“Fast & Furious” ภาคสุดท้ายเริ่มถ่ายทำต้นปีหน้า

Fast & Furious ภาคสุดท้ายเริ่มถ่ายทำต้นปีหน้า..

Fast & Furious ภาพยนตร์การขับรถสุดมันส์ที่มีเรื่องราวสุดแสนยาวนานกำลังจะจบลงแล้ว หลังจากที่วินดีเซลนักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์ได้ออกมาบอกว่าภาพยนตร์เรื่อง Fast & Furious 10 และ 11 กำลังจะเริ่มถ่ายทำในช่วงต้นปีหน้าซึ่งจะเป็นการปิดฉากซีรีส์ Fast & Furious ที่มีมาอย่างยาวนาน

หลังจากที่ Fast & Furious 9 เพิ่งออกฉายในโรงภาพยนตร์ของสหรัฐอเมริกาและประสบความสำเร็จถล่มทลายในช่วงสุดสัปดาห์แรกที่นั่งทำการเปิดตัวในทวีปอเมริกาเหนือนั้นก็ทำรายได้ไปสูงกว่า 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว

เป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่ประสบความสำเร็จในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิดเลยก็ว่าได้ เรื่องราวของ Fast & Furious 9 นั้นก็ยังเป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาครอบครัวของโดมินิค โทเร็ตโต้ เช่นเดียวกับหลาย ๆ ภาคที่ผ่านมา และในตอนนี้ภาพยนตร์ก็ยังไม่ได้เข้าฉายในประเทศไทยทำให้ยังไม่สามารถพี่จะบอกได้ว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไร (ยกเว้นจะไปติดตามสปอยของต่างประเทศ)

ภาพยนตร์ Fast & Furious 9 นั้นได้เริ่มถ่ายทำมาตั้งแต่ในช่วงปี 2019 และก็ได้มีการเลื่อนการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด และหลังจากที่หนังได้ออกฉายในโรงภาพยนตร์แล้วทำอะไรได้ไปเป็นกอบเป็นกำก็สามารถเป็นที่ยืนยันได้แล้วว่า Fast & Furious ยังคงเป็นซีรีส์ที่มีคนติดตามอยู่มากจริง ๆ

และดูเหมือนเรื่องราวนั้นจะยืดยาวออกไปอีก แต่ด้วยการให้สัมภาษณ์ของวินดีเซลผู้ที่รับบทเป็นโดมินิค โทเร็ตโต้ เขาก็ได้ให้คำสัมภาษณ์ว่า “ตอนนี้กำลังจะมีการถ่ายทำภาพยนตร์ Fast & Furious 10 และ Fast & Furious 11 ในเดือนมกราคม 2022 นี้” และภาพยนตร์เรื่อง Fast & Furious 10 จะออกฉายในปี 2022 แน่นอนแต่ยังไม่ได้กำหนดวันออกฉายที่ชัดเจนออกมา

สิ่งที่น่าติดตามมากที่สุดก็คือใน Fast & Furious 10 และ Fast & Furious 11 จะมีตัวละครไหนในซีรีส์ที่ผ่านมาปรากฏตัวออกมาอีกบ้างไหมหลังจากที่ Fast & Furious 9 ก็ได้มีการปรากฏตัวของ Hans ตัวละครที่ทุกคนคิดว่าตายไปแล้วตั้งแต่ใน Fast & Furious Tokyo Drift

ไม่แน่ใน 2 ภาคสุดท้ายเราอาจจะได้เห็น มีอา, ไบรอัน โอคอนเนอร์ และ จีเซลกลับมามีบทบาทอีกครั้ง และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ Fast & Furious จะกลายเป็นภาพยนตร์ที่มีการ Reunion ของครอบครัวที่สมบูรณ์แบบมากเลยทีเดียว

Cr.ภาพ : Wallpaperaccess , Gameradar

ติดตามบทความ ซีรีส์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

“โธมาซิน แมคแคนซี” ย้อนเวลาไปพบความสยอง “Last Night in Soho”

โธมาซิน แมคแคนซี ย้อนเวลาไปพบความสยอง ในตัวอย่างแรก Last Night in Soho

ปล่อยออกมาเรียบร้อยแล้ว สำหรับตัวอย่างแรกอย่างเป็นทางการของ Last Night in Soho หนังสยองขวัญ ผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ เอ็ดการ์ ไรท์ (Baby Driver) ที่ครั้งนี้เขาได้ฉีกกรอบจากสไตล์งานหนังแอคชั่น คอเมดี้ ที่คุ้นเคย มาสู่งานสยองขวัญ จิตวิทยา แบบจริงจัง
แถมมาพร้อมสีสันที่ฉูดฉาดแปลกตากว่าที่ผ่านมา งานนี้ใครที่เป็นแฟนคลับของผู้กำกับมากความสามารถผู้นี้เตรียมนับถอยหลังรอดูกันได้เลย

โดย Last Night in Soho จะว่าด้วยเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นดีไซน์เนอร์ ที่ได้เดินทางไปที่ลอนดอน เมื่อถึงที่หมายก็ได้เกิดเรื่องแปลกประหลาดกับเธอ เมื่อตัวเธอได้พบว่าตนเองย้อนเวลากลับไปยังช่วงปี 1960 พร้อมทั้งยังได้พบกับหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้อง แต่นอกเหนือจากแสงสีที่สวยงาม และผู้คนในเมืองแล้ว มันยังได้มีเรื่องสุดสยองซ่อนเอาไว้ด้วย

สำหรับใน Last Night in Soho ไรท์ จะมารับบทเป็นทั้งผู้กำกับ และร่วมเขียนบทกับ คริสตี้ วิลสัน-แคร์นส์ (1917) โดยหนังก็ได้สองนักแสดงสาวที่กำลังมาแรงอย่าง โธมาซิน แมคเคนซี (Jojo Rabbit) และ อันย่า เทย์เลอร์ จอย (ซีรีส์ The Queen’s Gambit) มาแสดงนำ พร้อมทั้งยังสมทบด้วย แมทท์ สมิธ (ซีรีส์ The Crown), ไดอาน่า ริกก์ (ซีรีส์ Game of Thrones), เทอร์เรนซ์ สแตมป์ (Big Eyes) และ เจสซี่ เหม่ย ลี (ซีรีส์ Shadow and Bone)

ส่วนตัวอย่างแรกที่เผยออกมานั้น เรียกได้ว่าแทบไม่ได้ให้ข้อมูลใหม่ ๆ เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้แก่คนดูแต่อย่างใด เพราะตลอดทั้งตัวอย่างหนังไม่ได้เผยฉากที่เป็นบทพูด หรือดีเทลล์ของเรื่องแต่อย่างใด แต่หนังได้รวบรวมฟุตเทจมาถ่ายทอดให้ดูเหมือนเป็นมิวสิควีดีโอเพลงอย่างที่ตัว ไรท์ มักจะนำมาใช้ในหนังของเขา

ที่น่าสนใจคือหนังค่อนข้างได้อิทธิพลมาจากหนังสยองขวัญคลาสสิกค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงบันดาลใจจากหนังเรื่อง Suspiria (1977) ผลงานสุดโด่งดังของ ดาริโอ อาร์เจนโต ที่เน้นสีสันที่ฉุดฉาด และให้อารมณ์ความสยองแบบคลาสสิค
นอกจากนี้หนังยังค่อนข้างมาในโทนสยองขวัญแบบจริงจัง มีความเป็นจิตวิทยา และเรื่องเหนือธรรมชาติ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นงานที่ฉีกกรอบหนังคอเมดี้ที่ผ่านมาของ ไรท์อย่างสิ้นเชิง

สำหรับ เอ็ดการ์ ไรท์ เป็นผู้กำกับชาวอังกฤษ ที่มีผลงานการกำกับหนังด้วยสไตล์ที่โดดเด่นในด้านการกำกับหนังคอเมดี้ และลีลาการเล่าเรื่องประกอบเพลงแบบมิวสิควีดีโอ งานที่โดดเด่น และเป็นที่รู้จักของ ไรท์ ก็มีมากมายไม่ว่าจะเป็น Shaun of the Dead, Hot Fuzz, Scott Pilgrim vs. the World, The World’s End

และล่าสุดกับ Baby Driver หนังแอคชั่น มิวสิคคัล ที่เป็นที่ชื่นชอบจากคนดู และนักวิจารณ์ จนเตรียมแผนสร้างภาคสองในเร็ว ๆ นี้ ส่วนผลงานถัดไปหลังจาก Last Night in Soho ไรท์ ก็เตรียมกำกับ The Running Man หนังไซไฟ ระทึกขวัญ ที่ดัดแปลงมาจากนิยายของ สตีเวน คิง

Last Night in Soho จะมีกำหนดฉายในไทย 21 ตุลาคม ในโรงภาพยนตร์

Cr. Rotten Tomatoes

ฝากติดตามบทความงานบันเทิงได้ที่ news-entertainments.com #ซีรีย์-หนัง