด้านความโหด ดิบ ระทึกมากมายไม่ว่าจะเป็น High Tension, Mirrors, Horns และล่าสุดกับหนังเรื่อง Crawl ซึ่ง Oxygen ก็ถือว่าเป็นการกลับมากำกับหนังภาษาฝรั่งเศสในรอบ 18 ปีของเขา นับตั้งแต่ High Tension ร่วมแสดงนำโดย เมลานี โรลองค์ (Inglourious Basterds และ 6 Underground) และ แมทธิว อมัลริค (The Grand Budapest Hotel และ Sound of Metal)

Oxygen หนังระทึกขวัญ ไซไฟ

ความน่าสนใจของ Oxygen ที่ต่างจาก Buried คือการผสมผสานความเป็นหนังไซไฟ สืบสวนสอบสวน และหนังระทึกขวัญอยู่ในเรื่องเดียว ต่างจาก Buried ที่เน้นไปทางระทึกขวัญเป็นหลัก หนังเต็มไปด้วยความล้ำสมัยสไตล์หนังไซไฟ พร้อมทั้งยังมีประเด็นของ AI สอดแทรกอยู่ด้วย

ส่วนการสืบสวน จากตัวอย่างที่หนังปล่อยออกมาความสนุกของหนังที่เราน่าจะได้เห็นในเรื่องนี้คือ การร่วมค่อย ๆ ตามหาความจริงไปกับตัวละคร ค่อย ๆ ร่วมปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด พร้อมทั้งร่วมลุ้นระทึกไปกับเวลาที่ค่อย ๆ กดดันมากขึ้นเรื่อย ๆ ใครที่ชอบหนังสืบสวน พลอตที่น่าจะสับขาหลอก ไม่ควรพลาด

โดย Oxygen ฉายแล้วบน Netflix

Oxygen หนังระทึกขวัญ ไซไฟ
ตัวอย่าง Oxygen

Cr. ภาพ : เว็บไซต์ IMDB

#news-entertainments.com #ซีรีส์ หนัง

รีวิว Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี

รีวิว Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี

Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี: หนังผีที่เต็มไปด้วยความแปลกใหม่สมคำร่ำลือ ที่มาพร้อมครึ่งแรกที่ดีงาม แต่พังทลายในครึ่งหลัง

ผลงานการร่วมงานกันครั้งแรกระหว่าง GDH และ Netflix ที่นอกจากนั้นหนังก็ยังใช้คำโปรโมทสุดน่าสนใจว่า “หนังผีสายวิทย์” เรื่องแรกของไทย โดยหนังเรื่องนี้ก็เป็นผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของ กอล์ฟ-ปวีณ ที่เคยทำหนังผีจิตวิทยามาแล้วใน บอดี้ ศพ 19

โดยครั้งนี้เขาก็ยังมาพร้อมกับสไตล์งานที่ถนัดด้วยการทำหนังผี ที่ไม่เน้นความสยอง ความหลอนแบบไทย ๆ แต่มาแบบสยองขวัญอารมณ์หนังฮอลีวูด ด้วยองค์ประกอบโดยรวมเหล่านี้ทำให้ Ghost Lab เป็นอีกหนึ่งหนังไทยที่ทั้งคอหนังสยองขวัญ หรือแฟนหนังทั่วไปต่างให้ความหวัง ความสนใจไว้พอสมควร

รีวิว Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี

หนังจะว่าด้วยเรื่องราวของ หมอกล้า (ไอซ์-พาริส) และหมอวี (ต่อ-ธนภพ) สองหมอเพื่อนซี้ที่วันหนึ่งทั้งคู่ก็ได้พบกับผีตนหนึ่งในโรงพยาบาลช่วงกลางดึก การเห็นผีครั้งนั้นได้เปลี่ยนความคิดให้ หมอวี จากคนที่ไม่เชื่อเรื่องวิญญาณ เรื่องเหนือธรรมชาติ เริ่มสงสัยเกี่ยวกับโลกหลังความตาย ด้วยเหตุนี้ หมอกล้า เลยชวน หมอวี เพื่อร่วมทำการทดลองลับของเขา คือการทดลองพิสูจน์ว่าผี หรือวิญญาณ มีอยู่จริง แต่ทว่าความยากของการทดลองนี้คือการที่พวกเขาไม่สามารถทำให้ผี มาปรากฎตัวในการทดลองของพวกเขาเลยได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ทำให้ทั้งคู่เริ่มเกิดไอเดียบางอย่างที่มันค่อย ๆ ล้ำเส้นของความเป็นหมอ และนักวิทยาศาสตร์ จนนำมาสู่ความสยองที่จะเปลี่ยนชีวิตทั้งคู่ไปตลอดกาล

รีวิว Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี

ถ้าจะบอกว่า Ghost Lab เป็นหนังผีแนวใหม่ ก็ต้องยอมรับว่าพลอตของเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังที่ค่อนข้างใหม่สำหรับหนังไทย ทั้งในด้านความเป็นไซไฟ และสยองขวัญ หนังสร้างคาแรคเตอร์ และเงื่อนไขของตัวละครออกมาได้แตกต่างจากหนังเรื่องอื่น ๆ ที่สองตัวเอกเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทำให้แทนที่เราจะได้เห็นสองตัวละครนี้เห็นผี

เรากลับได้เห็นตัวละครเดินหน้าเข้าหาผีแบบไร้ซึ่งความหวาดกลัว พร้อมทั้งหนังก็ยังใส่มุมมองของวิทยาศาสตร์เข้าไปแบบจัดเต็ม มีการอ้างอิงสมมติฐาน หลักการทางวิทยาศาสตร์ที่มีต่อเรื่องผี ที่ถูกถ่ายทอดออกมาได้เมามันส์ ชวนติดตาม โดยตลอดครึ่งแรกของหนังได้มีการค่อย ๆ ไต่ระดับความสนุก ความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ จนคนดูสามารถรู้สึกถึงพลังความคิดสร้างสรรค์ และการเล่าเรื่องที่มีพลังของผู้กำกับ

รีวิว Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี

สำหรับความน่ากลัวของหนังเรื่องนี้ แน่นอนว่ามันไม่ใช่หนังผีที่มาทรงผีไทยเหมือนที่ผ่านมา หนังแทบไม่มีฉากผีสยดสยองให้ได้เห็นมากนัก เนื่องจากหนังจะเน้นไปที่ความเป็นวิทยาศาสตร์ การทดลองเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามหนังก็ยังเต็มไปด้วยฉากตุ้งแช่ สไตล์ GDH ที่มีจังหวะให้ได้สะดุ้งกันเป็นพัก ๆ ตัวผีในเรื่องค่อนข้างมีความเป็นผี CGI หรือผีแบบยอดมนุษย์ ซึ่งเป็นลายเซ็นของตัวผู้กำกับ

แม้ว่าครึ่งแรกของ Ghost Lab จะทำออกมาได้น่าติดตาม ชวนสนุก และใหม่เพียงใดก็ตาม แต่ทว่าปัญหาของเรื่องคือครึ่งหลังของเรื่องที่ทุกอย่างดรอปลงอย่างเห็นได้ชัด เหมือนว่าทางทีมเขียนบทต้องรีบตัดหนังให้จบภายใน 2 ชั่วโมง ทั้ง ๆ ที่ประเด็นของหนังยังเหลืออีกมากมายให้ได้เล่า ทำให้สิ่งที่ได้ในครึ่งหลังคือการกระทำต่าง ๆ ของตัวละครที่ค่อย ๆ ไร้เหตุและผลลงเรื่อย ๆ ความเป็นวิทยาศาสตร์ของหนังก็เริ่มลดลง ก่อนที่ท้ายที่สุดหนังจะทำลายตัวเองใน 30 นาทีสุดท้ายด้วยการกลับสู่หนังผี วิญญาณอาฆาต ตามสูตรเดิม ๆ แต่เพิ่มเติมคือความไม่สมเหตุสมผลมากมาย ที่มันชวนย้อนแย้งกับครึ่งเรื่องก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง

รีวิว Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี

อย่างไรก็ตามแม้ว่าหนังจะมีครึ่งหลังที่ค่อนข้างเลวร้าย และไม่น่าจดจำ แต่สิ่งที่น่าชื่นชมอย่างปฎิเสธไม่ได้คือการแสดงของ ต่อ-ธนภพ ในบท หมอวี ที่สามารถแบกหนังทั้งเรื่องได้อย่างดีเยี่ยม ในเรื่องนี้เราจะได้เห็น ต่อในบทหมอผู้ขี้อาย แสดงความรู้สึกไม่เก่ง

แต่ด้วยสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ตัวละคร หมอวีต้องเผชิญ มันได้ค่อย ๆ ทำให้เขากลายเป็นคนที่มีอารมณ์แปรปรวน พร้อมทั้งการดิ้นรนเพื่อความอยากรู้อยากเห็นแบบถึงขั้นสุด ทำให้เราได้ค่อย ๆ เห็นความคลั่งของ หมอวีที่ไล่ระดับขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่ง ต่อก็สามารถเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยม จนสามารถตรึงคนดูไว้กับหนังจนจบเรื่องได้แม้ว่าช่วงท้ายจะเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม

รีวิว Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี

โดยรวม Ghost Lab ถือว่าเป็นหนังไทยที่ให้อารมณ์ต่างจากหนังผีไทยเรื่องอื่น ๆ สมกับคำโฆษณา หนังเต็มไปด้วยพลังแห่งการสร้างสรรค์ การนำเสนอจากมุมมองวิทยาศาสตร์ ที่ให้ความสนุกที่ต่างจากหนังแนวเดิม ๆ ที่ผ่านมา แต่น่าเสียดายที่พลังความสร้างสรรค์เหล่านั้นกลับอ่อนลงในช่วงกลางเรื่องไปจนถึงท้ายเรื่อง

ทำให้แทนที่หนังจะสามารถนำเสนอการทดลองที่ตื่นเต้น ชวนลุ้นไปจนจบ แต่ภาพที่ออกมาคือความน่าผิดหวัง เหมือนการทดลองที่ล้มเหลวกลางทาง แต่ไม่ว่าจะอย่างไร หนังเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งการทดลองในด้านภาพยนตร์ ที่คุ้มค่า และได้สร้างอะไรใหม่ ๆ ให้กับวงการหนังไทยไม่มากก็น้อย

#Ghost Lab #Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี #ฉีกกฎทดลองผี #ไอซ์-พาริส #ต่อ-ธนภพ #GDH #Netflix Thailand #Netflix #หนัง ซีรีส์ #news-entertainments.com

Cr. ภาพ : Facebook Fanpage: GDH

เตรียมพบกับหนังผี ผสมวิทยาศาสตร์ จาก GDH ใน “Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี”

Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งหนังไทยสุดน่าจับตามองของปีนี้ก็ว่าได้สำหรับ “Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี” ผลงานหนังสยองขวัญจากค่ายหนังอันดับ 1 ของไทยอย่าง GDH ที่ได้จับมือร่วมกับสตรีมดังอย่าง Netflix เป็นครั้งแรก นอกจากนี้หนังก็ยังมาพร้อมกับการนำเสนอหนังผีที่ไม่ซ้ำใครด้วยการเป็นหนังผีไซไฟ ที่จะเอาเรื่องวิทยาศาสตร์ และเรื่องไสยศาสตร์มารวมไว้ในเรื่องเดียว

โดยหนังจะว่าด้วยเรื่องราวของสองนักวิทยาศาสตร์หนุ่มไฟแรง ที่วางแผนทำวิจัยร่วมกัน ซึ่งงานวิจัยของพวกเขาก็คือการพิสูจน์ว่าผีนั้นมีจริงหรือไม่ แต่ทว่าการวิจัยในครั้งนี้กลับยาก และท้าทายกว่าที่พวกเขาคิด เมื่อทั้งคู่ไม่สามารถหาหลักฐานมาพิสูจน์ว่าผีมีจริงได้ ทำให้ทั้งสองค่อย ๆ หาวิธีการทดลองที่อันตราย และเข้าใกล้โลกหลังความตายมากกว่าเดิม

Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี

หนังเป็นผลงานการกำกับของ กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา ที่เคยมีผลงานหนังสยองขวัญจิตวิทยาอย่าง “บอดี้ ศพ19” และ 4 แพร่ง (ยันต์สั่งตาย), 5 แพร่ง (หลาวชะโอน) พร้อมได้สองนักแสดงดังอย่าง ต่อ-ธนภพ และ ไอซ์-พาริส มาแสดงนำ พร้อมร่วมสมทบด้วย ณิชา-ณัฏฐณิชา

ความน่าสนใจของ Ghost Lab คือการที่หนังไม่ได้ขายบรรยากาศชวนสยอง ชวนน่าขนลุกเหมือนหนังผีไทยที่เราคุ้นเคย แต่หนังเลือกที่จะเล่าสไตล์หนังฮอลีวูด ที่จะมีการเน้นที่ตัวละครที่ไม่เชื่อเรื่องลี้ลับ เป็นเด็กสายวิทย์ฯ และมีการพยายามหาคำตอบต่าง ๆ ในรูปแบบวิทยาศาสตร์ ทำให้ตลอดในตัวอย่างของหนังแทบจะไม่ได้ให้เราเห็นผีในเรื่องเลยแม้แต่ตนเดียว

แต่ความสนุกของหนังคือการทดลองของตัวละครที่ค่อย ๆ ท้าทาย และล้ำเส้นของศีลธรรมมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้หนังก็ยังให้อารมณ์แบบหนังสยองขวัญ จิตวิทยาที่เน้นสำรวจจิตใจ อารมณ์ ความรู้สึกของตัวละครแบบ บอดี้ ศพ19 ที่เป็นการแจ้งเกิดของ กอล์ฟ ปวีณ อีกด้วย

ส่วนใครที่เป็นแฟนคลับของ ต่อ-ธรภพ ในปีนี้เขายังมีอีกหนึ่งผลงานกับ GDH กับหนังเรื่อง “One For The Road” หนังที่กำกับโดย บาส-ณัฐวุฒิ พูนพิริยะ (ฉลาดเกมส์โกง) ซึ่งเป็นการร่วมทุนกันนะหว่างไทย และฮ่องกง ที่ได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง หว่องกาไวมาร่วมรับหน้าที่อำนวยการสร้าง ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ยังร่วมแสดงโดย ไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์ , วี-วีโอเลต , พลอย หอวัง , ออกแบบ ชุติมณฑน์ และ นุ่น ศิรพันธ์

ซึ่งเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาหนังเรื่องนี้ก็ได้ถูกนำไปฉายที่เทศกาลภาพยนตร์ Sundance 2021 และยังสามารถคว้ารางวัล World Dramatic Special Jury Award: Creative Vision  มาได้สำเร็จ ส่วนในไทย ยังไม่มีการวางกำหนดวันฉายอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าชาวไทยน่าจะได้ชมกันภายในปี 2021 นี้อย่างแน่นอน

สำหรับ Ghost Lab จะมีกำหนดฉาย 26 พฤษภาคมนี้ ที่ Netflix เท่านั้น

ตัวอย่าง Ghost Lab

#Ghost Lab #Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี #Netflix Thailand #Netflix #GDH #ซีรีส์ หนัง #news-entertainments.com

Ct. ภาพ Netflix Thailand

ทอม ฮาร์ดี้ เตรียมแสดงนำใน Havoc

ทอม ฮาร์ดี้ เตรียมแสดงนำใน Havoc

ทอม ฮาร์ดี้ เตรียมแสดงนำใน Havoc หนังแอคชั่นเรื่องใหม่ของผู้กำกับ The Raid ที่จะฉายบน Netflix

ใครที่กำลังคิดถึงพระเอกหนุ่ม ทอม ฮาร์ดี้ ในบทแอคชั่นเดือด ๆ แบบ Mad Max: Fury Road เตรียมรอได้เลย เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีข่าวว่า ฮาร์ดี้ กำลังจะนำแสดงในหนังแอคชั่นเรื่องใหม่ของ Netflix

ในโปรเจกต์ที่มีชื่อว่า Havoc ที่จะเป็นผลงานการสร้างโดย แกเรธ อีแวนส์ ผู้กำกับและมือเขียนบทจาก The Raid ทั้งสองภาค

แกเร็ธ อีแวนส์
แกเร็ธ อีแวนส์

จากรายงานของเว็บไซต์ The Hollywood Reporter ได้เผยว่า โปรเจ็กต์ Havoc นี้ จะได้ อีแวนส์ มารับหน้าที่กำกับ เขียนบท และอำนวยการสร้าง ร่วมกับนักแสดงนำอย่าง ฮาร์ดี้ นอกจากนี้ยังได้สองโปรดิวเซอร์อย่าง อาราม แทร์ทซาเกียน และ เอ็ด เทลฟาน ที่เคยร่วมงานกับอีแวนส์ จาก Apostle มาร่วมอำนวยการสร้างอีกด้วย

โดยจะเป็นหนังแอคชั่น อาชญากรรม ว่าด้วยเรื่องราวของเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งที่ได้รับมอบหมายให้ไปปกป้องลูกชายของนักการเมือง ที่ตกอยู่ในอันตรายจากความขัดแย้งของแก๊งค้ายาเสพติด และเมื่อปฏิบัติภารกิจนี้ไปเรื่อย ๆ เขาก็ได้พบว่าปฏิบัติการครั้งนี้ได้นำมาสู่การเปิดโปงความจริงของการคอรัปชั่น และแผนการสมคบคิดครั้งใหญ่ในเมืองของเขา

แกเร็ธ อีแวนส์ ในกองถ่าย The Raid 2
แกเร็ธ อีแวนส์ ในกองถ่าย The Raid 2

สำหรับ แกเรธ อีแวนส์ คือผู้กำกับสายแอคชั่นที่เคยโด่งดังมาจากหนังสัญชาติ อินโดนีเซียสุดมันส์อย่าง The Raid 1-2 ซึ่งหนังเรื่องดังกล่าวก็ได้ส่งผลให้นักแสดงนำอย่าง อิโก อูไวส์ ได้แจ้งเกิดเป็นแอคชั่นสตาร์สัญชาติอินโดฯ ที่ได้มีโอกาสไปร่วมแสดงในหนังฮอลลีวูดหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น Mile 22 และ Stuber

และยังเคยได้ร่วมงานกับ จา พนม หรือโทนี่ จา ในเรื่อง Triple Threatโดยก่อนหน้านี้ อีแวนส์ ก็ได้เคยทำหนังให้ Netflix มาแล้วคือหนังสยองขวัญเรื่อง Apostle เมื่อปี 2018

และเมื่อปี 2020 ก็ได้สร้างซีรีส์อาชญากรรมสุดเข้มข้น สัญชาติอังกฤษเรื่อง Gangs of London

แกเร็ธ อีแวนส์ ในกองถ่าย The Raid 2
แกเร็ธ อีแวนส์ ในกองถ่าย The Raid 2

ส่วนด้าน ทอม ฮาร์ดี้ เป็นนักแสดงที่โด่งดังมาจากการร่วมงานกับผู้กำกับมากวิสัยทัศน์อย่าง คริสโตเฟอร์ โนแลน ในเรื่อง Inception และ The Dark Knight Rise และกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากบทตัวเอกใน Mad Max: Fury Road โดยในปีนี้กำลังจะมีผลงานภาคต่อหนังแอนติฮีโร่จากจักรวาล Spider-Man ของ Sony Pictures อย่าง Venom 2 หรือ Venom: Let There Be Carnage ที่เดิมทีวางกำหนดฉายเดือนตุลาคม 2020 แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้หนังถูกเลื่อนฉายไปเป็น เดือนมิถุนายน 2021 แทน

โดย Havoc นั้นวางแผนจะเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ ที่ที่เวลส์ ซึ่งเป็นโลเคชั่นเดียวกับที่ อีแวนส์เคยไปถ่ายทำ Apostle ส่วนวันฉายยังไม่มีการกำหนดอย่างเป็นทางการ

ติดตามบทความ บันเทิง ดารา – นักร้อง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com.

อ้างอิง : https://www.hollywoodreporter.com/heat-vision/tom-hardy-gareth-evans-team-for-netflix-crime-thriller-havoc

Cr. ภาพ : เว็บไซต์ IMDB

เด็กใหม่ ซีซั่น 2: การกลับมาของ แนนโน๊ะ ที่มาพร้อมประเด็น จิกกัดสังคม และความแรง ความเรท ยิ่งกว่าเดิม

เด็กใหม่ ซีซั่น 2

การกลับมาอีกครั้งของซีรีส์ Anthology (ซีรีส์ที่มีเนื้อหาจบในตอน หรือจบในซีซั่น) ไทยสุดคลั่ง กับเรื่องราวของเด็กหญิงปริศนนาม “แนนโน๊ะ” ผู้ที่คอยมาสั่งสอนเหล่ามนุษย์ที่ทำความชั่ว ด้วยบทเรียนที่รุนแรง โหดร้าย และยากจะลืมเลือน ซึ่งครั้งนี้ “แนนโน๊ะ” ก็มาพร้อมกับวิธีการสั่งสอนที่คลั่ง ที่ดิบยิ่งกว่าซีซั่นแรกแบบคูณสอง นอกจากนี้ยังมี “ยูริ” ผู้ที่เป็นทั้งเพื่อน และคู่ปรับ ที่จะมาร่วมเพิ่มสีสันให้พิพากษาเข้มข้นยิ่งกว่าเดิม

EP.1 Pregnant

เด็กใหม่ ซีซั่น 2 ep1

เป็นตอนที่หยิบประเด็นเรื่องการมีเซ็กซ์ และตั้งครรภ์ในวัยเรียนมานำเสนอ เป็นตอนที่ไม่ได้แรง หรือติดเรทอย่างอย่างที่คาดหวังไว้จากตัวอย่าง แต่ถือว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จในการให้แง่คิด เพราะซีรีย์ได้ถ่ายทอดให้คนดูได้เข้าใจถึงความทุกข์ทรมานของการตั้งครรภ์ออกมาได้อย่างสมจริง ตลอดทั้งตอนเต็มไปด้วยฉากชวนหวาดเสียว ชวนสยองแบบกำลังพอดี ทั้งนี้ต้องชื่นชม เจมส์ ธีรดนย์ ที่สามารถถ่ายทอดความทรมานของผู้ชายที่ตั้งครรภ์ เพราะบาปที่ตัวเองก่อได้ถึงอารมณ์มาก ๆ ถือว่าเป็นการเปิดซีซั่นที่ไม่ถึงกับแปลกใหม่ แต่ก็มีความแรงแบบที่สมกับความเป็น “แนนโน๊ะ” เป็นอย่างยิ่ง

EP.2 True Love

เด็กใหม่ ซีซั่น 2 ep2

เป็นตอนที่น่าจะซอฟต์ที่สุดเท่าที่มีมาของซีรีส์ชุดนี้ เพราะไม่มีการนองเลือดใด ๆ ให้ได้เห็นแม้แต่น้อย แต่ซีรีส์ได้ตั้งคำถามถึงค่านิยมแบบโบราณ และค่านิยมสมัยใหม่ กับมุมมองเรื่องความรัก เป็นตอนที่ค่อนข้างหนักไปที่ความดราม่า โรแมนติก มีโมเมนต์ที่น่ารัก ๆ ของตัว “แนนโน๊ะ” ให้ได้ยิ้ม ได้ขำตาม แม้ว่าจะยังเป็นตอนที่มีข้อคิด และบทที่ค่อนข้างลงตัว  แต่ก็ถือว่าเป็นตอนที่ไม่ได้มีอะไรให้หวือหวา น่าจดจำ และน่าจะเป็นตอนที่ดรอปที่สุดของซีซั่นที่สองนี้

EP.3 Minnie and the Four Bodies

เด็กใหม่ ซีซั่น 2 ep3

ตอนที่เริ่มกลับสู่ความโหด ความแรง แบบที่ซีรีส์ชุดนี้ควรจะเป็น โดยตอนนี้ได้มีการนำเอาคดีดังที่ไฮโซสาวขับรถชนคนตาย แต่ด้วยอำนาจทางการเงินของครอบครัว ทำให้เธอไม่ต้องรับผิดอย่างที่ควรจะได้รับ ซึ่งในตอนนี้ก็ได้มีการเล่าเรื่องแบบจิตวิทยา/ระทึกขวัญ ที่ตลอดทั้งตอนจะโฟกัสไปที่ตัวละครมินนี่ ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด และต้องชดใช้กรรมต่อสิ่งที่ตนทำลงไป ความน่าสนใจคือตอนนี้ค่อนข้างมีกลิ่นอายของหนังสยองขวัญมากที่สุดตอนหนึ่งของซีรีส์ชุดนี้ พร้อมทั้งยังได้ให้แง่คิดที่ชวนสะเทือนอารมณ์ว่า ‘ถึงเราจะร่ำรวย และใช้เงินปกปิดความผิดแค่ไหน ก็ไม่สามารถหนีจากบาปกรรมของตัวเองพ้น

EP.4 Yuri

เด็กใหม่ ซีซั่น 2 ep4

หนึ่งในตอนที่สำคัญที่สุดของซีซั่นนี้ก็ว่าได้ เพราะมันเป็นตอนที่เปิดตัว “ยูริ” ตัวละครผู้ล่าคนใหม่ที่จะมาเป็นทั้งศัตรู และเพื่อนของ “แนนโน๊ะ” ซึ่งประเด็นของตอนนี้ถือว่าไม่ได้แปลกใหม่นัก เพราะซีซั่นแรกได้เล่นประเด็นนี้ไปพอสมควรแล้ว คือเรื่องมิตรภาพ และเงินทอง แต่ความน่าสนใจของตอนนี้คือความแรงที่ยกระดับไปอีกขั้น เป็นตอนที่มีทั้งฉากการฆ่าที่โหดร้าย ทารุณ และการข่มขืน พร้อมทั้งการพูดถึงความขัดแย้งของชนชั้น ซึ่งมี “ยูริ” เป็นตัวแทนของชนชั้นล่างที่มาเอาคืนเหล่าชนชั้นสูงได้อย่างสาสมสะใจ ด้านบทของ “แนนโน๊ะ” อาจดูดรอปลงไปบ้าง แต่ความคลั่ง ความจิตของตัวละครยังทำออกมาได้ถึงอารมณ์ โดยรวมถือว่าตอนนี้เป็นการเปิดตัว ตัวละครใหม่อย่าง “ยูริ” ที่จะมาเป็นสีสันให้ซีรีส์ในตอนต่อ ๆ ไปได้อย่างสวยงาม พร้อมค่อย ๆ เพิ่มระดับความโหด ความแรง ของซีซั่นมากขึ้นไปอีกระดับ

EP.5 SOTUS

เด็กใหม่ ซีซั่น 2 ep5

อีกหนึ่งตอนที่หยิบประเด็นอื้อฉาวที่อยู่คู่คนไทยมานานอย่างเรื่องการรับน้องมานำเสนอ แต่ด้วยความที่มันถูกเล่าโดยซีรีส์ที่แรงมาก ๆ ทำให้การรับน้องในเรื่องนี้มันออกมารุนแรง น่าสะเทือนใจกว่าหนังหรือซีรีส์ที่เคยหยิบประเด็นนี้โดยสิ้นเชิง ตลอดทั้งตอนได้มีการถ่ายทอดความทารุณต่าง ๆ ในการรับน้อง จนเราแทบไม่อยากเชื่อว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ ในสังคม แต่ทว่าสิ่งที่ตอนนี้หยิบมาเล่าก็ล้วนแต่เคยเป็นข่าวหน้าหนึ่งมาแล้วเกือบทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังเป็นตอนแรกที่ผู้ชมจะได้เห็นการประชันบทบาทระหว่าง แนนโน๊ะ และยูริ ที่จะเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอของซีรีส์ชุดนี้ไปโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตามสำหรับเนื้อหาตอนนี้ก็ถือว่าเป็นตอนที่แรงที่สุด สะเทือนจิตใจที่สุดของซีซั่นนี้ ใครที่จะดูตอนนี้อาจต้องทำใจที่จะเผชิญความโหดร้ายที่จะได้รับตลอดทั้งตอน

EP.6 Liberation

เด็กใหม่ ซีซั่น 2 ep6

เป็นตอนที่น่าจะสนุกที่สนุก แปลกที่สุด และดีที่สุดของซีซั่นนี้ แม้ว่าเนื้อหาจะพูดถึงระบบการศึกษา ซึ่งคล้าย ๆ กับใน EP.2 แต่ประเด็นของในตอนนี้ใหญ่กว่ามาก โดยผู้สร้างได้มีการนำเสนอแบบภาพขาวดำ และใส่สีให้กับตัวละครที่คิดต่าง เปรียบเสมือนการที่คนรุ่นใหม่ที่ต้องทนอยู่ในโลกของคนรุ่นเก่า จนเกิดเป็นความขัดแย้งของคนสองรุ่น ความสนุกของตอนนี้อาจไม่ใช่ความโหด ความแรง เหมือนสองตอนก่อนหน้า แต่จะเป็นการนำเสนอการเมืองในโรงเรียน การปฏิวัติของคนรุ่นใหม่ ซึ่งดูแล้วให้อารมณ์เหมือนสถานการณ์การเมืองไทยในตอนนี้ ด้วยความแปลกใหม่ของการนำเสนอ พร้อมบทที่ชวนติดตาม และการแฝงนัยยะทางสังคมได้อย่างชาญฉลาด ทำให้ Liberation เป็นตอนที่สมบูรณ์แบบที่สุดตอนหนึ่งของซีรีส์ชุดนี้

EP.7 JennyX

เด็กใหม่ ซีซั่น 2 ep7

ตอนที่หยิบกระแสของวัยรุ่นไทยยุคนี้มาเล่าอย่างเรื่องเนตไอด้อล การขายภาพลักษณ์ของตนเอง เป็นตอนที่ยังคงรักษามาตรฐานความโหดของ แนนโน๊ะ ไว้ได้เป็นอย่างดี ไม่ถึงกับหวือหวามากนัก สีสันของตอนนี้กลับเป็นการประชันกันในเรื่องแนวคิดการล้างแค้นระหว่าง แนนโน๊ะ และยูริ ที่เข้มข้น เต็มไปด้วยการสับขาหลอกไปมา พร้อมทั้งยังเป็นตอนที่ปูทางไปสู่ตอนสุดท้ายได้อย่างลงตัว นอกจากนี้อีกความโดดเด่นของตอนนี้ก็คือความร่วมสมัยของเนื้อหา ที่มีการพูดถึงสังคมออนไลน์ ทั้งด้านดี และด้านร้าย ก็ทำออกมาได้สมจริง เข้ากับกระแสสังคมในยุคนี้มาก ๆ

EP.8 The Judgement

เด็กใหม่ ซีซั่น 2 ep8

ตอนสุดท้ายของซีซั่นที่สอง ที่แทบไม่ได้มีความหวือหวา โดดเด่นมากหากเทียบกับทุกตอนที่ผ่านมา ประเด็นหลักของตอนนี้คือการพูดถึงความสัมพันธ์แม่ลูกที่อยู่ในภาวะไม่ปกติ ความสนุกของตอนนี้คือการเล่าเรื่องแบบหนังสืบสวนสอบสวน ปนระทึกขวัญ มีการใส่ปม เล่นกับความลึกลับ น่าสงสัยของตัวละครที่ชวนติดตาม ส่วนการต่อสู้ของ แนนโน๊ะ และยูริ ที่ยังดำเนินไปอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในช่วงท้ายที่ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของเรื่อง ที่จะเป็นการปูทางไปสู่ซีซั่นใหม่ที่จะต่างจากที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิง แต่น่าเสียดายที่เนื้อหาในตอนนี้พยายามโฟกัสไปที่การปูทางไปซีซ่นต่อไปมากเกินไป ทำให้ประเด็นของตอนนี้กลับทำหน้าที่ได้ไม่ดีเท่าที่ควร และแทบไม่มีอะไรให้น่าจดจำ หรือพูดถึงแต่อย่างใด

เด็กใหม่ ซีซั่น 2

โดยรวม เด็กใหม่ ซีซั่น 2 ถือว่าเป็นการกลับมาของ แนนโน๊ะ ที่สมแก่การรอคอย แม้ว่าประเด็นในซีซั่นนี้จะค่อนข้างขาดความแปลกใหม่หากเทียบกับซีซั่นแรก แต่ด้วยความที่เป็นซีรีส์ฉายสตรีม ทำให้ผู้สร้างสามารถจัดเต็มความแรง ความโหด แบบไม่ต้องเกรงกลัวการเซ็นเซอร์ พร้อมทั้งการปรากฏตัวของตัวละครใหม่ของ ยูริ ที่มาเพิ่มสีสัน และความเข้มข้นของการมอบบทเรียนแก่คนชั่ว ได้ถึงพริกถึงขิงมากกว่าเดิม

#เด็กใหม่ ซีซั่น 2 #แนนโน๊ะ #ซีรีส์ Anthology #เด็กใหม่ #Netflix Thailand #Netflix #ซีรี่ส์ หนัง #news-entertainments.com

Cr.ภาพ: Netflix Thailand