ฮอตเกินต้าน “กรีน อัษฎาพร” เคลีย์ใจโสดสนิท ปัดซุ่มคบหนุ่มไฮโซ

กรีน อัษฎาพร สาวสวยสุดฮอต เคลียร์ชัดโสดสนิท

กรีน อัษฎาพร จากละคร “พนมนาคา” ช่องวัน 31 ใครคือตัวจริงตัวหลอก

โสดแล้วฮอตมากแม่ กับนางเอกสาว ” กรีน อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล ” จากละคร “พนมนาคา” ช่องวัน 31 โดยวันก่อนบินกลับไทยเธอได้โพสต์รูปคู่หนุ่มเกาหลีวิวริมแม่น้ำสุดโรแมนติก จนทำให้ชาวเน็ตโยงกันไปว่าหรือนี่จะเป็นหนุ่มรู้ใจคนใหม่ของสาวกรีน และไหนจะ หนุ่มธันวา สุริยจักร อดีตแฟนที่กลับมาขนของที่บ้านอีก นอกจากนี้ก็ยังมีข่าวซุ่มคบหนุ่มไฮโซเจ้าของโรงแรม งานนี้ใครคือตัวจริงตัวหลอกกันแน่ มาฟังคำตอบจากปากสาวกรีนกันเลยจ้า

กรีน อัษฎาพร สาวสวยสุดฮอต เคลียร์ชัดโสดสนิท

เคลียร์หน่อยแล้วที่โพสต์รูปคู่หนุ่มเกาหลีริมแม่น้ำล่ะ?

“ กรีนไปงานแบรนด์กระเป๋างานหนึ่ง เราก็ไปโปรโมทให้เค้า ก็ได้เจอเจ้าของแบรนด์และบังเอิญน้องคนนั้นมีเพื่อนเป็นคนเกาหลี เพื่อนคนนี้เคยมาเรียนไทยก็เลยได้กินข้าวด้วยกัน แล้วเค้าพูดไทยกับเรา แล้วเราไม่ชินกับปิ้งย่างทำแล้วไหม้ เค้าคอยดูแลทำให้เรา เราก็ประทับใจ คือเค้าดูแลทุกคน ก็นัดกินข้าวกันเรื่อยๆ แต่เป็นเพื่อนกันค่ะ เหมือนเราได้แลกภาษากัน ”

เค้ารู้มั้ย ตกเป็นข่าวกับเรา?

“ รู้ค่ะ แต่เค้าฟังไม่รู้เรื่องกรีนส่งให้เค้าดู แต่เค้าฟังประโยคยาวๆ ไม่เข้าใจ เค้าให้เพื่อนแปลแล้ว ซึ่งไม่มีอะไร เค้าเข้าใจ ”

เคลียร์ประเด็นที่เห็นเพื่อนรอนหอบหิ้วเค้กเซอร์ไพรส์วันเกิด?

“ เราโตมาด้วยกันจากบ้านเอเอฟ เข้าวงการมาด้วยกัน อายุเท่ากัน เราผ่านเรื่องราวมาเยอะ เค้ารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรา และเราก็รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเค้า ทั้งเรื่องปัญหาครอบครัวของเค้าและของเรา เรื่องเงิน หนี้สิน เรื่องแฟน ปัญหาของกรีนทุกอย่าง เวลากรีนเครียดก็จะโทรหารอน เค้าเป็นสายธรรมสายปฏิบัติ หาคำพูดให้กำลังใจให้เราคิดหลายๆ มุม บางทีเราสับสนโมโห ความคิดเราก็จะพุ่งปรี๊ด แต่พอได้คุยทำให้เราใจเย็นลง รอนเค้าสวดมนต์ไหว้พระปฏิบัติธรรม เราก็ซึมซับมาจากเค้า เพื่อนดีกับเรามาก อะไรที่ช่วยไกด์ก็อยากช่วยเพื่อนในทุกทางเหมือนกัน ”

เพื่อนแนะนำหนุ่มๆ มั้ย?

“ ไม่มีค่ะ รอนเองเค้าก็โสด ชีวิตไม่ต้องลงท้ายด้วยการมีคู่อย่างเดียว ถ้าไม่เจอคนที่ใช่ ก็ดูแลตัวเองไป อยู่กับครอบครัวไป ไปปฏิบัติธรรม ไปบวช ก็เป็นอีกมุมมองหนึ่ง ”

กรีน อัษฎาพร สาวสวยสุดฮอต เคลียร์ชัดโสดสนิท

ส่วนสถานะหัวใจ ตอนนี้พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า

“ โสดค่ะ อยากมุ่งกับเรื่องงานมากกว่า ไม่ได้ปิดตัวเองนะคะ ถ้ามีคนเข้ามาแล้วรับเงื่อนไขเราได้ ซึ่งเต็มไปหมด แล้วเลือกเดินไปด้วยกัน ให้กำลังใจกัน ช่วยเหลือกัน แต่ไม่ต้องตัวติดกัน อันนี้แค่ยกตัวอย่าง ถ้ารับเงื่อนไขได้ วันหนึ่งก็อาจจะพัฒนาได้ แค่ตอนนี้ยังไม่เจอ ”

สเปกขอคนดีและมีเงินด้วยหรือเปล่า?

“ เป็นคนดีค่ะ แล้วก็มีตังค์ด้วยก็ดี ( หัวเราะ ) รวยด้วยก็ดี ที่บ้านหนี้เยอะ ส่วนภาระตอนนี้ก็เบาหน่อยแล้วมั้งคะ แต่ก็ยังต้องรับผิดชอบไปเรื่อยๆ ค่ะ ”

และนี่ก็คือคำตอบจากปากสาวกรีน ตอนนี้ก็คือโสดสนิท เป็นสาวสวยที่ฮอตเว่อร์วัง มีหนุ่มๆ รายล้อมรอบตัวจึงไม่แปลกที่จะตกเป็นข่าวให้ชาวเน็ตได้เม้าท์มอยกันสนุกปาก แต่เธอก็บอกว่าไม่หวั่นไหว เพราะมีแต่เพื่อนๆ สนิทกัน และไม่กลัวโดนจับตามองซุ่มคบใดๆ เคลียร์ชัดแบบนี้ ชาวเน็ตก็คงหายข้องใจกันไปตามๆ กัน

รูปภาพประกอบ : thairath

รูปภาพประกอบ : sanook.com

รูปภาพประกอบ : today.line.me

ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง 

ณเดชน์ เล่าโมเมนต์งานแต่งหมากคิม พร้อมเผยฤกษ์ดีแต่ง ญาญ่า 2568

ณเดชน์ ญาญ่า เล่าโมเมนต์งานแต่งหมากคิม เผยเตรียมเป็นบ่าวสาวคู่ถัดไป

ณเดชน์ – ญาญ่า เตรียมตัวเพื่อเป็นบ่าวสาวคู่ถัดไป

สำหรับงานวิวาห์คู่รักแห่งปีของ คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส และ หมาก ปริญ สุภารัตน์ ที่เพิ่งผ่านไปไม่นานมานี้ ทางเพื่อนเจ้าสาวเจ้าบ่าวอย่าง ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ และ ณเดชน์ คูกิมิยะ ได้เป็นสักขีพยานรัก และช่วยเตรียมงานให้อย่างยิ่งใหญ่ ทั้งยังเผยว่านี่เป็นการเตรียมตัวเพื่อเป็นบ่าวสาวคู่ถัดไป

ที่งานบวงสรวงและแถลงข่าวเพื่อเปิดตัวภาพยนตร์ธี่หยด ณ อาคารมาลีนนท์ ของช่อง 3 ด้านหนุ่มณเดชน์ ได้มีการเล่าโมเมนต์ขณะให้สัมภาษณ์ ตอนที่ได้ไปร่วมงานแต่งงานของ หมาก – คิม เพื่อนรัก ว่าเป็นงานแต่งที่ทุกคนต่างมีความสุขมากๆ และนอกจากนี้ยังได้เผยถึงฤกษ์งานแต่งของคู่ตัวเองอีกด้วย

ณเดชน์ ญาญ่า เล่าโมเมนต์งานแต่งหมากคิม เผยเตรียมเป็นบ่าวสาวคู่ถัดไป

สำหรับบรรยากาศงานแต่งของ หมาก-คิมเป็นยังไงบ้าง?

“ จะบอกว่ามีความสุขมาก ยินดีกับทุกอย่าง มีแต่ความสุขจากทุกคนที่ไปงาน โดยเฉพาะคู่บ่าวสาว และก่อนหน้าวันแต่งจริงคือฝนตกทุกวัน พอมาถึงวันแต่งไม่รู้ทั้งคู่ไปบนอะไร แดดออกเปรี้ยงเลยคือดีใจมาก ”

หลายคนงงว่างานแต่งหมาก หรืองานแต่งณเดชน์?

“ ผมมีความสุขมาก คือก่อนหน้านั้นเราต้องแพลนทุกอย่าง ช่วยญาญ่า เพราะเขาก็เป็นมือขวาของคิม ซึ่งเราก็พยายามจะจัดการทุกอย่าง และจัดการแทนเขา เพื่อไม่ให้คิมกับหมากต้องมาเครียดหน้างาน ซึ่งทุกอย่างก็ออกมาได้ดี ”

ญาญ่าเครียดไหมในการช่วยเพื่อน?

“ เขาก็มีเครียดนะ แล้วเขาก็จะพยายามดูแลทุกอย่างแทนคิมให้หมด ส่วนเราน้ำตาซึมบ้าง ช่วงที่เขาพูดความในใจกัน ”

เป็นช่วงซ้อมของคู่เราด้วยไหม?

“ อย่างหนึ่งสถานที่ที่หมากคิมแต่งเป็นที่ที่โรแมนติกมาก เราก็รู้สึกดีใจว่าถ้าพวกเขาไม่ได้มาที่นี่ เราก็คงไม่มีโอกาสได้มา เพราะเราเองก็เหมือนได้ไปพักผ่อน ได้ไปใช้เวลาด้วยกันจริงๆ เป็นโมเมนต์ที่เราชอบด้วย “

อัพเดตงานแต่งของคู่เราบ้าง?

“ ตอนนี้ก็คุยกันอยู่ว่าแขกจะเป็นใครบ้าง จัดงานที่ไหนดี เดือนไหนอะไรยังไง จะพาพ่อแม่ไปยังไง ก็มีคุยๆ บ้าง ”

ญาญ่าบอกว่าอยากได้ 3 งานเหมือนคิม?

“ ใช่ครับ แน่นอนครับ เต็มที่ครับ “

ณเดชน์ ญาญ่า เล่าโมเมนต์งานแต่งหมากคิม เผยเตรียมเป็นบ่าวสาวคู่ถัดไป

เห็นญาญ่าบอกว่าฤกษ์แต่งปี 68?

“ อ่าวเหรอ? ก็ตามญาญ่าครับ เพราะปลายปีนี้เขาก็มีทั้งหนังและละครยาวไปจนกลางปีหน้า เราทั้งคู่คุยกันก็แอบเป็นห่วงเรื่องการจัดงานเหมือนกัน และเราก็อยากจะแพลนทุกอย่างให้มันครอบคลุม ท้ายที่สุดก็เดี๋ยวบอกอีกที และเรื่องเดือนเรื่องอะไรต้องมาคุยกันอีกที “

แต่น่าจะเป็นปี 2025 ตามที่ญาญ่าพูดใช่ไหม?

“ ใช่ๆ ดูฤกษ์ไว้ครอบคลุมหมดทั้งปี ว่าจะจัดช่วงไหนเดือนไหน คนไทยเราก็ต้องเอาฤกษ์งามยามดีไว้ก่อน ส่วนญาญ่าก็เตรียมตัวเป็นเจ้าสาว เพราะมันต้องมีอะไรที่จัดการอีกเยอะ ซึ่งหน้าที่นี้ต้องเป็นหมากคิมเป็นคนจัดการ เพราะมันเป็นหน้าที่เขาอยู่แล้ว ทำหน้าที่ออร์แกไนซ์ เพราะเราไปช่วยเขามาหมดแล้ว ซึ่งคิมบอกจะเอาอะไรบอกมาเลย จะจัดการให้ทุกอย่างเลย “

และนี่ก็คือบทสัมภาษณ์ของหนุ่มณเดช คูกิมิยะ ในงานบวงสรวงและแถลงข่าวภาพยนตร์ธี่หยด ที่ได้เผยถึงโมเมนต์สุดแฮปปี้ในงานแต่งของเพื่อนรัก พร้อมอวดซีนหวานๆ ของคู่ตนเอง และสุดท้ายคือการเผยฤกษ์แต่ง ญาญ่า ในปี 2568 งานนี้เหล่าแฟนคลับทั้งหลายคงไม่ต้องทายกันเสียเวลาทายแล้วจ้า

รูปภาพประกอบ : today.line.me

รูปภาพประกอบ : sanook.com

ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง 

จ่อไมค์สัม กอล์ฟ-พิชญะ เคลียร์ชัด ไม่ได้จีบ สาวโฟร์ ยันแค่เพื่อนร่วมงาน

กอล์ฟ-พิชญะ เคลียร์ชัดยันไม่ได้จีบ โฟร์ ศกลรัตน์

กอล์ฟ-พิชญะ เคลียร์ใจกับเรื่องที่เป็นกระแสจิ้นกับสาวโฟร์

สำหรับงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต GOLF-MIKE BOUNCE TO THE FUTURE CONCERT งานใหญ่ในรอบ 14 ปีของคู่หู กอล์ฟ – ไมค์ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ถือเป็นการรียูเนียนคู่หูดูโอ้ซุปตาร์เจ้าของตำนานผมทรงรากไทร ซึ่งนอกจากเรื่องของงานคอนเสิร์ตแล้ว ทางหนุ่ม กอล์ฟ-พิชญะ นิธิไพศาลกุล ยังได้ตอบคำถามเคลียร์ใจกับเรื่องที่เป็นกระแสจิ้นกับสาวโฟร์อีกด้วย

กอล์ฟ-พิชญะ เคลียร์ชัดยันไม่ได้จีบ โฟร์ ศกลรัตน์

โดยทางหนุ่มกอล์ฟเกือบงานเข้า หลังจากที่สาว โฟร์–ศกลรัตน์ วรอุไร ได้เผยเรื่องราวความลับเมื่อ 10 ปีที่แล้ว บนงานเวทีคอนเสิร์ต #2kCelebration ถึงจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่เพื่อน งานนี้จึงทำเอาเหล่าแฟนคลับทั้งหลายแหล่ต่างพากันอยากรู้หนักมาก ทำให้หนุ่มกอล์ฟต้องรีบตอบเคลียร์อย่างทันที

“เอาจริงๆ คือโฟร์หาเรื่องให้กอล์ฟอีกแล้ว คือตอนแรกเรามีคุยสคริปต์กันในคอนเสิร์ต เสร็จแล้วเหมือนเค้าก็บอกว่าเดี๋ยวให้มาคุยตรงนี้ตรงนั้น แล้วโฟร์ก็พูดขึ้นมาเรื่องนี้ แล้วกอล์ฟก็ช็อกไป แบบห้ะ เรื่องอะไรวะ ไม่รู้ว่ามาจากไหน คือมันไม่ใช่เลย”

ก่อนที่จะมาเป็นเพื่อนกัน เป็นสถานะอื่นมาก่อน?

“ไม่ๆ เป็นเพื่อนจริงๆ เค้ามาจีบเรา ( หัวเราะ ) ไปถามเขาเองๆ ไม่ๆ คือตอนนั้นยุคกอล์ฟไมค์ มันก็จะมาควบคู่กับโฟร์มด แล้วก็จะมีกลุ่มแฟนคลับที่ไปตึกอโศก ตึกลาดพร้าว แล้วก็เอารูปโฟร์มดมาให้ เราก็แบบอะไร ต้องเซ็นให้โฟร์ด้วยเหรอ เหมือนพยายามจับคู่เรา เพราะมันเป็นคู่ที่แมตช์กันตอนนั้น แล้วเค้าก็หยิบขึ้นมาเป็นประเด็น เราก็อ๋อ เหรอ โอเค ข้อความที่เค้าพูดถึงคือเซ็นลายเซ็น แล้วเค้าอาจจะแบบว่า เขียนให้พี่โฟร์หน่อย เขียนว่าอะไรก็จำไม่ได้แล้ว นานมากแล้ว จุ๊บๆ เหรอ ไม่ใช่ๆ ( หัวเราะ ) บ้าเหรอ เดี๋ยวโฟร์มันเขียนกลับมาหรอก ไม่สะดวกค่ะ ( หัวเราะ ) มันเป็นสคริปต์ครับ ให้คนจิ้นๆ กัน เซอร์วิสแฟนๆ แล้วอีกวันโฟร์ก็มาบอกว่ากอล์ฟมึงไม่ต้องพูดเหมือนเดิมแล้วนะ กูว่าวันนี้มึงต้องเล่นแบบนี้เว้ย เราก็เหรอๆ เพื่อนอยากได้อะไรก็ตามนั้นครับ คอนเสิร์ตวันที่สองก็เลยไม่เหมือนเดิม แต่เรื่องจริงนะ ที่บอกว่าแฟนๆ ส่งรูปมาให้เขียน แต่จำไม่ได้ว่าเขียนอะไร เข้าไม่ถึงหรอกคุณโฟร์สมัยนั้น เข้าถึงยาก”

แสดงว่าเคยคิดจะเข้าหาเหรอ?

 “ไม่ได้เคยคิดจะเข้าถึงเลย ( หัวเราะ )”

กอล์ฟ-พิชญะ เคลียร์ชัดยันไม่ได้จีบ โฟร์ ศกลรัตน์

แล้วทาง แอนนี่ แฟนเรา จะว่าอะไรมั้ย?

“ตอนจะขึ้นเราก็บอกเค้าไว้ก่อนแล้วว่าในสคริปต์มีแบบนี้นะ จิ้นๆ เซอร์วิสแฟน เค้าก็เข้าใจ ที่เหลือพูดอะไรเค้าแปลไม่ออกอยู่แล้ว เค้าไม่ได้อะไร รู้จักกันอยู่แล้ว ยังมาบอกรอถ่ายรูปกับโฟร์อยู่ ให้เค้าจิ้นกันไปแบบนี้แหละ น่ารักๆ เราสะดวกแต่ไม่รู้เค้าสะดวกหรือเปล่า ถามเค้าว่าอยากทำเพลงด้วยกันมั้ย เค้าบอกไม่สะดวก ใครอยากเห็นเราทำเพลงกับโฟร์ก็ไปถล่มคอมเมนต์โฟร์ได้ กดดันด้วยโซเชียลมีเดีย โฟร์จะแพ้ภัยให้กับโซเชียลมีเดีย”

และนี่ก็คือบทสัมภาษณ์จากปากหนุ่มกอล์ฟ-พิชญะ ที่กำลังงานเข้าโดนกระแสว่าจิ้นกับสาวโฟร์ หรือจีบสาวโฟร์อยู่หรือปล่าว งานนี้เหล่าแฟนคลับคงหายสงสัยกันไปเป็นแถบ ส่วนครั้งหน้าเราจะมีเรื่องราวกระแสร้อนของดาราคนดังคนไหนอีกล่ะก็ ติดตามไว้อย่าให้พลาดเลย!

รูปภาพประกอบ : springnews.co.th

รูปภาพประกอบ : dy-news.com

รูปภาพประกอบ : khaosod.co.th

ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง 

เตรียมพบ ภูมิ-กานต์ ประกบคู่ครั้งแรกใน ละครมนตราตะเกียงแก้ว ช่อง 7HD

ละครมนตราตะเกียงแก้ว ช่อง 7HD “ภูมิ-กานต์” ประกบคู่ครั้งแรก

ละครมนตราตะเกียงแก้ว ทางช่อง 7HD เรื่องราวความรักโรแมนติกและฉากแฟนตาซีในเมืองแห่งเวทมนตร์

สำหรับทางฝั่งละครรักโรแมนติกแฟนตาซีในช่วงนี้ต้องมอบให้กับ ละครมนตราตะเกียงแก้ว ที่ผลิตโดย บริษัท ดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด เขียนบทโดย ชมนาด และผลงานการกำกับของ แดง บูรพา จากบทประพันธ์ โสภี พรรณราย ซึ่งเป็นการโคจรมาพบกันครั้งแรกของคู่พระนาง ภูมิ – เกียรติภูมิ บันลือชัยฤทธิ์ ในบทพ่อมดหนุ่ม กับนางเอกน้องใหม่อย่าง กานต์ – ณัฐชา รัตน์ชยางคานนท์ ที่รับบทเป็น เรนี่ สาวลูกครึ่งมนุษย์และแม่มด

นอกจากนี้ก็ยังมีนักแสดงหน้าใหม่ของทางช่อง 7HD อย่าง เฌอ – เฌอลีนน์ สตาฟฟี่ และ ตรัย – จักรภัทร อังศุธนมาลี พร้อมนักแสดงมากฝีมือที่เป็นตำนานอย่าง แม่มดทาฮิร่า ที่รับบทโดย ดวงดาว จารุจินดา เจ้าของแมวดำชิกเก้นสุดน่ารักที่จะกลับมาสร้างสีสันให้เหล่าแฟนๆ กันอีกเช่นเคย และยังรวมดาราอีกมากมายมาสร้างความสนุกให้ชมกัน อาทิ นวพล ภูวดล, ธัญสินี พรมสุทธิ์, บัณฑิตา ฐานวิเศษ, อิงฟ้า เกตุคำ, อัครัช จิตตะศิริ

ละครมนตราตะเกียงแก้ว ช่อง 7HD “ภูมิ-กานต์” ประกบคู่ครั้งแรก

เตรียมพบเรื่องราวความรักโรแมนติกและฉากแฟนตาซีในเมืองแห่งเวทมนตร์กับการใช้ CG สุดอลังการงานสร้าง ซึ่งจะขนทัพจัดเต็มกันชุดใหญ่ทั้งเหล่าพ่อมดแม่มด ที่สวยงามอลังการจัดเต็มตั้งแต่เครื่องแต่งกายนักแสดงยันฉากต่างๆ ให้ทุกคนได้สนุกไปกับ ละครมนตราตะเกียงแก้ว จากเรื่องราวสุดวุ่นวายในโลกเวทมนตร์ที่ถึงคราวจะดับสิ้นเพราะแม่มดฝ่ายดำ ดังนั้นมีเพียงพลังจากตะเกียงแก้วเท่านั้นที่จะช่วยได้

แต่ทว่าตะเกียงแก้วกลับไปอยู่กับสาว เรนี่ ลูกครึ่งมนุษย์แม่มด ( รับบทโดยกานต์ ณัฐชา ) สาวน้อยผู้ที่เติบโตมาในครอบครัวมนุษย์ หน้าที่ในการออกตามหาจึงต้องตกเป็นของ วิล พ่อมดหนุ่มผู้เก่งกาจ ( รับบทโดยภูมิ เกียรติภูมิ ) ที่จะต้องตามหาเธอเพื่อให้ได้คำตอบ เมื่อความใกล้ชิดก่อเกิดเป็นความรัก แต่พลังมนตร์ดำที่แฝงอยู่ในตัวเธอกลับเป็นอุปสรรค งานนี้เมืองเวทมนตร์จะพ้นจากเงื้อมมือแม่มดผู้ชั่วร้ายหรือไม่ แล้ววิลจะช่วยให้เรนี่กลับมาเป็นแม่มดสาวแสนดีได้หรือไม่นั้น ก็ต้องติดตามในละครมนตราตะเกียงแก้ว ทางช่อง 7HD

ละครมนตราตะเกียงแก้ว ช่อง 7HD “ภูมิ-กานต์” ประกบคู่ครั้งแรก

และนี่ก็คือข่าวสารและความบันเทิงที่เราได้นำมาฝากแฟนๆ ชาวละครในวันนี้ โดยสามารถติดตามความสนุกสนาน และเรื่องราวความรักความแฟนตาซีตระการตาครบรสได้ในละครมนตราตะเกียงแก้ว หลังจบข่าวภาคค่ำ ได้ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 18.45 น. ซึ่งจะเริ่มออกอากาศตอนแรกในวันพุธที่ 27 กันยายนนี้ ทางช่อง 7HD ใครที่ดูในทีวีให้กดช่อง 35 ส่วนการดูสดออนไลน์สามารถดูได้ทาง BUGABOO.TV และช่องทางออนไลน์อื่นๆ อาทิ Facebook, IG, X ( Twitter ), TikTok, YouTube: Ch7HD หรือเว็บไซต์ www.ch7.com

รูปภาพประกอบ : ch7.com
รูปภาพประกอบ : sanook.com

ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง 

เปิดประเด็นร้อน ลิซ่า BLACKPINK กับข่าวลือ ไม่ต่อสัญญาค่าย YG Entertainment

เปิดประเด็นร้อน ลิซ่า BLACKPINK กับข่าวลือ ไม่ต่อสัญญาค่าย YG Entertainment

สำหรับนักร้องสาวสายเลือดไทยแท้อย่าง ลิซ่า BLACKPINK หนึ่งในสมาชิกวง BLACKPINK ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้โดยมีข่าวลือว่าลิซ่าปฏิเสธการต่อสัญญากับค่ายต้นสังกัด YG Entertainment มูลค่าสูงถึง 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 1.4 พันล้านบาท ซึ่งทำให้ตอนนี้หลายๆ ฝ่ายรวมถึงเหล่าแฟนคลับต่างจับตามองกันเป็นแถบๆ และดูเหมือนว่ายังมีข่าวลืออีกหลายระลอกออกมาให้คาดการณ์กันไป และทุกคนก็หวั่นๆ กันว่ากระแสข่าวลือที่ออกมานี้ ไม่แน่ว่าอาจจะกลายเป็นเรื่องจริงก็เป็นได้

เมื่อไม่นานมานี้สาว ลิซ่า BLACKPINK ได้อวดหุ่นแซ่บในชุดบิกินี่ตัวจิ๋ว พร้อมทั้งมีข่าวออกเดทกับหนุ่ม เฟรเดอริก อาร์โนลด์ มหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลก ทายาทธุรกิจในเครือ LVMH นอกจากนี้ ลิซ่า เองยังได้ยังได้ประกาศว่าจะเข้าร่วมแสดงโชว์ระบำเปลื้องผ้ากับคาบาเร่ต์ในสไตล์ปารีเซียง “Crazy Horse Paris” (Le Crazy Horse Saloon หรือ Le Crazy Horse de Paris) ซึ่ง ลิซ่า ถือเป็นศิลปิน K – POP คนแรกที่ได้ขึ้นแสดงโชว์นี้อีกด้วย

สำหรับเหตุผลที่หลายคนคาดการณ์ว่านี่อาจทำให้ ลิซ่า ไม่ต่อสัญญาค่ายนั้นมีหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการถูกเอาเปรียบและถูกเลือกปฏิบัติ ซึ่งช่วงแรกที่ได้เดบิวต์ก็มีแฟนคลับเกาหลีบางส่วนเรียกร้องให้เธอออกจากวงเพราะเธอเป็นคนไทย ทั้งยังมีข่าวแอนตี้ว่าร้ายและคอยแซะมากมาย รวมถึงขณะที่เดินสายโปรโมทอยู่นั้น เธอยังถูกแฟนๆ บางส่วนหมางเมินและถูกนักข่าวเดินชนอีกด้วย

แม้ว่าปัจจุบัน ลิซ่า BLACKPINK จะโด่งดังไปทั่วโลก จนมียอดฟอลไอจีถึง 97.7 ล้าน และยังเป็นผู้ทรงอิทธิพลทั้งในวงการเพลงและวงการแฟชั่นต่างๆ แล้ว แต่ดูเหมือนว่ารายได้ของเธอจะถูกกดให้น้อยกว่าเพื่อนๆ ร่วมวงคนอื่นๆ เนื่องด้วยกฎหมายเรตค่าตัวของคนต่างชาติ

จากผลงานความสำเร็จในอัลบั้ม “LALISA” ที่สามารถคว้ารางวัลใหญ่บนเวที “Best K-Pop Award 2022 แต่ ลิซ่า มีโอกาสโปรโมทเพลงเดี่ยวเพียงแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น นอกจากนี้เธอยังเคยถูกอดีตผู้จัดการโกงเงินกว่า 1 พันล้านวอน หรือราวๆ 26 ล้านบาทอีกด้วย ซึ่งเหล่าแฟนคลับที่เป็นเมนของ ลิซ่า นั้นต่างรู้กันดี และนี่ทำให้หลายคนมองว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เป็นธรรมกับเธอ และอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอตัดสินใจไม่ต่อสัญญาก็ได้

แต่อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น ซึ่งก็คงต้องรอความชัดเจนจากปากสาว ลิซ่า BLACKPINK กันอีกครั้งและไม่ว่า ลิซ่า จะต่อสัญญาหรือไม่ ก็ขอให้แฟนคลับทุกคนเคารพในการตัดสินใจของเธอ เพราะตลอด 7 ปีที่ผ่านมานั้นสาว ลิซ่า ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเธอคือหนึ่งในศิลปินชาวไทย ที่สร้างความภาคภูมิใจแก่คนไทย และสามารถโลดแล่นบนเวทีระดับโลกได้อย่างคู่ควรไร้ที่ติ

รูปภาพประกอบ : dudeplace.co

รูปภาพประกอบ : posttoday.com

รูปภาพประกอบ : tnews.co.th

ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง 

รีวิวหนัง Sick of Myself: หนังสยองขวัญ ตลกร้าย

รีวิวหนัง Sick of Myself: หนังสยองขวัญ ตลกร้าย

Sick of Myself คือผลงานหนังสยองขวัญอินดี้ สัญชาตินอร์เวย์ กำกับ และเขียนบทโดย คริสตอฟเฟอร์ บอร์กลี ที่ประเดิมหนังขนาดยาวเป็นเรื่องแรก โดยหนังจะว่าด้วยเรื่องราวของ ซิกเนอ หญิงสาวที่กำลังคบหากับ โธมัส ศิลปินหนุ่มที่ชีวิตกำลังไปได้ดีในสายอาชีพนี้ แต่ทว่าชื่อเสียง และความสำเร็จของโธมัส ก็ทำให้ ซิกเนอ เกิดความอิจฉา และน้อยเนื้อต่ำใจที่ตนไม่ได้รับความสนใจจากผู้คน ทำให้เธอตัดสินใจสั่งยาขนาดแรงขนิดหนึ่งมากิน เพื่อให้เธอเกิดอาการผิวหนังพุพอง ซึ่งเธอเชื่อว่ามันจะทำให้ โธมัส กลับมาสนใจเธออีกครั้ง แต่ทว่าทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่เธอคิด เมื่ออาการผิวหนัง และร่างกายของเธอกลับแย่ลงเรื่อยๆ จนนำมาสู่เหตุการณ์มากมายที่เธอไม่เคยคาดคิด

แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นหนังสยองขวัญ แต่ Sick of Myself กลับเป็นหนังมีความเป็นดราม่า ตลกร้าย มากกว่า หนังไม่ได้โฟกัสไปที่ความน่ากลัวด้านรูปร่างหน้าตาของซิกเนอ เป็นแก่นของเรื่องทั้งหมด แต่จะเป็นการพูดถึงชีวิตของผู้หญิงที่เห็นแก่ตัว และอยากให้ผู้คนสนใจเธอตลอดเวลา ซึ่งการกระทำของเธอในเรื่องก็นำมาสู่เหตุการณ์มากมายในหนัง 

แม้จะเป็นงานอินดี้ ที่เล่าเรียบง่าย ไม่ได้มีทุนสูง แต่ Sick of Myself กลับสามารถดำเนินเรื่องได้อย่างสนุก ตลอด 90 นาทีของหนังสามารถเล่าออกมาได้ชวนติดตาม ไม่ว่าจะเป็นมุกตลกร้ายที่หนังเล่าออกมาได้อย่างชวนขำ และการถ่ายทอดความสัมพันธ์ของตัวละครที่เป็นธรรมชาติ รวมทั้งการนำเสนอที่ไม่ได้ลึกเกินไปจนถึงกับดูยาก ทำให้หนังเรื่องนี้เหมาะกับคนดูแทบทุกกลุ่ม ที่ชื่นชอบหนังดราม่า ตลกร้าย

ด้านความสยองขวัญ หนังมาพร้อมการออกแบบใบหน้าของตัวนางเอกที่มีความน่ากลัว มีความผิดรูป ที่มีเมคอัพสมจริง นอกจากนี้หนังยังค่อยๆ ถ่ายทอดอาการป่วยของตัวละครที่แย่ลงเรื่อยๆ แบบที่คนดูเห็นภาพชัดเจน ซึ่งในพาร์ทสยองขวัญนี้ หนังก็ได้แฝงแง่คิดที่สะท้อนให้เห็นถึงผลของการกระทำต่างๆ ได้อย่างแนบเนียน และชาญฉลาด

โดยรวม Sick of Myself คือหนังอินดี้ ฟอร์มเล็ก ที่ดูง่าย สนุกกว่าที่คิด หนังนำเสนอเรื่องราวชีวิตของผู้หญิงที่ต้องการเป็นคนเด่น จนนำมาสู่เหตุการณ์ที่ชวนสยอง และมอบบทเรียนราคาแพง ใครที่ชอบหนังฟอร์มเล็ก แต่คุณภาพอัดแน่นขอแนะนำ

สามารถรับชม Sick of Myself ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix

Cr.ภาพ: IMDB

ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com 

FB : รวมพลคนบันเทิง  

รีวิวซีรีส์ One Piece season 1: งานดัดแปลงจากมังงะที่ทำออกมาได้ถูกใจแฟนบอยสุดๆ

รีวิวซีรีส์ One Piece season 1: งานดัดแปลงจากมังงะที่ทำออกมาได้ถูกใจแฟนบอยสุดๆ

One Piece คือหนึ่งในผลงานซีรีส์ Netflix ที่ปีนี้ผู้คนรอคอยมากที่สุด เพราะนี่คืองานที่ดัดแปลงมาจากมังงะสุดฮิตแห่งยุค ซึ่งตัวซีรีส์เวอร์ชันคนแสดงนี้ ก็ได้ เออิจิโระ โอดะ ผู้เขียนการ์ตูนเรื่องนี้มารับหน้าที่ดูแลงานสร้าง และเป็นซีรีส์ Netflix ที่ทุ่มทุนสร้างที่สูงที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง

เนื้อหาของ One Piece จะว่าด้วยยุคสมัยที่เต็มไปด้วยโจรสลัด ซึ่งทุกคนล้วนมีจุดหมายคือสมบัติวันพีช ที่ราชาโจรสลัดได้ทิ้งเอาไว้ มังดี้ ดี ลูฟี่ (อินากิ โกดอย) เด็กหนุ่มที่มีความฝันที่จะเดินทางสู่แกรนด์ไลน์ เพื่อเป็นราชาแห่งโจรสลัดคนต่อไป ที่ได้ออกเดินทางเพื่อรวบรวมลูกเรือ ซึ่งระหว่างทางเขาก็ได้พบกับเหล่าผองเพื่อนที่เข้ามาร่วมเป็นสมาชิกโจรสลัดหมวกฟางร่วมกับเขา พร้อมทั้งเผชิญหน้ากับเหล่าศัตรูมากมาย ทั้งกลุ่มโจรสลัดด้วยกันเอง ไปจนถึงกองทัพเรือ จนนำมาสู่การผจญภัยสุดยิ่งใหญ่

One Piece เรียกได้ว่าเป็นงานไลฟ์แอ็คชัน ที่ดัดแปลงเนื้อหาจากการ์ตูนต้นฉบับ ที่สนุกลงตัว โดยซีรีส์เลือกที่จะเล่าเรื่องโดยไม่เดินตามมังงะแบบเป๊ะๆ แต่จะเป็นการตีความเรื่องราวแบบใหม่ ที่ทำให้เนื้อหาในพาร์ทแรกของเรื่องเหลือเพียง 8 ตอนเท่านั้น แต่จะไม่ทำลายเนื้อหาหลักใดๆ ของเวอร์ชันการ์ตูน

ความโดดเด่นแรกของซีรีส์เรื่องนี้คืองานโปรดักชัน ที่สามารถถ่ายทอดไอเดียดั้งเดิมจากหนังสือการ์ตูน ให้ออกมาเป็นภาพที่สมจริง มีการเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ โดยเฉพาะอีสเตอร์เอ้กที่ซ่อนไว้เต็มไปหมดตลอดการดำเนินเรื่อง นอกจากนี้สิ่งที่ซีรีส์ทำใด้ดีมากๆ คือฉากการต่อสู้ ที่ทำออกมาได้สนุก เร้าใจ มีฉากท่าไม้ตายชองตัวละครที่คงความเป็นต้นฉบับดั้งเดิมได้อย่างยอดเยี่ยม ราวกับว่าคนดูได้ดูซีรีส์ฮีโร่ แฟนตาซี แบบที่หนังฮอลีวูดยุคนี้ชอบทำ

ด้านงานบทของ One Piece เรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่ดี ตัวซีรีส์มีการปรับเนื้อหาของการผจญภัย เพื่อให้ไม่ยืดยาวจนเกินไป แม้ว่าจะมีตัวละครในเรื่องจะไม่ได้มีครบทุกคนตามที่หวัง แต่ทำให้การเล่าเรื่องแต่ละพาร์ทมีความกระชับมากขึ้น ทำให้คนดูได้เห็นเนื้อหาที่ไม่เหมือนต้นฉบับ ยิ่งการพูดถึงเรื่องความฝัน การต้นหาตัวตน และมิตรภาพ ซึ่งหลายฉากก็ยังสามารถทำเอาคนดูน้ำตารื้อได้ไม่มากก็น้อย

ในด้านข้อเสียของซีรีส์ คือการเคารพต้นฉบับจนเกินไป ทำให้คอสตูมของแต่ตัวละครออกมาดูเหมือนฉบับการ์ตูน จนทำให้หลายตัวละคร ออกมาดูคอสเพลย์ จนบางตัวละครดูตลก และดูฝืนที่จะทำจนเกินไป นอกจากนี้เพื่อให้ซีรีส์มีความยาวเพียง 8 ตอน แต่ยังต้องตัดทอนเนื้อหาของบางตัวละคร จนทำให้เสน่ห์แบบที่มีในต้นฉบับหายไปพอสมควร 

แม้ว่าจะไม่ถึงขั้นเป็นซีรีส์ไลฟ์แอ็คชันที่ดีที่สุด แต่ One Piece ก็ถือว่าเป็นงานดัดแปลงที่ทำได้คุ้มค่าการรอคอย ไม่ว่าจะเป็นการเคารพต้นฉบับที่สร้างความตื่นตา ตื่นใจให้ทั้งคนที่เป็นแฟนบอย และคนที่ไม่เคยดูเรื่องนี้สามารถเพลิดเพลิน และเอนจอยไปกับเนื้อเรื่องได้ และเชื่อว่านี่จะเป็นซีรีส์ขนาดยาวของ Netflix ที่จะมีให้ได้ชมกันไปอีกหลายซีซั่นไปอีกต่อจากนี้

สามารถรับชมซีรีส์ One Piece season 1 ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix

Cr.ภาพ: Netflix

ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง 

รีวิวหนัง Smile: หนังสยองขวัญธีมคำสาป ที่เล่าตามสูตรสำเร็จ

รีวิวหนัง Smile

Smile คือหนังสยองขวัญ ผลงานการกำกับ และเขียนบทโดย ปาร์คเกอร์ ฟินน์ ที่ประเดิมงานหนังใหญ่เป็นเรื่องแรก โดยหนังมาพร้อมพลอต และธีมเรื่องที่ชวนให้นึกถึงงานของ Blumhouse Productions ที่เล่นกับความสยองขวัญที่ร่วมสมัย มีการพูดถึงคำสาปที่ตัวละครต้องหาทางแก้ ซึ่งในเรื่องนี้จะว่าด้วยเรื่องราวของ โรส (โซซี่ เบคอน) จิตแพทย์สาว ที่วันหนึ่งเธอได้พบเหตุไม่คาดฝันเมื่อได้มีหญิงสาวปริศนาได้เข้ามารักษากับเธอ และได้ทำการฆ่าตัวตายต่อหน้าต่อตาเธอพร้อมรอยยิ้มสุดสะพรึง

หลังจากนั้น โรส ก็ได้พบว่าเธอได้เห็นภาพหลอนของหญิงสาวคนนั้น ที่ตามหลอกหลอนเธอพร้อมรอยยิ้มไปทั่วทุกที่ จนผู้คนเริ่มมองว่าโรส กลายเป็นคนจิตไม่ปกติ นอกจากนี้โรสยังพบความจริงว่าสิ่งที่เธอเผชิญคือคำสาป ที่หากเธอไม่รีบแก้ไข เธอจะต้องพบกับจุดจบคือการฆ่าตัวตาย โรส จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อแก้คำสาปนี้ให้ได้

ตัวหนังมาพร้อมการเล่าเรื่องจตามสูตรหนังสยองขวัญยุคใหม่ ที่เน้นการเดินเรื่องที่ฉับไว มีการเล่นกับคอนเซปต์เรื่องที่ค่อนข้างดี โดยในเรื่องนี้จะเน้นไปที่เรื่องของจิตวิทยา การป่วยทางจิต ที่ผสมผสานกับความเชื่อเรื่องคำสาป วิญญาณร้าย

ด้านความน่ากลัวของหนัง เรียกได้ว่าทำได้ดี แม้หนังจะเล่าผ่านโลเคชัน บรรยากาศที่เป็นเมืองใหญ่ แต่ที่น่าสนใจคือหนังสร้างบรรยากาศ และจังหวะตุ้งแช่ที่เหนือชั้นกว่าหนังสยองขวัญเรื่องอื่นๆ ด้วยจังหวะตุ้งแช่ที่มาแบบคนดูไม่ทันตั้งตัว พร้อมทั้งการเล่นกับรอยยิ้ม ที่ทำเอาคนดูหลอนร่วมไปกับตัวละคร ทั้งสีหน้า และเมคอัพ ที่หลอนติดตา

ส่วนของการเล่าเรื่องในหนังก็ยังทำออกมาได้สนุก ชวนติดตาม แบบสูตรสำเร็จของหนังแนวนี้ ที่พอเดาทางได้ ทั้งนางเอกจะต้องทำหน้าที่สืบหาที่มาที่ไป และความจริงของคำสาป และหาทางแก้ไข ระหว่างทางก็เต็มไปด้วยความสยอง ความระทึก แต่น่าเสียดายที่หนังมีเหยื่อเพียงไม่กี่ตัวละคร เลยทำให้พาร์ทความน่ากลัวแบบที่เห็นผีไล่ล่าตัวละครในเรื่องล้มตาย หรือโดนหลอก ในเรื่องนี้ไม่ได้มีให้เห็น

ด้านการแสดงต้องขอชื่นชม ซูซี่ เบคอน ที่ถ่ายทอดบทของหญิงสาวที่ทุกข์ทรมานจากการถูกคำสาปได้อย่างดีเยี่ยม เธอสามารถเข้าถึงความเจ็บปวด ความหวาดกลัวของตัวละครได้เป็นอย่างดี จนทำให้คนดูรู้สึกอยากลุ้น อยากเอาใจช่วยเธอไปจนจบ

โดยรวม Smile คืองานสยองขวัญอีกเรื่องที่ทำออกมาได้สนุก ร่วมสมัย แม้คำสาปในเรื่องจะไม่ได้ดูแปลกใหม่นัก แต่รูปแบบการสร้างความน่ากลัว การเล่นกับรอยยิ้มที่น่ากลัวก็ทำงานได้เป็นอย่างดี ใครที่ชอบหนังแนวคำสาป ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

สามารถรับชม Smile ได้แล้ววันนี้ที่ HBO Go

Cr.ภาพ: Rotten Tomatoes

ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง 

รีวิวหนัง Emily the Criminal: หนังดราม่า อาชญากรรม ที่ขายความเรียลของคนชนชั้นล่าง

รีวิวหนัง Emily the Criminal: หนังดราม่า อาชญากรรม ที่ขายความเรียลของคนชนชั้นล่าง

Emily the Criminal คือผลงานหนังแนวดราม่า อาชญากรรม ผลงานการกำกับหนังยาวเรื่องแรกของ จอห์น แพตตัน ฟอร์ด พร้อมได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง ออเดรย์ พลาซ่า (ซีรีส์ The White Lotus season 2) มารับบทนำ สมทบด้วย ธีโอ รอสซิ (ซีรีส์ Sons of Anarchy)

โดย Emily the Criminal จะว่าด้วยเรื่องราวของ เอมิลี่ (ออเดรย์ พลาซ่า) หญิงสาวที่กำลังเผชิญปัญหาชีวิต เนื่องจากเธอไม่สามารถหางานประจำที่เหมาะสมได้ เนื่องจากประวัติอาชญากรรมของเธอ ทำให้เอมิลี่ ต้องทำงานพาร์ททามเพื่อหาเงินมาจับจ่าย และใช้หนี้จำนวนมาก จนกระทั่งเธอได้พบกับ ยูซูฟ (ธีโอ รอสซิ) ชายหนุ่มที่ทำธุรกิจอาชญากรรม ด้วยการส่งคนไปซื้อของด้วยบัตรเครดิตปลอมเพื่อแลกกับค่าตอบแทนชั้นดีในงานแต่ละครั้ง ซึ่งเอมิลี่ก็ได้ร่วมทำงานนี้ จนทำให้เธอเริ่มถลำลึกเข้าสู่วงการอาชญากรรมที่เต็มที่

แม้ว่าหนังจะใช้ชื่อว่า Emily the Criminal แต่หนังเรื่องนี้กลับไม่ได้เป็นหนังอาชญากรรมที่จัดหนัก จัดเต็มขนาดนั้น ตัวหนังมาพร้อมการเล่าเรื่องที่เน้นไปแนวดราม่า โดยพูดถึงผู้คนในชนชั้นล่างที่ต้องต่อสู้ชีวิตเพื่อหารายได้มาใช้จ่าย ซึ่งหนังได้ใช้ตัว เอมิลี่ เป็นภาพสะท้อนภาพของคนที่ไม่ได้รับโอกาสในชีวิตจนต้องหันมาทำงานที่ผิดกฎหมาย

ด้วยการเล่าเรื่องที่พูดถึงการสู้ชีวิตของหญิงสาวนี้เอง ที่ทำให้ Emily the Criminal มีความน่าติดตามตั้งแต่ตลอด 96 นาทีของเรื่อง หนังเปิดมาด้วยการถ่ายทอดชีวิตที่ไม่สมหวังของตัวละคร ก่อนจะค่อยๆ ให้ความหวังขึ้นมาทีละเล็กละน้อย ทั้งนี้ต้องขอชื่นชมการแสดงของ ออเดรย์ พลาซ่า ที่รับบท เอมิลี่ ได้อย่างยอดเยี่ยม  เธอสามารถสะกดคนดูให้อยากร่วมเอาใจช่วยไปกับชะตากรรมของเธอจนจบเรื่อง จนเรียกได้ว่านี่คือบทบาทของ พลาซ่าที่โดดเด่น และน่าจดจำที่สุดก็ว่าได้

พาร์ทอาชญากรรมหนังทำออกมาได้ดี แม้ว่าจะไม่ได้เป็นหนังอาชญากรรมที่มีฉากปล้น หรือปฏิบัติการที่หวือหวา แต่ด้วยความสมจริงของหนังนี่เอง ที่ทำให้แต่ละภารกิจผิดกฎหมายในเรื่อง ทำให้คนดูได้ร่วมลุ้นระทึกไปกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงความขัดแย้งระหว่างแก๊ง ที่ทำให้เนื้อหาดุเดือดเข้มข้นขึ้นไปอีก

Emily the Criminal อาจไม่ได้เป็นหนังอาชญากรรม ที่ชวนลุ้นระทึก หรือตื่นเต้นอะไรมากนัก แต่ก็นับว่าเป็นหนังดราม่าน้ำดี ที่เล่าได้สนุก กระชับ ที่สามารถสะท้อนภาพคนที่ต้องสู้ชีวิตได้อย่างดีเยี่ยม ใครที่ชอบหนังดราม่าที่เน้นความสมจริง ไม่ควรพลาด

สามารถรับชม Emily the Criminal ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix

Cr.ภาพ: Rotten Tomatoes

ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง 

รีวิวหนัง Heart of Stone: หนังแอ็คชันสายลับสูตรสำเร็จ

รีวิวหนัง Heart of Stone: หนังแอ็คชันสายลับสูตรสำเร็จ

Heart of Stone คือหนังแอ็คชัน สายลับ เรื่องล่าสุดจาก Netflix ผลงานการกำกับโดย ทอม ฮาร์เปอร์ (The Aeronauts) พร้อมได้ทีมนักแสดงชั้นแนวหน้ามาร่วมแสดงนำ ไม่ว่าจะเป็น กัล กาดอท (Wonder Woman), เจมี่ ดอร์แมน (Fifty Shades of Grey), อาเลีย บาตต์ (RRR) และ มาธิอัส ชเวกโฮเฟอร์ (Army of the Dead)

เรื่องราวของ Heart of Stone จะว่าด้วย ราเขล สโตน (กัล กาดอท) สายลัยสาวจากหน่วยงานลับ ที่ได้ส่งเธอเข้าไปแฝงตัวในทีมสายลับของ MI6 อีกที เพื่อช่วยเหลือในการทำภารกิจ แต่ทว่าในภารกิจหนึ่ง ราเชล ได้พบถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่าง จนทำมาสู่การค้นพบความจริงว่า ได้มีกลุ่มผู้ร้ายที่หวังขโมยเทคโนโลยี AI ที่องค์กรของเธอใช้ และนำไปใช้ในการทำลายโลก ราเชล เลยต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดแผนการร้ายนี้

มองภาพรวม Heart of Stone แทบไม่ต่างอะไรจากหนังสายลับยุคนี้ ที่พยายามเล่ยประเด็นเรื่องของ AI ที่ได้กลายเป็นอาวุธอันทรงพลัง นอกจากนี้หนังยังมีการเล่นกับธีมความเป็นหนังสายลับ ที่มีการหักเหลี่ยม การแฝงตัว เพื่อสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับคนดู ส่วนที่น่าจะทำให้หนังเรื่องนี้มีเสน่ห์โดดเด่นขึ้นมาบ้างคือการเลือกให้ตัวละครหญิงเป็นตัวเอกของเรื่อง

ความโดดเด่นของหนังคือฉากแอ็คชัน เป็นอีกครั้งที่ Netflix พยายามเล่นท่ายากด้วยการผสมผสานลูกเล่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเป็นตัวช่วยในกาทำภารกิจ มีการใช้มุมมองบุคคลที่ 1 มาเพิ่มอรรถรส เหมือนว่าคนดูกำลังเล่นเกมอยู่ นอกจากนี้หนังยังมีสเกลฉากแอ็คชันอลังการ ทั้งฉากขับรถไล่ล่า ฉากระเบิด ที่คอหนังแอ็คชันน่าจะเอนจอย และเพลิดเพลินกับหนังได้ไม่น้อย

ด้านเนื้อเรื่องของหนัง แทบไม่มีอะไรแปลกใหม่ หรือต่างจากหนังสายลับเรื่องอื่นๆ ตัวหนังเดินเรื่องตามสูตรที่เรียบง่าย คนดูพอสามารถเดาเนื้อหาได้ แม้ว่าหนังจะมีฉากหักมุม และเซอร์ไพรส์ซ่อนอยู่ แต่ก็ไม่ได้สร้างความแปลกใหม่ใดๆ ให้กับคนดูได้ โดยเฉพาะด้านเสน่ห์ของตัวละครในเรื่องที่ขาดหาย ทั้งนางเอก ไปจนถึงตัวร้าย ที่ไม่ได้มีจุดหมาย หรืออุดมการณ์ใดๆ ใ้ห้เราเชื่อ และอยากเอาใจช่วย

ด้าน กัล กาดอท ที่รับบทเป็นสายลับสาว ก็นับว่าเป็นอีกบทบาทที่สามารถขายความสวย เท่ของเธอได้เป็นอย่างดี ตัวหนังพยายามขายบทบาทของเธอให้เหมือน วันเดอร์ วูแมน ฉบับสายลับ ดังนั้นภาพของตัวละคร ราเชล ในเรื่องนี้ ไม่ต่างจากหนังฮีโร่ ที่เน้นความของผู้หญิงเป็นหลัก

โดยรวม Heart of Stone คืองานฟอร์มยักษ์จาก Netflix ที่ตอบโจทย์ในฐานะการดูเอาบันเทิง เอาความมันส์ แบบที่ไม่ต้องหวังความแปลกใหม่ใดๆ และมีการทิ้งประเด็นเพื่อมีโอกาสว่าในอนาคต หนังชุดนี้อาจมีภาคต่อๆ ไป ให้คอหนังได้ติดตามก็เป็นได้

สามารถรับชม Heart of Stone ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix

Cr.ภาพ: IMDB

ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง