รีวิว The Woman in the Window

รีวิว The Woman in the Window

รีวิว The Woman in the Window: หนังระทึกขวัญ ที่พยายามเป็น Rear Window เวอร์ชั่นปัจจุบัน แต่บทกลับเต็มไปด้วยปัญหา การเล่าเรื่องที่น่าเบื่อ

ผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของ โจ ไรท์ (Atonement, Darkest Hour) ที่ดัดแปลงมาจากนิยายชื่อเดียวกันของ เอเจ ฟินน์ ที่เดิมทีถูกวางกำหนดฉายโรงตั้งแต่ปี 2019 แล้ว

แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 จนหนังถูกเลื่อน และดองไว้จนคนลืม ทำให้ค่าย 20th Century Studios ต้องขายสิทธิ์หนังเรื่องนี้ให้ Netflix แทน

รีวิว The Woman in the Window

ตัวหนังจะว่าด้วยเรื่องราวของ แอนนา ฟอกซ์ (เอมี่ อดัมส์) หญิงสาวที่ป่วยเป็นโรคแพนิค หวาดกลัวการเข้าสังคม ทำให้เธอต้องอาศัยอยู่แต่ภายในบ้านตัวเองเท่านั้น จนวันหนึ่งเธอก็ได้พบกับ เจน (จูลี่แอนน์ มัวร์) เพื่อนบ้านวัยกลางคน ที่เข้ามาทักทายเธออย่างเป็นกันเอง

แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่กี่วัน แอนนา ที่กำลังส่งเพื่อนบ้านก็ได้พบว่า เจน ได้ถูกสามีของเธอลงมือฆาตกรรม แอนนา ได้พยายามแจ้งตำรวจ ได้ทำหน้าที่ในฐานะพยานเพื่อเอาผิดสามีของเจน แต่ด้วยอาการป่วยทางจิตของเธอทำให้ไม่มีใครเชื่อเรื่องที่เธอเล่า แอนนาเลยต้องลงมือหาความจริงของคดีนี้ เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่เธอเห็นนั้นคือเรื่องจริง

รีวิว The Woman in the Window

จากพลอต และเงื่อนไขของหนัง ทำให้ใครที่เป็นคอหนังระทึกขวัญพอจะเดาได้ว่าหนังเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่อง Rear Window อีกผลงานขึ้นหิ้งของ อัลเฟร็ด ฮิตช์ค้อก ซึ่งแน่นอนว่าใน The Woman in the Window ก็เต็มไปด้วยการอ้างอิงงานดังกล่าวของฮิตช์ค้อก ทั้งการใส่ฉากของ Rear Window มาเป็นอีสเตอร์เอ้กในตอนเปิดเรื่อง

การที่ตัวเองชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้าน และการถ่ายทอดจากมุมมองหน้าต่างห้องของแอนนา ที่เราจะได้เห็นชีวิตเพื่อนบ้านจากหน้าต่างห้องแต่ละคน

รีวิว The Woman in the Window

ส่วนที่เป็นเอกลักษณ์ และทำให้หนังเรื่องนี้ต่างจาก Rear Window คือการอิงกับเหตุการณ์ในปัจจุบันที่มีทั้งเทคโนโลยี สมาร์ทโฟน ที่สามารถเป็นตัวช่วยสำคัญของเรื่อง และความเป็นหนังจิตวิทยา มากขึ้น(จากที่ใน Rear Window มีเพียงสืบสวน/ระทึกขวัญ)

ความสนุกของเรื่องนี้คือลูกเล่นการสับขาหลอกของหนังให้เราไม่สามารถเชื่อใจตัวละครในเรื่องได้ แม้แต่นางเอกอย่างแอนนาเอง ทั้งนี้ต้องขอชื่นชมการแสดงของ เอมี่ อดัมส์ ที่ถ่ายทอดความรู้สึกของคนที่ป่วยทางจิต มีปมบางอย่างที่ไม่สามารถมูฟออนได้สมจริง ทั้งจากรูปลักษณ์ที่เธอสลัดภาพสวย เซ้กซี่ออกจนหมดสิ้น พร้อมทั้งการถ่ายทอดอารมณ์ที่ชวนกดดัน น่าสงสาร จึงไม่ปฎิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่า เอมี่ อดัมส์คือคนที่ช่วยแบกหนังไว้ได้อย่างแท้จริง

รีวิว The Woman in the Window

อย่างไรก็ตามแม้ว่า The Woman in the Window จะพยายามผลักดันให้ตัวเองเป็น Rear Window มากแค่ไหนก็ตาม หนังเรื่องนี้ก็กลับหาได้เทียบเคียงงานดังกล่าวไม่ หนังเต็มไปด้วยการไปไม่สุด และจุดด้อยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสืบสวน/ระทึกขวัญของหนัง ที่ไม่สามารถทำหน้าที่ได้เท่าที่ควร

เนื่องจากก่อนหน้าที่จะฉายหนังได้ถูกสตูดิโอ ให้ถ่ายทำซ่อมหลายครั้งจนเสียเค้าโครงเดิมไปพอสมควร ส่วนหนึ่งของปัญหาที่เห็นได้ชัดคือหนังไปเสียเวลาอธิบายชีวิตของแอนนา มากเกินไป ทำให้ส่วนที่น่าจะทำให้หนังสนุกอย่างการตามล่าความจริง การใส่เหตุการณ์ตื่นเต้น ลุ้นระทึก ถูกเล่ามาแบบขอไปที จนหนังขาดความน่าติดตาม

อย่างไรก็ตามแม้ว่า The Woman in the Window จะพยายามผลักดันให้ตัวเองเป็น Rear Window มากแค่ไหนก็ตาม หนังเรื่องนี้ก็กลับหาได้เทียบเคียงงานดังกล่าวไม่ หนังเต็มไปด้วยการไปไม่สุด และจุดด้อยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสืบสวน/ระทึกขวัญของหนัง ที่ไม่สามารถทำหน้าที่ได้เท่าที่ควร เนื่องจากก่อนหน้าที่จะฉายหนังได้ถูกสตูดิโอ ให้ถ่ายทำซ่อมหลายครั้งจนเสียเค้าโครงเดิมไปพอสมควร

รีวิว The Woman in the Window

ส่วนหนึ่งของปัญหาที่เห็นได้ชัดคือหนังไปเสียเวลาอธิบายชีวิตของแอนนา มากเกินไป ทำให้ส่วนที่น่าจะทำให้หนังสนุกอย่างการตามล่าความจริง การใส่เหตุการณ์ตื่นเต้น ลุ้นระทึก ถูกเล่ามาแบบขอไปที จนหนังขาดความน่าติดตาม

โดยรวม The Woman in the Window ถือว่าเป็นผลงานที่น่าผิดหวังอีกเรื่องของ 20th Century Studios แบบเดียวกับที่ The New Mutants เคยประสบ ทั้งการโดนเลื่อนฉายจนถูกลืม และการถ่ายซ่อมที่ทำให้เสียโครงสร้างเดิมของหนัง ทำให้แทนที่หนังเรื่องนี้จะสามารถถูกยกให้เป็น Rear Window ฉบับโจ ไรท์ ได้ แต่ท้ายที่สุดหนังเรื่องนี้กลับสอบตกทั้งความเป็นหนังจิตวิทยา หนังสืบสวน และหนังระทึกขวัญที่ดี แม้ว่าจะมีทีมนักแสดงที่น่าจะช่วยผลักดันเรื่องก็ตาม

รีวิว The Woman in the Window
ภาพจากหนง Rar Window

ปล. Rear Window คือหนังผลงานการกำกับของ อัลเฟร็ด ฮิตช์ค้อก ที่ฉายเมื่อปี 1954 หนังว่าด้วยเรื่องราวของชายขาหักที่ต้องอยู่แต่ในอพาร์ทเมนต์ของตัวเอง และใช้เวลาในการส่องเพื่อนบ้าน จนวันหนึ่งเขาได้เห็นว่าเพื่อนบ้านของเขาคนหนึ่งได้ลงมือฆาตกรรมภรรยาของตัวเอง หนังเรื่องนี้ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในหนังระทึกขวัญที่ดีที่สุดอีกหนึ่งเรื่อง ด้วยเทคนิคการนำเสนอที่แปลกใหม่ และการเล่าเรื่องที่ชวนติดตาม โดยสามารถรับชม Rear Window พร้อมซับไทยได้แล้ววันนี้ที่ Amazon Prime

Cr. ภาพ: Rotten Tomatoes

#ซีรีส์ หนัง #News-entertainments.com

The Woman in the Window หนังระทึกขวัญ จิตวิทยา

The Woman in the Window

The Woman in the Window หนังระทึกขวัญ จิตวิทยา ผลงานจากผู้กำกับ Darkest Hour เตรียมฉายบน Netflix 14 พฤษภาคมนี้

อีกหนึ่งหนังที่ถูกผลกระทบจาก โควิด-19 และการที่ค่ายหาจังหวะที่ลงตัวไม่ได้ จนทำให้ถูกดอง และเลื่อนฉายจนลืม สำหรับ The Woman In The Window หนังระทึกขวัญที่เดิมเป็นของค่าย 20th Century Studio ที่ตอนนี้ได้ถูกสตรีมดังอย่าง Netflix ซื้อลิขสิทธิ์นำมาฉายเรียบร้อยแล้ว โดยล่าสุดทางสตรีมดังก็ได้ทำการประกาศวันฉายทางการของหนังเรื่องนี้ พร้อมปล่อยตัวอย่างใหม่มาให้ได้ชมกันแล้ว

The Woman in the Window

โดยหนังจะว่าด้วยเรื่องราวของ แอนนา ฟอกซ์ (เอมี่ อดัมส์) หญิงสาวที่ป่วยเป็นโรคหวาดกลัวการเข้าสังคม จนทำให้เธอต้องเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ไร้เพื่อน ไร้สังคม จนกระทั่งเธอได้รู้จักกับ  เจน (จูลี่แอนน์ มัวร์) เพื่อนบ้านวัยกลางคนที่เธอดูเหมือนจะเข้าใจตัว แอนนา ทุกอย่าง

จนวันหนึ่งเหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อ แอนนา ได้แอบดูบ้านของ เจนผ่านหน้าต่างและพบว่าเพื่อนบ้านหญิงของเธอ ได้ถูกสามี (แกรี่ โอลด์แมน) ทำการฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม

จากนั้น แอนนนา ก็ได้ทำการโทรแจ้งตำรวจ เพื่อดำเนินการเอาผิดสามีของ เจน แต่เธอกลับพบว่า เจนนั้นยังไม่ตาย และเธอกลับมีหน้าตาต่างจาก เจนที่แอนนา รู้จักก่อนหน้า ด้วยเหตุนี้ทำให้การแจ้งความของเธอฟังไม่ขึ้น ด้าน แอนนาที่เห็นแบบนั้นเธอก็ได้พยายามตามหาความจริงของเรื่องทั้งหมดว่ามันคือคดีฆาตดรรม หรือเป็นเพียงอาการตื่นตระหนกของเธอ

The Woman in the Window เป็นผลงานการกำกับของ โจ ไรท์ (Pride & Prejudice, Darkest Hour) และเขียนบทโดย เทรซี่ เลทซ์ ที่ดัดแปลงมาจากนิยายชื่อเดียวกันของ เอ.เจ.ฟินน์ พร้อมได้นักแสดงสาวอย่าง เอมี่ อดัมส์ (Zack Snyder’s Justice League) ที่แปลงโฉมเพิ่มน้ำหนัก และปรับลุ้คให้ดูโทรม เหมือนว่าป่วยเป็นโรคไม่กล้าเข้าสังคมจริง ๆ

นอกจากนี้ก็ยังร่วมสมทบด้วย จูลี่แอนน์ มัวร์ (Still Alice), แกรี่ โอลด์แมน (Darkest Hour), แอนโธนี่ แมคกี้ (ซีรีส์ The Falcon and the Winter Soldier) และไบรอัน ไทรี เฮนรี (Godzilla Vs. Kong)

ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้คือการผสมผสานระหว่างหนังสืบสวนสอบสวน และนักจิตวิทยาระทึกขวัญ ที่ให้อารมณ์ใกล้เคียงกับหนังคลาสสิกอย่าง Rear Window อีกหนึ่งผลงานอันโด่งดังของ อัลเฟร็ด ฮิตช์ค้อค ที่พูดถึงเรื่องราวของตากล้องที่ขาหัก และต้องอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์ โดยมีงานอดิเรกคือแอบส่องชีวิตเพื่อนบ้าน

จนวันหนึ่งเขาได้พบว่าเพื่อนบ้านของเขาได้ทำการฆาตกรรมภรรยาของตน ซึ่งใน The Woman In The Window ก็ได้เล่นกับความสอดรู้สอดเห็นของตัวละคร และคนดู ผสมกับความเป็นจิตวิทยา ที่สับขาหลอกให้เราสงสัยว่าแท้จริงแล้วเหตุการณ์ทั้งหมดคือเรื่องจริง หรือแค่จินตการของตัวละครแอนนา กันแน่ ทำให้พอคาดเดาได้ว่าหนังเรื่องนี้จะมีตอนจบที่หักมุมคนดูได้ไม่มากก็น้อย

The Woman in the Window

สำหรับ เอมี่ อดัมส์ และจูลี่แอนน์ มัวร์ ทั้งคู่กำลังจะมีผลงานการแสดงร่วมกันอีกเรื่องที่จะฉายในปีนี้คือเรื่อง Dear Evan Hansen หนังดราม่า มิวสิคคัล ผลงานการกำกับของ สตีเฟ่น ชาบอสกี้ (The Perks of Being a Wallflower, Wonder)

โดย The Woman in the Window จะมีกำหนดฉาย 14 พฤษภาคมนี้ทาง Netflix

#The Woman in the Window #หนังระทึกขวัญ #Netflix #ซีรีย์ หนัง #news-entertainments.com