รีวิวหนัง Winnie the Pooh: Blood and Honey: งานสยองขวัญที่มีไอเดียดี แต่กลับสอบตกในทุกๆ ด้าน หนังเต็มไปด้วยความเป็นสูตรสำเร็จของหนังไล่เชือดเกรดบี ที่ขาดความแปลกใหม่ และเต็มไปด้วยความไม่สมเหตุสมผลมากมาย
รีวิวหนัง Winnie the Pooh: Blood and Honey คืองานสยองขวัญฟอร์มเล็กผลงานการกำกับโดย รีส เฟรค วอเตอร์ฟีลด์ ที่ได้ดัดแปลงมาจากการ์ตูนสุดคลาสสิกอย่าง Winnie the Pooh โดยครั้งนี้คือการสลัดภาพจำของการ์ตูนในวัยเด็ก สู่หนังไล่เชือดเกรดบี ที่ทั้งโหด ดิบ เถื่อน
เรื่องราวของ Winnie the Pooh: Blood and Honey จะอ้างอิงจากการ์ตูนต้นฉบับ หลังจากที่ คริสโตเฟอร์ โรบิน ได้พบกับเหล่าผองเพื่อนในป่า 100 เอเคอร์ โรบิน ก็ได้เติบโต และไปเรียนต่อ ทำให้เหล่าสัคว์ในป่าต่างรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง และทำให้พวกเขาขาดอาหาร ทำให้หมีพูห์ เริ่มฆ่าเพื่อนของตนทีละคนเพื่อนำมาเป็นอาหาร พร้อมสะสมความแค้นเอาไว้ เพื่อไล่ล่ามนุษย์ทุกคนที่เข้ามา จนกระทั่งได้มีกลุ่มวัยรุ่นได้หลงเข้ามาในป่าแห่งนี้ จนนำมาสู่ค่ำคืนแห่งการนองเลือด
หนังมาพร้อมคุณสมบัติเบื้องต้นของความเป็นหนังไล่เชือดสูตรสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็น ตัวละครฆาตกรสวมหน้ากาก เหล่าวัยรุ่นที่เข้ามาเป็นเหยื่อ โลเคชันกลางป่าเขาที่ห่างไกลผู้คน เป็นต้น ซึ่งหนังก็เล่าตามสูตรของหนังแนวนี้ทุกประการ เพียงแต่มีการอ้างอิงบริบทของตัวละคร และอีสเตอร์เอ้กบางอย่างจาก Winnie the Pooh เท่านั้น
ด้วยความที่เป็นหนังเกรดบี ปัญหาแรกที่เจอคืองานโปรดักชันของหนังที่ดูไม่สมจริง และไม่ได้อรรถรส เช่น ฉากฆ่าในหนังที่แทบที่จะสามารถมอบความสยดสยอง หรือสถานการณ์ที่ชวนลุ้น แต่หนังกลับทำออกมาได้ขาดความระทึก ความน่ากลัว การตัดต่อที่ไม่ลื่นไหล ทำให้คนดูขาดอารมณ์ร่วมไปกับหนังอย่างน่าเสียดาย
ด้านบทของหนังก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่หนังเรื่องนี้ทำได้ไม่ถึง เนื่องจากบทของหนังพยายามลอกสูตรหนังสยองขวัญส่วนใหญ่จนเกินไป ทำให้บทเต็มไปด้วยความไม่สมเหตุสมผล ตัวละครในเรื่องล้วนแต่ขาดมิติ ขาดความน่าจดจำ หรือเอาใจช่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวละครหมีพูห์ ที่เป็นฆาตกรในเรื่อง ก็กลับขาดที่มาที่ไป และขาดเสน่ห์ที่ควรมีของตัวละครนักเชือดไปโดยสิ้นเชิง
นอกจากความแปลกใหม่ที่หาแทบไม่ได้ในหนัง และบทที่เต็มไปด้วยข้อด้อยแล้ว การเล่าเรื่องของ Winnie the Pooh: Blood and Honey ยังทำออกมาได้ไร้ชีวิตชีวา ตลอดทั้งเรื่องหนังเล่าแบบเส้นตรงราบ หนังขาดจุดพีค หรือหรือหักมุมที่ให้คนดูได้รู้สึกตื่นเต้น หรือเซอร์ไพรส์ใดๆ ให้คนดูรู้สึกอยากจดจำ และไม่มีข้อคิดให้ได้ไปต่อใดๆ ทั้งสิ้น
โดยรวม Winnie the Pooh: Blood and Honey คืองานสยองขวัญที่น่าผิดหวังที่สุดเรื่องหนึ่งของปี 2023 หนังไม่ได้มีความแปลกใหม่ใดๆ นอกไปจากการหยิบหมีพูห์ มาทำให้เป็นเวอร์ชันน่ากลัว สำหรับแฟนหนังไล่เชือด นี่อาจเป็นงานที่พอดูฆ่าเวลาได้เพลินๆ แต่ไม่ได้มีคุณค่าให้ดูซ้ำรอบสองต่อใดๆ ทั้งสิ้น
สามารถรับชม Winnie the Pooh: Blood and Honey ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix
Cr.ภาพ: Netflix
ลิงก์ตัวอย่าง: https://youtu.be/Ud-FBr74K8o
ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com
FB : รวมพลคนบันเทิง