#newsentertainments.com Archives - Page 17 of 18

11/07/202108/07/2021

“Fast & Furious” ภาคสุดท้ายเริ่มถ่ายทำต้นปีหน้า

Fast & Furious ภาพยนตร์การขับรถสุดมันส์ที่มีเรื่องราวสุดแสนยาวนานกำลังจะจบลงแล้ว หลังจากที่วินดีเซลนักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์ได้ออกมาบอกว่าภาพยนตร์เรื่อง Fast & Furious 10 และ 11 กำลังจะเริ่มถ่ายทำในช่วงต้นปีหน้าซึ่งจะเป็นการปิดฉากซีรีส์ Fast & Furious ที่มีมาอย่างยาวนาน

หลังจากที่ Fast & Furious 9 เพิ่งออกฉายในโรงภาพยนตร์ของสหรัฐอเมริกาและประสบความสำเร็จถล่มทลายในช่วงสุดสัปดาห์แรกที่นั่งทำการเปิดตัวในทวีปอเมริกาเหนือนั้นก็ทำรายได้ไปสูงกว่า 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว

เป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่ประสบความสำเร็จในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิดเลยก็ว่าได้ เรื่องราวของ Fast & Furious 9 นั้นก็ยังเป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาครอบครัวของโดมินิค โทเร็ตโต้ เช่นเดียวกับหลาย ๆ ภาคที่ผ่านมา และในตอนนี้ภาพยนตร์ก็ยังไม่ได้เข้าฉายในประเทศไทยทำให้ยังไม่สามารถพี่จะบอกได้ว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไร (ยกเว้นจะไปติดตามสปอยของต่างประเทศ)

ภาพยนตร์ Fast & Furious 9 นั้นได้เริ่มถ่ายทำมาตั้งแต่ในช่วงปี 2019 และก็ได้มีการเลื่อนการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด และหลังจากที่หนังได้ออกฉายในโรงภาพยนตร์แล้วทำอะไรได้ไปเป็นกอบเป็นกำก็สามารถเป็นที่ยืนยันได้แล้วว่า Fast & Furious ยังคงเป็นซีรีส์ที่มีคนติดตามอยู่มากจริง ๆ

และดูเหมือนเรื่องราวนั้นจะยืดยาวออกไปอีก แต่ด้วยการให้สัมภาษณ์ของวินดีเซลผู้ที่รับบทเป็นโดมินิค โทเร็ตโต้ เขาก็ได้ให้คำสัมภาษณ์ว่า “ตอนนี้กำลังจะมีการถ่ายทำภาพยนตร์ Fast & Furious 10 และ Fast & Furious 11 ในเดือนมกราคม 2022 นี้” และภาพยนตร์เรื่อง Fast & Furious 10 จะออกฉายในปี 2022 แน่นอนแต่ยังไม่ได้กำหนดวันออกฉายที่ชัดเจนออกมา

สิ่งที่น่าติดตามมากที่สุดก็คือใน Fast & Furious 10 และ Fast & Furious 11 จะมีตัวละครไหนในซีรีส์ที่ผ่านมาปรากฏตัวออกมาอีกบ้างไหมหลังจากที่ Fast & Furious 9 ก็ได้มีการปรากฏตัวของ Hans ตัวละครที่ทุกคนคิดว่าตายไปแล้วตั้งแต่ใน Fast & Furious Tokyo Drift

ไม่แน่ใน 2 ภาคสุดท้ายเราอาจจะได้เห็น มีอา, ไบรอัน โอคอนเนอร์ และ จีเซลกลับมามีบทบาทอีกครั้ง และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ Fast & Furious จะกลายเป็นภาพยนตร์ที่มีการ Reunion ของครอบครัวที่สมบูรณ์แบบมากเลยทีเดียว

Cr.ภาพ : Wallpaperaccess , Gameradar

ติดตามบทความ ซีรีส์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

10/07/202108/07/2021

ไมเคิล เมเยอร์ กลับมาอาละวาดอีกครั้ง พร้อมความโหด เลือดสาดกว่าเดิม ในตัวอย่างแรก “Halloween Kills”

หลังจากที่โดนผลกระทบจากโควิด-19 จนทำให้โดนเลื่อนฉายมา 1 ปี ในที่สุดหนังภาคต่อของฆาตกรต่อเนื่องในตำนาน ไมเคิล เมเยอร์ อย่าง Halloween Kills ก็ได้ปล่อยตัวอย่างแรกอย่างเป็นทางการมาให้ได้ชมแล้ว

โดยในภาคนี้ หนังจะเล่าเหตุการณ์ต่อจาก Halloween เมื่อปี 2018 หลังจากที่ ลอรี่ (เจมี ลี เคอร์ติส) และครอบครัวได้เอาชีวิตรอดจาก ไมเคิล เมเยอร์ มาได้สำเร็จจากการเผาบ้านของตัวเอง แต่ทว่าหลังจากที่พวกเธอหนีออกมา ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ได้รีบเข้าไปทำการดับไฟในบ้าน ทำให้ ไมเคิล สามารถรอดชีวิตได้อีกครั้ง

นอกจากนั้นในครั้งนี้เขาก็ได้มาพร้อมความคลั่ง ความโหดกว่าเดิมด้วยการฆ่าคนแบบไม่เลือกหน้า โดยจุดหมายเขาคือจัดการกับ ลอรี่ และครอบครัวที่ตอนนี้พักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล

พร้อมความโหด ความสยอง ที่จัดหนัก เลือดสาดยิ่งกว่าเดิม หนังมีเนื้อหาที่ต่อเนื่องกับภาคก่อนหน้าแบบเหตุการณ์ต่อกันไม่กี่นาที ใครที่ติดใจความสนุกจากภาคที่แล้วภาคนี้ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

หนังกำกับ และเขียนบทโดย เดวิด กอร์ดอน กรีน (Stronger) ควบคุมการสร้างโดย เจสัน บลัม จาก Blumhouse Productions นำแสดงโดย เจมี่ ลี เคอร์ติส (Knives Out), จูดี้ เกรียร์ (Ant-Man), ดีแลน อาร์โนลด์ (Mudbound) และ แอนดี้ มาติแชค (Assimilate)

สำหรับ Halloween Kills เป็นหนังภาคที่ 2 ของไตรภาค Halloween ที่กำกับ และเขียนบทโดยเดวิด กอร์ดอน กรีน ที่ได้นำผลงานหนังชื่อเดียวกันเมื่อปี 1978 ที่สร้างโดย จอห์น คาร์เพนเตอร์ (The Fog) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหนัง Slasher

ในตำนานแห่งยุค 80 ที่ว่าด้วยฆาตกรโรคจิตที่ได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาลจิตเวช และออกมาฆ่าคนในคืนวันฮาโลวีน หนังประสบความสำเร็จทั้งรายได้ และคำวิจารณ์จนทำให้ ไมเคิล เมเยอร์ ฆาตกรต่อเนื่องของเรื่องกลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของวันฮาโลวีน

โดย Halloween ของ เดวิด กอร์ดอน กรีน นั้นจะเล่าเรื่องราวต่อเนื่องจาก Halloween (1973) ที่พูดถึงเหตุการณ์ใน 40 ปีต่อมาเมื่อ ไมเคิล เมเยอร์ ได้หลบหนีออกมาจากโรงพยาบาลอีกครั้ง และจุดหมายของเขาคือล้างแค้น ลอรี่ และครอบครัวของเธอ ตัวหนังในปี 2018 นั้นก็เป็นอีกภาคของแฟรนไชส์นี้ที่ประสบความสำเร็จจากการทำเงินทั่วโลกไปได้ 255 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้างเพียง 10 ล้านเหรียญฯ

Halloween Kills จะมีกำหนดฉายในอเมริกา 15 ตุลาคมนี้ในโรงภาพยนตร์ ส่วน Halloween Ends ที่เป็นภาคสุดท้ายของไตรภาคนี้ จะมีกำหนดฉายในเดือนตุลาคม ปี 2022

Cr.ภาพ : Rotten Tomatoes

ติดตามบทความ หนัง – ซีรีส์ ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

09/07/202107/07/2021

สุดยอด 3 “เอ็มวีไต้หวัน”ที่มีเค้าโครง “เรื่องจริง”

สุดยอด 3 เอ็มวีเพลงไต้หวันที่มีเค้าโครง “เรื่องจริง”

เอ็มวีเพลงแต่ละเพลงมีอิทธิพลต่อคนดู และคนฟังมายาวนานทุกยุคทุกสมัย รวมถึงเพลงไต้หวันเช่นกันซึ่งส่วนใหญ่ใช้เพลงภาษาแมนดาริน หรือจีนกลางในการดำเนินเนื้อร้อง จะตอบโจทย์กับคนในสังคมมากน้อยแค่ไหน ผู้เขียนมองว่าเพลงไต้หวันที่คนไทยรู้จัก

สร้างจากเรื่องจริงค่อนข้างน้อยมาก แต่ใช่ว่าจะไม่มีเลย แต่ในขณะเดียวกันเพลงไต้หวันบางเพลงก็มีเค้าโครงจากเรื่องจริงอยู่ แม้บางเพลงอาจจะไม่ได้ร้อยเรียงอักษร แต่การเปิดตัวเพลงนั้นๆ ก็อาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์บางอย่างทั้งเรื่องจริงของผู้ขับร้องเองและคนในสังคมของยุคนั้นด้วย

เพลงในบทความนี้ผู้เขียนจะรวมสุดยอด 3 เอ็มวีจากเพลงไต้หวันที่มีเค้าโครงจากเรื่องจริง ซึ่งจะแนะนำผ่านบทความได้ว่ามีเพลงอะไรบ้าง มาดูเพลงและเอ็มวีเหล่านั้นกันเลย

The Moon Represents My Heart ทำไมเป็นเพลงนี้ล่ะ ต้องบอกก่อนว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่โด่งดังมาก ตราตรึงใจคนทั้งโลก ร้องโดยนักร้องไต้หวันระดับตำนานอย่าง “เติ้ง ลี่จวิน” ซึ่งเธอมีชื่อเสียงมากในยุคนั้น แต่เพลงนี้กลายเป็นหนึ่งในเพลงของเธอที่ถูกแบนโดยทางการจีนเมื่อปี 1980
ช่วงนั้นยังมีข้อพิพาทระหว่างจีนกับไต้หวัน แล้วเพลงของเธอคือสัญลักษณ์ทางการเมืองโดยปริยายในจีน เพราะให้เนื้อหาเชิงมอมเมาในเรื่องรักใคร่จนเกินไป (Spiritual Pollution) แม้ว่าจะผ่านมาหลายปีก็ยังเปิดกันอยู่เน้อ
This is it! เพลงนี้เป็นเพลงจากร็อกเกอร์รุ่นเก๋าอย่าง “Shin” ซึ่งเนื้อหาของเพลงค่อนข้างฮาและเสียดสีพร้อมกัน เนื่องจากได้แรงบันดาลใจจากการแต่งงานของผู้ชาย
โดยมองว่าแต่งเมื่อไหร่เหมือนชีวิตออกศึกเมื่อนั้น (ผู้ชายไต้หวันจะถูกสอนให้เป็นเสาหลักของบ้าน หากได้แต่งงานเมื่อไหร่จะกลัวเมียโดยอัตโนมัติ)
พระเอกเอ็มวีจะเป็นใครไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่ “กัว ผิ่นเชา” หรือ “ดีแลน กัว” พระเอกจากซีรีส์เดิมพันรักเดิมพันชีวิตมาเล่นเอ็มวีด้วย ต้องบอกก่อนว่าเหมือนเอามาเสียดสี เพราะว่าในช่วงนั้นมีข่าวเรื่องผู้หญิง แล้วดราม่าแรงมาก เลยเอามาเล่นเอ็มวีเพื่อบอกแทนผู้ชายในสังคมเสียเลย
Like You ปิดท้ายที่เพลงนี้ของ “หวัง ตงเฉิง” หรือ “ต้าตง ฟาเรนไฮต์” อดีตบอยแบนด์ขวัญใจสาวๆ ที่มาทำเพลงเป็นของตนเอง กับคาแรคเตอร์กวนๆ สไตล์ร็อค เนื้อหาของเพลงนี้เอามาจากชีวิตจริงของต้าตงเลย เพราะเพลงนี้เล่าเรื่องวัยเด็กที่เคยสูญเสียพ่อเนื่องจากโรคประจำตัว
และต้องหาเลี้ยงชีพดูแลแม่ตัวเองเพียงคนเดียว แล้วได้บอกถึงสัญญาของพ่อที่เขารับปากจะดูแลแม่ของเขาเอง

เป็นยังไงกันบ้างสำหรับเพลงไต้หวันที่สร้างจากเรื่องจริง เมื่อใครได้ฟังแล้วจะรู้สึกอิ่มเอมใจบ้าง เสียดสีบ้าง และน้ำตาร่วงไปกับเนื้อหาของเพลงไปในตัว ผู้เขียนเชื่อว่าผู้อ่านหลายคนต้องประทับใจแน่นอน

ติดตามบทความ เพลง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

07/07/202107/07/2021

รีวิวซีรีส์ “The Naked Director” ซีซั่น 2: บทสรุปเรื่องราวสุดป่วนของเจ้าพ่อวงการหนังโป๊ ที่ไม่เสียว

อีกหนึ่งผลงาน Original Netflix ที่มีคนรอคอยมากที่สุด สำหรับ The Naked Director ที่เมื่อปี 2019 ที่เรื่องจริงของ มุรานิชิ โทรุ (รับบทโดย ทาคายูกิ ยามาดะ)เจ้าพ่อแห่งวงการหนังโป๊ญี่ปุ่น ได้สร้างปรากฏการณ์ความนิยมถล่มทลาย

จนสร้างหลายวลีเด็ดที่คนจดจำมาจนทุกวันนี้อย่าง “ข้าวกล่อง” สำหรับในซีซั่นที่ 2 นี้ก็เป็นบทสรุปของซีรีส์เรื่องนี้ ที่จะว่าด้วยชีวิตของ โทรุ ในช่วงที่เขาอยู่บนจุดสูงสุดของวงการ หลังจากที่เขาได้แจ้งเกิดพร้อมกับ เมกุมิ หรือชื่อในวงการ คาโอรุ คาโอริ (มิซาโตะ โมริตะ)

ด้วยความหลงระเริงในชื่อเสียง และเงินทอง โทรุ เริ่มค่อย ๆ เปลี่ยนไป เริ่มจากการที่เขาพยายามสร้างผลงานที่ได้รับความนิยม โดยไม่ได้ใส่ใจคุณภาพ ทำให้นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาขัดแย้งกับ คาวาดะ (เทตทสึจิ ทามายามะ)

หุ้นส่วนคนสำคัญที่ร่วมลำบากกันมาในซีซั่นแรก รวมทั้งการที่ โทรุไม่ยอมมอบงานแสดงชิ้นใหม่ให้ เมกุมิ และหันไปสนใจงานแสดงของเหล่าดาราเอวีหน้าใหม่แทน เหตุการณ์ทั้งหมดค่อย ๆ เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ โทรุ ค่อย ๆ ถึงจุดตกต่ำที่ไม่มีใครคาดคิด

ตัวซีรีส์ในซีซั่นนี้จะมีความยาวทั้งหมด 8 Ep. ความยาวเฉลี่ย Ep. ละ 50 นาที โดยในซีซั่นนี้ซีรีส์มาพร้อมกับงานที่มีคุณภาพเหนือกว่าภาคแรกอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นด้านโปรดักชั่น บท หรือการนำเสนอ หากเปรียบเทียบในซีซั่นแรกจะเหมือนเป็นซีรีส์ที่ขายความ 18+ ความแปลกใหม่

ด้วยการนำเสนอเบื้องหลังอาชีพในวงการหนังเอวี แบบเจาะลึก พร้อมด้วยมุกตลกที่ชวนจดจำ ทำให้เนื้อหาในซีซั่นแรกดูค่อนข้างเบาบาง และเน้นไปที่ความใหม่ของเนื้อหามากกว่า แต่ในซีซั่น 2 นี้ เป็นการนำเสนอชีวิตของตัวละครแบบเน้น ๆ ลดความ 18+ ความตลกลง แต่เพิ่มหัวจิตหัวใจให้ตัวละครมากขึ้น ดังนั้นคุณภาพของ The Naked Director ซีซั่น 2 มันจึงมีความแตกต่างจากซีซั่นแรกโดยสิ้นเชิง

ในช่วงแรกซีรีส์จะยังขายความติดเรท ความอัจฉริยะของตัวละคร โทรุ ออกมาได้อย่างชวนติดตาม ฉากเลิฟซีนในครั้งนี้อาจไม่ได้จัดหนัก หรือโจ๋งครึ่ม หากเทียบกับซีซั่นแรก แต่ก็ยังมีฉากให้ได้จดจำอยู่ไม่แพ้กัน ช่วงแรกซีรีส์ไม่เสียเวลาปูเรื่องนาน มีการเข้าสู่ประเด็นของเรื่องตั้งแต่ตอนแรก ก่อนจะค่อย ๆ ไต่ระดับความสนุก ความเข้มข้น อย่างค่อยเป็นค่อยไป

นอกจากนี้ในซีซั่นนี้ก็ยังมีการเล่าเรื่องแบบแบ่งเป็น 2 เส้นเรื่องคือเส้นเรื่องของ โทรุ ที่เป็นเส้นเรื่องหลัก และเส้นเรื่องของ โทชิ (ชินโนะซุเกะ มิตซึชิม่า) อดีตมือขวาของโทรุ ที่ย้ายไปทำงานเป็นลูกน้องมาเฟีย ดังนั้นนอกจากในแง่ของซีรีส์เบื้องหลังธุรกิจหนังเอวีแล้ว ในครั้งนี้ยังจะมีเรื่องราวของอาชญากรรมเข้ามาสอดแทรกเป็นสีสันอีกด้วย

แม้ว่าช่วงต้นเรื่องซีรีส์จะมาในแบบเดียวกับซีซั่นแรก ที่หลายคนคิดถึง แต่ในข่วงกลางเรื่อง จนถึงท้ายเรื่องความสนุกของซีรีส์กลับต่างกันโดยสิ้นเชิง ซีรีส์ค่อย ๆ นำเสนอจุดตกต่ำของแต่ละตัวละครออกมาทีละเล็กละน้อย ก่อนที่ทุกอย่างจะดิ่งลงเหวในช่วงท้าย

โดยในระหว่างทางซีรีส์สอดแทรกบรรยากาศที่น่ากระอักกระอ่วนอันเป็นจุดเปลี่ยนของตัวละครมาเป็นระยะ ๆ เหมือนระเบิดเวลา ดังนั้นในช่วงท้ายเรื่องของซีรีส์ จะจัดเต็มด้วยดราม่าหนัก ๆ แบบที่ไร้ปราณีต่อทั้งตัวละคร และคนดู ที่ไม่คาดคิดว่าซีรีส์จะสามารถถ่ายทอดความดาร์คออกมาได้ถึงอารมณ์ขนาดนี้

ส่วนที่ซีรีส์ทำได้ดีมาก ๆ ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือด้านบท ที่ในซีซั่นนี้เราจะได้เห็นพัฒนาการของแต่ละตัวละครอย่างชัดเจน มีการนำเสนอภาพจุดสูงสุด และจุดต่ำสุดของตัวละครออกมาได้อย่างมีมิติ รวมถึงการเล่นกับความสัมพันธ์ต่าง ๆ ที่ถูกปูเอาไว้มาตั้งแต่ในซีซั่นแรก

ทำให้ในซีซั่น 2 นี้ไม่ได้เป็นเพียงส่วนขยายของซีซั่นที่แล้ว แต่มันคือการมอบบทสรุปที่เหมาะสมให้กับตัวละครเหล่านั้นให้ออกมาสมบูรณ์แบบอย่างที่ควรจะเป็น อีกส่วนที่ซีรีส์ทำได้ดีมาก ๆ คืองานโปรดักชั่น โดยเฉพาะงานภาพ การจัดแสง ที่สื่อถึงอารมณ์ สถานะที่เปลี่ยนไปของตัวละครออกมาได้อย่างมีชั้นเชิง

ด้วยบทที่สามาถสะท้อนตัวละครออกได้ดี ทำให้ด้านการแสดงของทีมนักแสดงนำก็สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครเหล่านั้นออกมาได้ดีมาก ๆ เช่นกัน ทาคายูกิ ยามาดะ เจ้าของบทโทรุ สามารถแบกหนังทั้งเรื่องได้อย่างน่าชื่นชม ด้วยความที่ในซีซั่นนี้มีมากกว่าแค่ความเพี้ยน ความตลกของโทรุ

แต่มันยังมีพาร์ทที่ตกต่ำที่สุดของตัวละครนี้ด้วย ซึ่ง ยามาดะก็ถ่ายทอดบทบาทได้ถึงอารมณ์ ถือว่าเป็นอีกบทบาทการแสดงที่ทำให้เราสลัดภาพนักเลงหัวไม้จาก Crow-Zero ไปหมดสิ้น ส่วนการแสดงของ มิซาโตะ โมริตะ แม้ในครั้งนี้เราจะไม่ได้เห็นเธอเร่าร้อนเหมือนในซีซั่นแรกเท่าไหร่นัก

แต่บทดราม่าของเธอในซีซั่นนี้ก็หนักหน่วงไม่แพ้กัน ซึ่งเธอก็พิสูจน์ให้เราได้เห็นว่าเธอคือนักแสดงมืออาชีพที่สามารถตีบทแตกไม่แพ้กัน รวมถึงนักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ที่ต่างเข้ามาร่วมเป็นสีสันที่น่าจดจำของซีรีส์เรื่องนี้ โดยเฉพาะการแสดงของ ลิลลี่ แฟรงกี้ และ จุน คูนิมูระ สองนักแสดงรุ่นใหญ่ ที่แม้จะมีบทไม่เด่นมาก แต่ทุกครั้งที่ทั้งสองปรากฏตัวก็สามารถขโมยซีนด้วยพลังการแสดงที่น้อยแต่มากได้อย่างดีเยี่ยม

โดยรวม The Naked Director ซีซั่น 2 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่สามารถมอบบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างดีเยี่ยม เป็นซีซั่นที่เต็มไปด้วยพัฒนาการของเนื้อหา มิติตัวละครที่ทำออกมาได้อย่างเห็นชัด แม้ว่าจะไม่ได้ติดเรท เสียวซ่านเหมือนกับซีซั่นแรกก็ตาม

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่เป็นอีกหนึ่งซีรีส์จาก Netflix ที่มีเนื้อหาครบทุกรสชาติ พร้อมทั้งเปี่ยมด้วยคุณภาพ ความแปลกใหม่ ที่นาน ๆ ครั้งจะมีมาให้ชม

Cr.ภาพ : Netflix

ติดตามบทความ ซีรีส์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

04/07/202119/02/2023

“สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยชื่อดัง ออกมาประกาศว่าตรวจพบเชื้อ”โควิด-19″

ถึงกับงง สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยชื่อดัง ออกมาประกาศว่าตรวจพบเชื้อโควิด.

เจ้าตัว สมรักษ์ คำสิงห์ ถึงกับงง ทั้งที่ฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็ม และไม่มีอาการใดๆ อีกทั้งยังดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ไม่ค่อยออกไปไหน แต่พอไปตรวจกลับพบว่า พบเชื้อโควิด-19ซะได้ และได้ออกมาอัดคลิปลง TikTok แจ้งข่าวข้างต้น ตอนนี้ยังไม่มีแสดงอาการใดๆ และอยู่ระหว่างรอเตียงจากทางโรงพยาบาล

สมรักษ์ คำสิงห์ ได้เปิดใจเล่าว่า ตนเองได้ไปตรวจโควิด-19 เพื่อเช็คความพร้อมของร่างกายก่อนไปอัดรายการ ไปตรวจตอนเช้า ตอนบ่ายหมอ โทร. มาบอกว่าพบเชื้อโควิด-19 เจ้าตัวเองถึงกับ งง เพราะ ตัวเองไม่มีอาการอะไรเลย อีกทั้งยังฉีดวัคซีนไปแล้ว 2 เข็ม และไม่ค่อยสุงสิงกับใคร อยู่แต่ในบ้าน

ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ได้กล่าวขอโทษ บุคคลที่เกี่ยวข้องได้พบเจอในสถานที่ต่างๆ ที่ตนไป และแนะนำให้คนใกล้ชิดไปตรวจเชื้ออีกด้วย ซึ่งตอนนี้ตนก็ได้กักตัวเองรออยู่ที่บ้านและในใจก็คิดว่าอยากตรวจใหม่ เผื่อเกิดความผิดพลาด

ส่วนในเรื่องของวัคซีน ฉีดสองเข็มแล้วก็อาจจะติดได้ เพราะวัคซีนช่วยเพียงบรรเทา จากหนักให้เบาเท่านั้น และบอกทุกคนว่าอย่าประมาท ฉีดเพื่อเพิ่มภูมิต้านทานให้ตัวเอง

ในขณะที่ เบส ลูกสาวคนโตของ สมรักษ์ คำสิงห์ ก็ได้ออกมาประกาศผ่านไอจีส่วนตัวว่า พ่อบาสตรวจพบเชื้อ ทั้งนี้คนในบ้านก็ได้พากันไปตรวจ

ทั้ง เบส แม่ โบ๊ท ยาย พี่ตงตง ซึ่งพบว่าไม่พบเชื้อ ตอนนี้ก็ได้แยกบ้านกันอยู่ กับสมรักษ์ คำสิงห์ เพราะตนมีบ้านสองหลัง พร้อมให้กำลังใจพ่อและ โพสต์ไทม์ไลน์ของพ่อบาส สมรักษ์ คำสิงค์ ดังนี้

วันที่ 19-20 มิถุนายน อยู่บ้าน

วันที่ 21 มิถุนายน อัดรายการ ถกไม่เถียง ที่ บริษัท มีเดีย สตูดิโอ ช่อง 7 และกลับบ้าน

วันที่ 22 มิถุนายน ไปสนามฟุตบอล เอมพันธ์ สปอร์ต ในเวลา 15.00-17.00 น. และกลับบ้าน

วันที่ 23 มิถุนายน อยู่บ้าน

วันที่ 24 มิถุนายน เที่ยง ไปกรมกิจการพลเรือทหารเรือ และกลับบ้าน

วันที่ 25 มิถุนายน อยู่บ้าน

วันที่ 26 มิถุนายน ช่วงเย็น เตะฟุตบอล ที่สนามฟุตบอลโพธิ์แก้ว และกลับบ้าน

วันที่ 27-28 มิถุนายน อยู่บ้าน

วันที่ 29 มิถุนายน อัดรายการ club Friday ที่ Agolico สุขุมวิท เวลา 09.00-12.00 น.และ
กลับบ้าน

วันที่ 30 มิถุนายน เวลา 17.00-22.00 ไปที่กองปราบลาดพร้าว และเวลา 23.00-00.00น.
ไป สน.สำราญราษฎร์

วันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 11.00-13.00 น. อัดรายการซอกแซกยกบ้าน ที่ Glam By

AssetWise ลาดพร้าว และกลับบ้าน

วันที่ 2 กรกฎาคม ไป สน.ปากเกร็ด ในช่วงเช้าและช่วงบ่าย ไปสำนักงานเขตปากเกร็ด

วันที่ 3 กรกฎาคม เวลา 08.00-08.30 น. เดินทางไปตรวจโควิด ที่ GMM สตูดิโอด้านหลัง
และกลับบ้าน และทางโรงพยาบาลโทรมาแจ้งผลตรวจว่า DETECTED
หลังจากนั้น

ทางเราขอเป็นกำลังใจทางครอบครัวของคุณสมรักษ์ คำสิงห์ ขอให้รักษาตัวหายไวๆ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน ก้าวพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน

ติดตามบทความ บันเทิง ดารา-นักร้อง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

04/07/202103/07/2021

“โก๊ะตี๋” ประกาศข่าวด่วน พบเชื้อโควิด-19

อีกหนึ่งรายที่ออกมาประกาศตัวว่าติด โควิด-19 โก๊ะตี๋ อารามบอย ดาราตลกชื่อดัง ที่ล่าสุดได้ออกมาประกาศตัวแล้วว่า ตนเองติดเชื้อโควิด-19 เป็นข่าวด่วนที่เจ้าตัวได้ออกมาแจ้ง หลังจากที่ทราบผลตรวจ ว่าพบเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ซึ่งโก๊ะตี๋ ได้ใช้ช่องทางไอจีส่วนตัว แจ้งข่าวการติดเชื่อ พร้อมไล่ไทม์ไลน์ของตนเอง ให้กับผู้ที่ใกล้ชิดหรือเกี่ยวข้อง ได้เตรียมตัวและรักษาตัว เข้าตรวจเชื้อกัน เป็นไทม์ไลน์ย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.64 ที่มีการเดินทางไปยังนครสวรรค์ ชัยนาท รวมถึงถ่ายรายการอื่นๆอีกด้วย

โดยเจ้าตัวออกมา เล่าว่า ได้ทราบข่าวว่า เพื่อนร่วมงานติดเชื้อโควิด-19 จึงรีบไปดำเนินการเข้ารับการตรวจหาเชื้อตามมาตรการและทำการกักตัว ตามเวลาระหว่างและรอผล ซึ่งผลได้ออกมาเมื่อวันที่ 29 มิ.ย ที่ผ่านมา ว่าพบเชื้อ ตนเองก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

สำหรับ timeline ย้อนหลังของโก๊ะตี๋ ที่ออกมาแจ้งให้ทราบตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 64 เริ่มจาก

วันที่ 21 มิ.ย.64 อยู่ที่สวนแคคตัสส่วนตัวตลอดทั้งวัน

วันที่ 22 มิ.ย.64 กลางวันอยู่สวนส่วนตัว ช่วงดึก เวลา23.00น.-01.00น. ออกจากสวนไปร่วมรายการ วิเคราะห์บอลยูโร ที่ NBT

วันที่ 23 มิ.ย.64 ช่วงเช้า ไปวัดห้วยด้วน จ.นครสวรรค์ (พิธีปลุกเสกพระ) จากนั้นไปวัดตึก จ.ชัยนาท (เข้าถวายเงินทำบุญเพื่อจัดสร้างพระ) มีนัดกลับมา swab ที่ รพ.เอกชน เพื่อนำผลตรวจส่งให้ work point สำหรับเตรียมบันทึกรายการ (โต๊ะนี้พี่จอง / ตลก 6 ฉาก) จากนั้นก็กลับบ้าน

วันที่ 24 มิ.ย.64 ทราบผลจากการ swab ว่าไม่พบเชื้อ จึงขับรถไปอัดรายการครัวคุณต๋อย จากนั้นขับรถกลับสวน

วันที่ 25 มิ.ย.64 อยู่สวนแคคตัสทั้งวัน ตอนค่ำ ทราบข่าวว่ามีทีมงานติดเชื้อโควิด จึงเริ่มกักตัวเอง

วันที่ 26 มิ.ย.64 แจ้งยกเลิกงาน 2 รายการ ของ work point

วันที่ 27 มิ.ย.64 เข้ารับการ swab ที่รพ. เดิม รอผล ในระหว่างที่รอผล ก็กักตัว เริ่มมีไข้ และเจ็บคอ

วันที่ 28 มิ.ย.64 มีอาการไม่สบายใจ จึงไปตรวจ swab ที่รพ. เอกชนอีกแห่งหนึ่ง กลับมากักตัวรอผล ระหว่างนั้นเริ่มมีไข้สูง

วันที่ 29 มิ.ย.64 ทราบผลว่าพบเชื้อจากรพ.เอกชน จึงรับเข้ารับการรักษาตัว

ทั้งนี้ คุณโก๊ะตี๋ ยังได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงผู้คน ด้วยการแนะนำให้ทุกคน ระมัดระวังตัว ดูแลตัวอย่างหากได้ไปสัมผัสใกล้ชิด

หรืออยู่ใกล้กับสถานที่ที่โก๊ะตี๋ไป รวมถึงยังขอโทษที่อาจจะทำให้เดือดร้อนอีกด้วย ยังไงทางเราขอใช้โอกาสนี้ให้กำลัง คุณโก๊ะตี๋ ขอให้รักษาตัวและหายไวๆ

ติดตามบทความ บันเทิง ดารา-นักร้อง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

03/07/202103/07/2021

ของขวัญวันเกิดสุดปัง น่าอิจฉาของ”ซุป’ตาร์ ชมพู่”

ปังไม่หยุด ฉุดไม่อยู่จริงๆกับ นางเอกหน้าสวย ซุปเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของวงการ เจ้าแม่แฟชั่น อย่างชมพู่ อารยา กับของขวัญวันเกิด ในวัย 40 ปี จากคุณสามีที่เรียกได้ว่า เป็นที่น่าอิจฉาสุดๆ มูลค่าของรางวัลมากถึง 23 กว่าล้านบาท งานนี้เรียกว่า ยินดีปรีดา เป็นปลื้มแทนคุณแม่ชมพู่จริงๆ

ของขวัญวันเกิดสุดปังนี้ที่ว่านี้ คือ รถหรู Lamborghini Urus เป็นรถซูเปอร์เอสยูวีคันแรกของโลก ที่คุณ น็อต วิศรุต สามีแม่ชมได้ให้ของขวัญ ได้ควักเงินในกระเป๋าตัวเอง ซื้อให้ภรรยาสุดที่รักเลยทีเดียว ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 23.42 ล้านบาท

แน่นอนว่าระดับแม่ชมพู่ ที่เป็นถึงแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแลมโบกินี่ ยังมีความพิเศษอัพเกรดเพิ่มขึ้นอีกด้วย ให้สมกับการเป็นซูเปอร์สปอร์ตคาร์หรูระดับโลก

ซึ่งความพิเศษของรถคันใหม่นี้ อยู่ที่สีของรถ โดยเจ้าตัวได้ออกปาก ในรายการยูทูบช่องหนึ่งว่า อยากได้สีที่ถูกใจ ตอนแรกก็ลังเลว่าจะเอาสีแบบเจ็บๆไปเลย หรือเอาสีเบสิค แต่สรุปแล้วก็ได้สีเบสิค ที่ไม่เบสิค

ความธรราดาที่ไม่ธรรมดาของสีรถแม่ชม คือ เป็นสีที่สั่งทำพิเศษ ไม่มีที่ใดในโลก ชื่อว่าสี Grigio Hati เป็นสีออกเทาๆ นมๆ สี Solid ที่ไม่มีอลูมิเนียนปน อยู่ด้วย ซึ่งจะแปลกตาโดนที่กระทบแสง จะเป็นอีกมิติหนึ่งที่แตกต่างไม่เหมือนใคร

ซึ่งสีนี้ไม่ได้มาฟรีๆ เจ้าตัวบอกว่า ต้องเพิ่มเงินนิดนึง แต่ขอบอกเลยว่า เมื่อฟังแล้วคุณจะขัดแย้งทนที ด้วยราคาที่เทียบได้กับราคารถธรรมดาประมาณ 2-3 คัน งานนี้ชมพู่ถึงกับต้องร้อง ขอโทษ สามีกันเลยทีเดียว ด้วยประโยคที่ว่า แม่ไม่ได้ตั้งใจ แม่ไม่รู้ แม่ชมพู่เลือกสีเบสิคก็ได้ แม่ขับสีอะไรก็ได้ งานนี้ไม่รู้จะสงสารใครดี แต่ถือเป็นเรื่องราวชวนอมยิ้มของสาวชมพู่ เอ็นดูในความไม่รู้ของนาง

แต่ก็อดไม่ได้ที่จะขอแซวเรื่องภาพครอบครัว โดยเจ้าตัว ได้โพสต์ภาพครอบครัวคู่กับรถสปอร์ตหรูนี้ ที่มีทั้งพ่อน็อต สายฟ้า พายุและแม่ชม งานนี้ไม่รู้จะโฟกัสที่ไหนดี ทั้งขาพ่อน็อต หน้าพายุที่บูดตามสไตล์ พี่สายฟ้าที่เกาหัวอยู่ แต่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของครอบครัว

ถือเป็นครอบครัวตัวอย่างในเรื่องของความอบอุ่น ความน่าเอ็นดูที่มีให้กัน ออกมาโชว์ความรักต่อกันอย่างตลอด โดยเฉพาะความน่ารักของฝาแฝดพี่น้อง ที่มักจะออกมาแสดงความน่ารักให้เราเห็นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรทางเราของแสดงความยินดี และขอร่วมอวยพรวันเกิดให้แม่ชมพู่ เป็นที่รักของคนทั้งประเทศแบบนี้ตลอดไปเลยจ้า

ติดตามบทความ บันเทิง ดารา-นักร้อง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

27/06/202127/06/2021

“โปรเจกต์หนัง The Flash” เผยคลิปโลโก้แรกอย่างเป็นทางการ ก่อนเตรียมเข้าฉาย พฤศจิกายน 2022

โปรเจกต์หนัง The Flash เผยคลิปโลโก้แรกอย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศเปิดกล้องถ่ายทำแล้ว ก่อนเตรียมเข้าฉาย พฤศจิกายน 2022

หลังจากที่โปรเจกต์ถูกปล่อยลอยแพอยู่มานานหลายปี จนเมื่อปีที่แล้วได้มีการปล่อยข่าวดีให้ได้ลุ้น ทั้งผํกำกับ และทีมนักแสดง ในที่สุดโปรเจกต์หนังเดี่ยว The Flash ก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นแล้ว
เพราะเมื่อไม่นานมานี้ทางค่าย Warner Bros. ได้ทำการเผยคลิปโลโก้แรกจากหนังเรื่องนี้ พร้อมประกาศว่าหนังได้ทำการเปิดกล้องถ่ายทำเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา

โดยโปรเจกต์ The Flash จะเป็นหนังจากจักรวาล DCEU (DC Extended Universe) ซึ่งจะเป็นหนังที่จะเชื่อมโยงจักรวาล DC ของ Zack Snyder’s Justice League โดยจะได้ เอสร่า มิลเลอร์ กลับมารับบท บิลลี่ อัลเลน หรือ เดอะ แฟลช อีกครั้ง ส่วนเนื้อหายังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ

แต่ที่รู้แน่ชัดคือหนังน่าจะมีการพูดถึงจักรวาลคู่ขนานเพราะในครั้งนี้เราจะได้เห็นแบทแมนถึงสองเวอร์ชั่นด้วยกันคือ แบทแมน ที่แสดงโดย เบน เอฟเฟล็ก และแบทแทน ที่แสดงโดย ไมเคิล คีตัน ที่มาจากหนัง Batman ที่กำกับโดย ทิม เบอร์ตัน เมื่อปี 1989 และปี 1992

ตัวหนังจะได้ แอนดี้ มุชเชติ จาก It ทั้งสองภาค มารับหน้าที่กำกับ พร้อมได้ คริสติน่า ฮอดสัน มือเขียนบทจาก Birds of Prey มาร่วมเขียนบทให้
นอกจาก เบน เอฟเฟล็ก และไมเคิล คีตัน ที่จะมาร่วมแสดงแล้ว หนังยังได้ทีมนักแสดงสมทบไม่ส่าจะเป็น เคียร์ซี่ย์ เคิลมอนส์ (Dope), รอน ลิวิงตัน (The Conjuring) และ มาริเบล เวอร์ดู (Pan’s Labyrinn)

สำหรับความน่าสนใจของ The Flash คือข่าวที่เผยมาจากทีมผู้สร้างหนัง DC ก่อนหน้านี้ที่มีการประกาศว่าหนังในจักรวาล DCEU นั้นจะมีทั้งหมด 2 Earth หรือสองโลกคู่ขนาน

โดย Earth 1 จะเป็นจักรวาลของ Wonder Woman 1984 รวมถึงหนัง Justice League ของ แซค สไนเดอร์ ส่วน Earth 2 จะเป็นของ The Batman หรือแบทแมนฉบับของ โรเบิร์ท แพททินสัน ที่เตรียมเข้าฉายปี 2022

The Flash นั้นจะเป็นการเชื่อมโยงจักรวาลหนัง DC เข้าด้วยกันเป็นครั้งแรก และนั่นอาจทำให้เราได้เห็นเซอร์ไพรส์อีกเพียบในหนังเรื่องนี้ หรือหนังเรื่องต่อ ๆ ไปของ DC ก็เป็นได้

สำหรับปีนี้จะยังมีอีกหนึ่งหนังฟอร์มยักษ์จาก DC มาให้ได้ชมกันคือ The Suicide Squad หนังรวมทีมวายร้าย ที่รวมนักแสดงไว้แบบคับจอ ที่กำกับโดย เจมส์ กันน์ เตรียมเข้าฉายสิงหาคมปีนี้

และในปี 2022 ก็จะมีอีกถึง 3 เรื่องได้แก่ The Batman ที่วางกำหนดฉาย 4 มีนาคม Black Adam ที่วางกำหนดฉายเดือน กรกฎาคม และ The Flash ที่วางกำหนดฉายเดือน พฤศจิกายน

Cr. ภาพ : MDB

ติดตามบทความ ซีรีส์ – หนัง ได้ทุกสัปดาห์ที่ news-entertainments.com

14/04/202114/04/2021

มาแล้ว!!! เจ้าแม่นาคี รุ่นวีรสตรีต้านโควิด

เจ้าโควิด กลัวเจ้าแม่นาคี หรือเปล่านะ สำหรับสาวสายเลือดเจ้าแม่นาคี ที่เสี่ยงโควิดแบบนับครั้งไม่ถ้วน โควิดมารอบไหน เสี่ยงรอบนั้น และต้องกักตัวทุกรอบ รวมถึงระลอกล่าสุดนี้ สาวแต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ ไม่พ้นต้องกักตัว ตรวจโควิด และผลก็ออกมาแล้วว่า รอดจากโควิดอีกแล้ว

เนื่องจากสาวแต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ นางเอกหน้าสวย หุ่นดี หวานใจหนุ่มไฮโซ ณัย ที่ไม่ว่าโควิดระลอกไหน สาวแต้วก็ต้องเสี่ยงกับการติดทุกรอบ และต้องเข้ารับการตรวจทุกรอบเช่นกัน ตั้งแต่ระลอกแรก มาระลอกที่สอง ที่มีภาพหวานๆ จากการกักตัวที่บ้าน แต่มีหวานใจหนุ่ม ณัย มาส่งกำลังใจให้ถึงหน้าบ้าน ซึ่งก็ทำแฟนๆหลายคน เอ็นดูความน่ารักของทั้งสอง

และเมื่อมีโควิดมาระลอกที่สาม สามแต้วก็ไม่วาย ที่จะเสี่ยงติดเชื้อ ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด และกักตัว จนเมื่อกี่วันมานี้ กักตัวครบ 14 วัน และทำการเข้าตรวจหาเชื้ออีกรอบ พบว่า ผลตรวจเป็นลบ จนเป็นข้อสงสัยว่า รอดจากโควิดทุกรอบแบบนี้ มีของดีอะไรหรือเปล่า

ล่าสุด เมื่อรอดจากโควิด 19 สาวแต้วเองก็อยากส่งต่อกำลังใจต่อผู้ที่ประสบภัยจากโรคระบาดนี้ จึงได้จัดทำ Griptok หรือ กิ๊บต้อก เลี่ยมกรอบโลหะ ชุบลงยา ใช้สำหรับติดหลังมือถือ และสามารถยืด หด ได้ ตามความถนัดจับมือ พร้อมสายเชือกถักสีดำคล้องคอ ที่สามารถปรับความยาวได้

ซึ่งผลิตรุ่นแรกแค่ 100 อัน ราคาอันละ 380 บาท เพื่อให้ประชาชนที่สนใจได้ซื้อไปใช้ เตือนสติ ใช้ชีวิตกันอย่างระมัดระวัง ใช้ชีวิตแบบเว้นระยะห่าง รักษาความปลอดภัย ห่วงใยสังคม และยังมี สติ๊กเกอร์ รูป เจ้าแม่นาคี รุ่นวีรสตรีต้านโควิด ราคา 60 บาท พร้อมบทความที่ว่า เสี่ยงทุกรอบ รอดทุกรอบ

โดยรายได้ทั้งหมด ไม่หักค่าใช้จ่าย สาวแต้วจะนำไปมอบให้กับสถาบันบำราศนราดูร และมูลนิธิรามาธิบดีในโครงการป้องกันและช่วยเหลือสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อไป

และเหตุผลที่เลือกนำเจ้าแม่นาคี มาเป็นแบบในการทำ กิ๊บต้อก ออกมา เพราะเจ้าตัว เคยได้รับบทเป็น เจ้าแม่นาคี ที่ทำให้ แต้ว โด่งดัง กลายเป็นที่รู้จักของหลายคน พร้อมทั้ง เจ้าแม่นาคี ยังเป็นตำนานที่ศักดิ์สิทธิ์ จึงมีความเชื่อว่า อำนาจของเจ้าแม่นาคี อาจจะเป็นส่วนช่วยปกป้องให้พ้นจากโควิดได้ ซึ่งเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล ที่สอดคล้องกับสถานการณ์เท่านั้น

ซึ่งเหตุผลหลักที่สาวแต้ว ผลิต กิ๊บต้อก เจ้าแม่นาคี รุ่นวีรสตรีต้านโควิด นี้ขึ้นมา ก็ไม่ใช่เพื่ออะไร แต่เพื่อทำบุญ ส่งต่อความสุข ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนจากเจ้าโรคระบาดโควิดนี้นี่เอง ทั้งสวยทั้งใจบุญเช่นนี้ ขอเป็นกำลังใจให้กับสาวแต้วด้วย

#แต้ว ณฐพร, #เจ้าแม่ต้านโควิด, #เจ้าแม่นาคี, #โควิด19, #newsentertainments.com, #บันเทิงดารานักร้อง

14/03/202115/06/2021

น้ำฟ้า ธัญญภัสร์ สาวสวยน่ารัก ขึ้นแท่น นางเอกหน้าใหม่

น้ำฟ้า ธัญญภัสร์ เป็นสาวสวย วัยใสสุดน่ารักอีกหนึ่งคนที่น่าจับตามอง ความน่ารักของเธอ ยิ่งมองยิ่งทำให้หลง รู้สึกดีต่อใจทุกครั้งที่ได้เจอ

ปัจจุบันน้ำฟ้า ศึกษาที่คณะนิเทศศาสตร์ ภาควิชาวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ชั้นปีที่ 2 มีพี่ชาย 2 คน และน้ำฟ้ายังมีฉายา ว่า “น้ำฟ้าเม็ดฟู่” เพราะมีช่วงหนึ่งที่น้ำฟ้าโหมงานหนัก จนคุณแม่ต้องซื้อวิตามินชนิดเม็ดที่ละลายน้ำมาให้กินบำรุงร่างกาย จนเพื่อนๆล้อถึงปัจจุบัน

ผลงานชิ้นแรกของ น้ำฟ้าที่ทำให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ คือ บุญปลูก ในเรื่อง กรงกรรม ด้วยกระแสตอบรังดีแบบฟีเวอร์ของละครกรงกรรม ทำให้ทุกตัวละครเป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ แม้กระทั่ง “บุญปลูก” ตัวละครประกอบ ที่เป็นเด็กในบ้านแบ้ คอยรับใช้งานเฒ่าแกเนี๊ย จนได้กลายเป็น “สะใภ้รอง” ก็เป็นที่รู้จักชั่วข้ามคืน ทำให้ น้ำฟ้า กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น

ตามมาด้วยผลงานชิ้นที่สองของน้ำฟ้า ก็ยังคงเป็นตัวประกอบในเรื่อง ทุ่งเสน่หา อย่างแก้วใจ เด็กสาวเสียงใส ผิวดำคล้ำ ผมบ๊อบ อาศัยอยู่กลางทุ่งนา จนได้สามีเป็นฝรั่ง ในละคร แก้วใจเป็นคนผิวดำ ซึ่งตรงข้ามกับตัวจริงของน้ำฟ้าที่มีผิวขาวโอโม่ ชวนหลงใหล

นอกจากผลงานละครแล้ว น้ำฟ้า ยังมีผลงานการถ่ายแบบที่ออกมาล่าสุด ได้ร่วมงานถ่ายรูปขึ้นปกกับ MiX Magazine ดิจิทัลแมกกาซีน ฉบับเดือนมกราคม 2564 ด้วยคอนเซปต์ Transporter สลัดลุคสาวใสในกรงกรรมหรือสาวผิวคล้ำในทุ่งเสน่หาไปเลย เป็น ลุคใหม่ สาวแซ่บสายฝอ แอบมีความเซ็กซี่ ไม่เหลือเค้าของบุญปลูกหรือแก้วใจเลยแม้แต่น้อย

ผลงานสายแซ่บ ของน้ำฟ้าได้รับ feedback ที่ดีเกินคาด รับประกันได้จากการที่มีเพื่อนในวงการบันเทิงเข้ามา comment รูปภาพในอินสตราแกรมของสาวน้ำฟ้าเอง อย่าง เด่นคุณ งามเนตร เข้ามา comment ว่า “ไปให้สุดลูก” และ อุ้ม–อิษยา ตอกย้ำความเซ็กซี่ด้วยวลีสั้นๆว่า “แซ่บบบ” เป็นการการันตีว่า น้ำฟ้า สายแซ่บ อาจเป็นทางของเธอก็ได้

จากผลงานที่ออกมาอย่างต่อเนื่องของน้ำฟ้า และมีผลการตอบรับที่ดีของแฟนๆ ทำให้น้ำฟ้าได้รับโอกาสดีๆจากผู้ใหญ่ ได้มีโอกาสเป็น “นางเอกเต็มตัว” เรื่องแรก คือเรื่อง “แม่ครัวคนใหม่” ที่กำลังรอออกอากาศ เล่นคู่กับ ออกัส–วชิรวิชญ์ จัดโดยคุณ อุ๊–พัชนี ที่นำมารีเมกใหม่

ซึ่งครั้งนี้ น้ำฟ้า รับบทเป็นสองตัวละครชื่อล้อมดาว กับไฝดำ ซึ่งเป็นการแสดงสองบทบาทในนักแสดงตัวเดียว ที่ต้องมีการปลอมตัว พูดทั้งภาษาอีสานและภาษาอังกฤษ รวมทั้งต้องทาผิวสีดำเพื่อปลอมตัวอีกด้วย ซึ่งน้ำฟ้าก็ได้ทำการบ้าน ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แถมตอนนี้ยังมีผลงานที่กำลังถ่ายทำ รอให้แฟนๆได้ติดตามกันอีก สองเรื่อง คือ “ให้รักพิพากษา (Dare to Love)” กับ “เลือดเจ้าพระยา” แฟนๆสามารถติดตามผลงานของน้ำฟ้าได้ทางหน้าจอได้เลย

จากตัวประกอบละคร สู่นางเอกละคร ไม่ใช่หนทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ ต้องใช้ความสามารถที่รอบด้าน โอกาสที่ได้จากผู้ใหญ่ เมื่อได้แล้วก็ควรทำมันให้เต็มที่สมกับที่ได้รับโอกาสนั้นมา แล้วจะนำพาไปสู่ความสำเร็จ เหมือนน้ำฟ้า ที่ได้เป็นนางเอกเต็มตัวเรื่องแรก ตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยความสวยใส น่ารักสมวัย และความสามารถที่มากล้น

Tag: #น้ำฟ้า ธัญญภัสร์, #บุญปลูก กรงกรรม, #แม่ครัวคนใหม่, #ธัญญภัสร์ ภัทรธีรชัยเจริญ, #newsentertainments.com, #บันเทิง-ดารา-นักร้อง