รีวิวหนัง Air จุดเริ่มต้นของรองเท้า Air Jordan

รีวิวหนัง Air หนังดราม่าที่ว่าด้วยจุดเริ่มต้นของรองเท้า Air Jordan

รีวิวหนัง Air หนังดราม่า เนื้อหาเรียบง่ายที่ว่าด้วยจุดเริ่มต้นของรองเท้า Air Jordan แต่วิธีการนำเสนอกลับไปด้วยความสนุก เพลิดเพลิน และบทหนังที่ยอดเยี่ยมตลอดเวลา 2 ชั่วโมง แมตต์ เดม่อน คือสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของหนังเรื่องนี้

รีวิวหนัง Air ผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของ เบน เอฟเฟล็กซ์ (Argo) ที่ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่เอ็ฟเฟล็กหยิบเรื่องจริงมาถ่ายทอด ผ่านผลงานการเขียนบทของ อเล็ก คอนเวอร์รี่ ที่ประเดิมงานเขียนบทเรื่องแรก นำแสดงโดย แมตต์ เดม่อน (Jason Bourne), เจสัน เบตแมน (ซีรีส์​ Ozark), วีโอลา เดวิส (The Suicide Squad) พร้อมตัวเอ็ฟเฟล็ก ก็มาร่วมแสดงสมทมด้วย

รีวิวหนังAir หนังดราม่าที่ว่าด้วยจุดเริ่มต้นของรองเท้า Air Jordan

เรื่องราวของ Air จะพาคนดูย้อนไปยังยุค 80 ในช่วงที่ตลาดรองเท้ากีฬากำลังเป็นที่นิยม แต่ทว่าบริษัทไนกี้ในตอนนี้กำลังประสบปัญหาในการขาดทุนด้านรองเท้าบาส ทำให้ ซอนนี่ (แมตต์ เดม่อน) หัวหน้าแผนกรองเท้าบาสเก้ตบอล ต้องหากลยุทธ์มากอบกู้บริษัทอีกครั้ง ทำให้เขาเกิดไอเดียในการนำ ไมเคิล จอร์แดน ที่กำลังโด่งดังในตอนนี้มาเซ็นสัญญาเพื่อเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับไนกี้ จนนำมาสู่เหตุการณ์มากมายที่เป็นจุดเริ่มต้นของ Air Jordan รองเท้าบาสยอดนิยมของคนทั่วโลก

รีวิวหนัง Air หนังดราม่าที่ว่าด้วยจุดเริ่มต้นของรองเท้า Air Jordan

หนังมาพร้อมพลอตแนวธุรกิจ แรงบันดาลใจ สูตรสำเร็จที่เล่าแบบเรียบง่าย ไม่ได้มีลูกเล่น หรือความหวือหวามาก เมื่อเทียบกับงานแนวเดียวกันอย่าง Tetris ของ Apple TV+ แต่ความสนุกของ Air ก็คือความเรียบง่าย ที่ถูกเล่าออกมาได้อย่างถูกจังหวะจะโคน และสามารถผสมผสานระหว่างความเป็นดราม่า และคอเมดี้ได้อย่างลงตัว

รีวิวหนังAir หนังดราม่าที่ว่าด้วยจุดเริ่มต้นของรองเท้า Air Jordan

ความไม่น่าเชื่อของหนังคือนี่เป็นงานบทหนังของ อเล็ก คอนเวอรี่ ที่เขียนบทหนังยาวครั้งแรก แต่บทหนังของเขาเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่แบกหนังไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม หนังสามารถถ่ายทอดบทสนทนาเรื่องน่าเบื่ออย่างธุรกิจ ให้ออกมาสนุกน่าติดตาม ด้วยการสอดแทรกมุกตลกเป็นระยะๆ พร้อมทั้งวิธีอธิบายบริบทต่างๆ ที่เข้าใจง่าย ต่อให้ไม่ใช่แฟนไนกี้ หรือแฟนบาส ก็สามารถสนุกกับหนังได้ไม่ยาก

รีวิวหนังAir หนังดราม่าที่ว่าด้วยจุดเริ่มต้นของรองเท้า Air Jordan

ด้านการแสดงต้องขอชื่นชม แมตต์ เดม่อน ที่เป์นคนที่แบกหนังเรื่องนี้ไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม เขาสามารถถ่ายทอดคาแรคเตอร์ซอนนี่ ให้ออกมาเป็นที่รักของคนดูได้ตั้งแต่นาทีแรก ไม่ว่าจะเป็นความกวน ความตลก และความกล้าคิดนอกกรอบ ในขณะที่ เบน เอ็ฟเฟล็ก ก็รับบท ฟิล ไนต์ ออกมาได้เท่ มีสไตล์มากๆ
โดยรวม Air เป็นงานดราม่า สร้างจากเรื่องจริงอีกเรื่องที่เล่าออกมาได้สนุก และบันเทิงเกินคาด หนังสามารถเล่าจุดเริ่มต้นของ Air Jordan ได้อย่างละเอียด เต็มไปด้วยอีสเตอร์เอ้กที่คนรักรองเท้าจะต้องตื่นตาตื่นใจ ใครที่มองหาหนังดีๆ สร้างแรงบันดาลใจนี่คืออีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
สามารถรับชม Air ได้แล้ววันนี้ที่ Prime Video

Cr.ภาพ: Rotten Tomatoes
ลิงก์ตัวอย่าง: https://youtu.be/S3i9V6S48lw

ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง 

รีวิวหนัง หุ่นพยนต์

รีวิวหนัง หุ่นพยนต์ หนังสยองขวัญชั้นดี ผลงานการกำกับของ ไมค์-ภณธฤต

รีวิวหนัง หุ่นพยนต์ หนังไทย ที่มาพร้อมวัตถุดิบชั้นดีที่น่าจะเป็นหนังสยองขวัญชั้นดีได้ แต่น่าเสียดายที่หนังยัดประเด็นมากเกินไป จนสอบตกทั้งการสร้างความน่ากลัว และพาร์ทสืบสวน จนกลายเป็นหนังสูตรสำเร็จที่ไปไม่สุดสักทาง

รีวิวหนัง หุ่นพยนต์ หนึ่งในหนังไทยประจำปี 2566 ที่เคยเป็นประเด็นระหว่างเข้าฉายจากประเด็นเรื่องศาสนาในเรื่องจนต้องเลื่อนฉาย ล่าสุดหลังจากออกจากโรงหนังก็ได้เข้าฉายบน Prime Video เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งหนังเป็นผลงานการกำกับของ ไมค์-ภณธฤต  โชติกฤษฎาโสภณ (พี่นาค 1-3) ที่ครั้งนี้ยังเล่นประเด็นพระ และสยองขวัญเหมือนเดิม เพียงแต่สลัดความตลกสู่โหมดสืบสวน ระทึกขวัญแทน

รีวิวหนัง หุ่นพยนต์ หนังสยองขวัญชั้นดี ผลงานการกำกับของ ไมค์-ภณธฤต

หุ่นพยนต์ จะว่าด้วยเกาะดอนสิงธรรม เกาะเล็กๆ ที่ผู้คนศรัทธาในเรื่องการปั้นหุ่นศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่า “หุ่นพยนต์” เหตุการณ์ในหนังเริ่มขึ้นเมื่อ ธาม (ภูวิน-ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน) ชายหนุ่มที่เดินทางมายังเกาะแห่งนี้เพื่อตามหาพี่ชายของเขาที่บวชเป๋นพระบนเกาะแห่งนี้ ที่ได้หายตัวไปอย่างปริศนา ในขณะที่ผู้คนบนเกาะเชื่อว่าพี่ของเขาได้ลงมือฆ่าคนบนเกาะและหนีไป ธาม ต้องพยายามสืบหาความจริง จนทำให้เขาพบกับเรื่องเหนือธรรมชาติของการเล่นของ และวิญญาณร้ายที่มาจากหุ่นพยนต์ ที่ต้องการเล่นงานเขาถึงชีวิต

รีวิวหนัง หุ่นพยนต์ หนังสยองขวัญชั้นดี ผลงานการกำกับของ ไมค์-ภณธฤต

ด้วยความที่หนังเป็นผลงานการกำกับของทีมสร้างจาก พี่นาค ทำให้ หุ่นพยนต์ มีกลิ่นอายที่เหมือนๆ กันอยู่เยอะ ทั้งทีมนักแสดงที่เป็นเณร และพระ ที่คงความเป็นเด็กเจน Z เอาไว้ รวมถึงการดีไซน์ผีในเรื่องที่แทบไม่ต่างอะไรจากพี่นาคเท่าไหร่นัก

ตัวหนังมีธีมค่อนข้างที่น่าสนใจ และน่าจะเป็นหนึ่งในงานสยองขวัญไทยน้ำดี ที่อาจเทียบเคียงกับ “ร่างทรง” ได้ ทั้งบรรยากาศความเป็นต่างจังหวัด หรือการเล่นกับความเชื่อเรื่องรูปปั้น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้หนังยังมาพร้อมประเด็นของศรัทธา ศาสนา ที่เป็นประเด็นละเอียดอ่อนอีกด้วย

รีวิวหนัง หุ่นพยนต์ หนังสยองขวัญชั้นดี ผลงานการกำกับของ ไมค์-ภณธฤต

แต่สิ่งที่น่าเสียดายของหนังเรื่องนี้คือการที่หนังไม่สามารถใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบที่กล่าวมาให้คุ้มค่าได้ เพราะหนังพยายามใส่ประเด็นหลายอย่างเยอะเกินไป ทั้งการสืบสวนของ​ธาม เรื่องความขัดแย้งภายในของพระบนเกาะ รวมถึงพาร์ทสยองขวัญที่เกิดขึ้นกับแต่ละตัวละคร ซึ่งด้วยการเล่าเรื่องที่พยายามกระชับ รวดเร็ว ทำให้หนังไม่สามารถไปสุดสักทาง

พาร์ทสยองขวัญ หนังไม่สามารถสร้างบรรยากาศที่ชวนหลอนให้กับคนดูได้ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกับหุ่นพยนต์ หรือรูปปั้นต่างๆ ที่ทำออกมาได้จืดชืด ขาดความน่าเกรงขาม ส่วนผีในเรื่องก็ยังมาพร้อมเมคอัพแบบพี่นาค ที่ไม่ได้มีความน่าสยดสยอง รวมทั้งฉากตุ้งแช่ที่ธรรมดาจนไม่ได้สร้างอารมณ์ร่วมกับคนดูแต่อย่างใด

รีวิวหนังหุ่นพยนต์ หนังสยองขวัญชั้นดี ผลงานการกำกับของ ไมค์-ภณธฤต

ในขณะที่พาร์ทสืบสวน หนังทำออกมาได้ค่อนข้างน่าติดตาม สิ่งที่น่าชื่นชมคือ ความกล้าหาญของผู้สร้างที่หยิบประเด็นการโกงกินในผ้าเหลือมานำเสนอ แต่ก็น่าเสียดายที่หนังไปหนักพาร์ทสยองขวัญเกินไปจนทำให้พาร์ทสืบสวนดูขาดๆ เกินๆ โดยเฉพาะในช่วงเฉลยปมปริศนาทั้่งหมดที่ค่อนข้างดูพยายามแถจนเกินไป
โดยรวม หุ่นพยนต์ เป็นอีกหนึ่งงานสยองขวัญไทย ที่น่าเสียดายในหลายๆ ด้าน หนังมีวัตถุดิบที่น่าจะเป็นหนังที่น่ากลัวได้ แต่กลับเลือกที่จะเดินตามสูตรสำเร็จ และบทหนังที่ยังค่อนข้างสับสนในตัวเอง จนกลายเป็นงานที่ไม่สามารถสร้างทั้งความน่ากลัว หรือความสนุกใดๆ ให้กับผู้ชมอย่างน่าเสียดาย

สามารถรับชม หุ่นพยนต์ ได้แล้ววันนี้ที่ Prime Video

Cr.ภาพ: Prime Video
ลิงก์ตัวอย่าง: https://youtu.be/87gML3l9fvA

ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง 

รีวิวหนัง The Boogeyman

รีวิวหนัง The Boogeyman หนังสยองขวัญที่เล่นกับความมืด

รีวิวหนัง The Boogeyman หนังสยองขวัญที่เล่นกับความมืด ได้อย่างคุ้มค่า อาจไม่ถึงกับแปลกใหม่ แต่ก็เป็นหนังที่สามารถสร้างความลุ้นระทึก และพาคนดูร่วมกลัวที่มืดไปกับตัวละครตลอดทั้งเรื่อง 

รีวิวหนัง The Boogeyman ผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของ ร็อบ ซาเวจ (Host) ที่ครั้งนี้เป็นการก้าวเข้ามาทำหนังสตูดิโอเรื่องแรก โดยเป็นงานที่ดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นของ สตีเวน คิง พร้อมได้นักแสดงนำได้แก่ โซฟี แทตเชอร์ (ซีรีส์ The Book of Boba Fett), วิเวียน ไลรา แบลร์ (ซีรีส์ Obi-Wan Kenobi) และ คริส เมสสินา (Air)

รีวิวหนัง The Boogeyman หนังสยองขวัญที่เล่นกับความมืด

เรื่องราวของ The Boogeyman จะว่าด้วยครอบครัวของ วิล ฮาร์เปอร์ (คริส เมสสินา) นักบำบัดที่พึ่งสูญเสียผู้เป็นภรรยา และแม่ของลูกไป ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนในครอบครัว จนกระทั่งวันหนึ่งได้มีชายปริศนาเข้ามาในบ้านของพวกเขา และได้ทำการฆ่าตัวตายอย่างน่าสยดสยอง จากการกระทำของชายปริศนานี้ ได้ทิ้งคำสาปของปีศาจร้ายไว้ในบ้านหลังนี้ และทำให้ ซอว์เยอร์ (วิเวียน ไลรา แบลร์) ลูกสาวคนเล็กของบ้านเห็นปีศาจที่ซ่อนในความมืด เซดี้ (โซฟี แทตเชอร์) ผู้เป็นพี่สาวต้องหาทางปกป้องน้องสาวจากคำสาปอันน่ากลัวนี้

รีวิวหนัง The Boogeyman หนังสยองขวัญที่เล่นกับความมืด

ตัวหนังมาพร้อมการเล่าเรื่องตามสูตรสำเร็จของหนังสยองขวัญ ที่จะโฟกัสไปที่สถาบันครอบครัวที่กำลังเผชิญปัญหาจากการสูญเสีย มีการพูดถึงบาดแผลในใจ และความหวาดกลัวของเด็ก จุดขายสำคัญของหนังเรื่องนี้คือการพูดถึงความกลัวความมืดที่เราไม่รู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ 

พาร์ทสยองขวัญหนังทำได้ค่อนข้างดี มีฉากจัมป์สแคร์ให้ได้ตกใจประปราย แต่ที่พิเศษคือการเล่นกับความสยองในทุนสร้างที่จำกัด ซึ่งในเรื่องนี้ ร็อบ ซาเวจ สามารถเล่นกับจังหวะต่างๆ ให้คนดูรู้สึกกลัวร่วมไปกับตัวละคร โดยที่แทบไม่ต้องแสดงหน้าตาของ บูกี้แมน ให้เห็นแต่อย่างใด แถมหนังยังสามารถไต่ระดับความสนุก ความน่ากลัวไปจนถึงตอนจบเรื่องได้อย่างชวนลุ้น ชวนติดตาม

รีวิวหนังThe Boogeymanหนังสยองขวัญที่เล่นกับความมืด

พาร์ทดราม่าหนังก็สามารถทำได้ดีไม่แพ้กัน หนังสามารถถ่ายทอดความสัมพันธ์ของพี่น้องได้อย่างดีเยี่ยม ชวนให้คนดูอยากร่วมลุ้น ร่วมเอาใจช่วยตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง การแสดงของ โซฟี แทตเชอร์ และวิเวียน ไลรา แบลร์ สามารถทำให้เราเชื่อว่าทั้งสองเป็นพี่น้องกันจริงๆ โดยเฉพาะการแสดงของ ไลรา แบลร์ ที่สามารถถ่ายทอดความกลัวความมืดของเด็กน้อยได้เป็นธรรมชาติสุดๆ

รีวิวหนังThe Boogeyman หนังสยองขวัญที่เล่นกับความมืด

ข้อเสียของ The Boogeyman คือการที่หนังค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จมากเกินไป จนแทบไม่มีความแปลกใหม่ใดๆ ในหนัง รวมถึงการเล่นกับความมืดมากเกินไป จนทำให้คนดูแทบมองไม่เห็นตัวปีศาจในเรื่อง ทั้งๆ ที่น่าจะเป็นจุดขายที่ดีให้หนังได้ กลายเป็นว่าเป็นปีศาจที่ใช้งานได้ไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าที่ควร

โดยรวม The Boogeyman คือหนังสยองขวัญสูตรสำเร็จ ที่สามารถสร้างความกลัวความมืดให้กับคนดู และมีพาร์ทดราม่าที่ค่อนข้างดี แม้ว่าอาจเสียดายที่หนังไม่ได้แปลกใหม่มากนัก แต่ก็เป็นอีกเรื่องที่ตอบโจทย์คอหนังสยองขวัญไม่น้อย

สามารถรับชม The Boogeyman ได้แล้ววันนี้ที่ Disney+ Hotstar

Cr.ภาพ: Disney+
ลิงก์ตัวอย่าง: https://youtu.be/11WBKyKhkpo

ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง 

รีวิวหนัง Winnie the Pooh: Blood and Honey

รีวิวหนัง Winnie the Pooh: Blood and Honey หนังสยองขวัญฟอร์มเล็ก

รีวิวหนัง Winnie the Pooh: Blood and Honey: งานสยองขวัญที่มีไอเดียดี แต่กลับสอบตกในทุกๆ ด้าน หนังเต็มไปด้วยความเป็นสูตรสำเร็จของหนังไล่เชือดเกรดบี ที่ขาดความแปลกใหม่ และเต็มไปด้วยความไม่สมเหตุสมผลมากมาย

รีวิวหนัง Winnie the Pooh: Blood and Honey คืองานสยองขวัญฟอร์มเล็กผลงานการกำกับโดย รีส เฟรค วอเตอร์ฟีลด์ ที่ได้ดัดแปลงมาจากการ์ตูนสุดคลาสสิกอย่าง Winnie the Pooh โดยครั้งนี้คือการสลัดภาพจำของการ์ตูนในวัยเด็ก สู่หนังไล่เชือดเกรดบี ที่ทั้งโหด ดิบ เถื่อน

รีวิวหนัง Winnie the Pooh: Blood and Honey หนังสยองขวัญฟอร์มเล็ก

เรื่องราวของ Winnie the Pooh: Blood and Honey จะอ้างอิงจากการ์ตูนต้นฉบับ หลังจากที่ คริสโตเฟอร์ โรบิน ได้พบกับเหล่าผองเพื่อนในป่า 100 เอเคอร์ โรบิน ก็ได้เติบโต และไปเรียนต่อ ทำให้เหล่าสัคว์ในป่าต่างรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง และทำให้พวกเขาขาดอาหาร ทำให้หมีพูห์ เริ่มฆ่าเพื่อนของตนทีละคนเพื่อนำมาเป็นอาหาร พร้อมสะสมความแค้นเอาไว้ เพื่อไล่ล่ามนุษย์ทุกคนที่เข้ามา จนกระทั่งได้มีกลุ่มวัยรุ่นได้หลงเข้ามาในป่าแห่งนี้ จนนำมาสู่ค่ำคืนแห่งการนองเลือด

รีวิวหนัง Winnie the Pooh: Blood and Honey หนังสยองขวัญฟอร์มเล็ก

หนังมาพร้อมคุณสมบัติเบื้องต้นของความเป็นหนังไล่เชือดสูตรสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็น ตัวละครฆาตกรสวมหน้ากาก เหล่าวัยรุ่นที่เข้ามาเป็นเหยื่อ โลเคชันกลางป่าเขาที่ห่างไกลผู้คน เป็นต้น ซึ่งหนังก็เล่าตามสูตรของหนังแนวนี้ทุกประการ เพียงแต่มีการอ้างอิงบริบทของตัวละคร และอีสเตอร์เอ้กบางอย่างจาก Winnie the Pooh เท่านั้น

ด้วยความที่เป็นหนังเกรดบี ปัญหาแรกที่เจอคืองานโปรดักชันของหนังที่ดูไม่สมจริง และไม่ได้อรรถรส เช่น ฉากฆ่าในหนังที่แทบที่จะสามารถมอบความสยดสยอง หรือสถานการณ์ที่ชวนลุ้น แต่หนังกลับทำออกมาได้ขาดความระทึก ความน่ากลัว การตัดต่อที่ไม่ลื่นไหล ทำให้คนดูขาดอารมณ์ร่วมไปกับหนังอย่างน่าเสียดาย

รีวิวหนัง Winnie the Pooh: Blood and Honey หนังสยองขวัญฟอร์มเล็ก

ด้านบทของหนังก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่หนังเรื่องนี้ทำได้ไม่ถึง เนื่องจากบทของหนังพยายามลอกสูตรหนังสยองขวัญส่วนใหญ่จนเกินไป ทำให้บทเต็มไปด้วยความไม่สมเหตุสมผล ตัวละครในเรื่องล้วนแต่ขาดมิติ ขาดความน่าจดจำ หรือเอาใจช่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวละครหมีพูห์ ที่เป็นฆาตกรในเรื่อง ก็กลับขาดที่มาที่ไป และขาดเสน่ห์ที่ควรมีของตัวละครนักเชือดไปโดยสิ้นเชิง

รีวิวหนังWinnie the Pooh: Blood and Honey หนังสยองขวัญฟอร์มเล็ก

นอกจากความแปลกใหม่ที่หาแทบไม่ได้ในหนัง และบทที่เต็มไปด้วยข้อด้อยแล้ว การเล่าเรื่องของ Winnie the Pooh: Blood and Honey ยังทำออกมาได้ไร้ชีวิตชีวา ตลอดทั้งเรื่องหนังเล่าแบบเส้นตรงราบ หนังขาดจุดพีค หรือหรือหักมุมที่ให้คนดูได้รู้สึกตื่นเต้น หรือเซอร์ไพรส์ใดๆ ให้คนดูรู้สึกอยากจดจำ และไม่มีข้อคิดให้ได้ไปต่อใดๆ ทั้งสิ้น

โดยรวม Winnie the Pooh: Blood and Honey คืองานสยองขวัญที่น่าผิดหวังที่สุดเรื่องหนึ่งของปี 2023 หนังไม่ได้มีความแปลกใหม่ใดๆ นอกไปจากการหยิบหมีพูห์ มาทำให้เป็นเวอร์ชันน่ากลัว สำหรับแฟนหนังไล่เชือด นี่อาจเป็นงานที่พอดูฆ่าเวลาได้เพลินๆ แต่ไม่ได้มีคุณค่าให้ดูซ้ำรอบสองต่อใดๆ ทั้งสิ้น

สามารถรับชม Winnie the Pooh: Blood and Honey ได้แล้ววันนี้ที่ Netflix

Cr.ภาพ: Netflix
ลิงก์ตัวอย่าง: https://youtu.be/Ud-FBr74K8o

ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง 

รีวิวหนัง ธี่หยด

รีวิวหนัง ธี่หยด หนังสยองขวัญสไตล์ไทยๆ สร้างความหลอนได้อย่างดีเยี่ยม

รีวิวหนัง ธี่หยด : อีกหนึ่งหนังสยองขวัญสไตล์ไทยๆ ที่เล่าเรื่องได้น่ากลัวและตื่นเต้นแบบเต็มสูบ หนังใช้เสียงสร้างความหลอนได้อย่างดีเยี่ยม ฉากผีหลอกที่ทำได้ชวนขนลุก เพิ่มเติมคือฉากคนสู้ผีที่ทำได้เดือดเกินคาด

รีวิวหนัง ธี่หยด หนึ่งในหนังผีไทยแห่งปี 2023 ที่ได้รับความสนใจจากแฟนหนังและคนรักเรื่องสยองขวัญ ด้วยความที่เป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากเรื่องผีในตำนานที่เคยโด่งดังบนเว็บไซต์ Pantip จนกลายเป็นนิยาย และมีเรื่องเล่าบน The Ghost Radio ซึ่งในเวอร์ชันหนังนี้ได้ คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา เจ้าของผลงาน ทองสุก 13 มารับหน้าที่กำกับ พร้อมได้พระเอกสุดฮอตอย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ มาร่วมแสดงนำ

รีวิวหนัง ธี่หยด หนังสยองขวัญสไตล์ไทยๆ สร้างความหลอนได้อย่างดีเยี่ยม

เรื่องราวของ ธี่หยด จะย้อนไปยังช่วงปี พ.ศ.2515 ณ หมู่บ้านเล็กๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อครอบครัวหนึ่งต้องเผชิญกับเรื่องสุดสยองเมื่อ แย้ม (รัตนวดี วงศ์ทอง) ลูกสาวคนกลางของบ้านได้เกิดอาการแปลกประหลาด เหมือนคนถูกผีเข้า พร้อมทั้งคนในบ้านก็ได้เห็นวิญาณของหญิงชุดดำ คอยหลอกหลอน พร้อมทั้งมีเสียง ‘ธี่หยด’ ที่จะดังในทุกๆ คืน ทำให้ ยักษ์ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) พี่ชายคนโตของครอบครัวที่ไม่ได้หวาดกลัวผีร้ายตนนี้ ต้องหาทางปราบมัน 

รีวิวหนัง ธี่หยด หนังสยองขวัญสไตล์ไทยๆ สร้างความหลอนได้อย่างดีเยี่ยม

ธี่หยด ถือว่าเป็นอีกหนึ่งหนังผีสไตล์ไทยจ๋า ที่มาพร้อมลูกเล่นสูตรสำเร็จหนังผีไทยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกับบรรยากาศต่างจังหวัด บ้านเรือนไทย และความเชื่อเรื่องผีสางแบบสมัยโบราณ แต่ถึงแม้จะไม่ได้มีความใหม่มากหนังเรื่องนี้ก็สามารถเล่าเรื่องตลอดสองชั่วโมงได้สนุกครบรส ทั้งดราม่า สยองขวัญ ไปจนถึงแอ็คชัน

จุดขายของหนังเรื่องนี้คือการใช้เสียงเพื่อสร้างความหลอนกับคนดู โดยเฉพาะเสียง ’ ธี่หยด’ ที่เป็นจุดไฮไลท์ที่ได้ยินเมื่อไหร่ให้เตรียมพบความน่าสะพรึง นอกจากเสียงดังกล่าวแล้ว เสียงอื่นๆ ในหนังก็ทำได้ดีมากๆ เป็นหนังที่สามารถใช้ประโยชน์จากเสียงของโรงภาพยนตร์มาใช้งานจนทำให้คนดูหวาดกลัว และรู้สึกร่วมไปกับหนังได้อย่างดีเยี่ยม

รีวิวหนังธี่หยด หนังสยองขวัญสไตล์ไทยๆ สร้างความหลอนได้อย่างดีเยี่ยม

นอกจากเสียงที่สร้างความหลอนแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เพิ่มความน่ากลัวให้หนังเรื่องนี้คือเมคอัพผีที่ทำออกมาได้ชวนสยดสยอง โดยเฉพาะรอยยิ้มของผีผู้หญิงชุดดำที่สามารถหลอนติดตาใครหลายๆ คนได้ นอกจากนี้หนังยังมีสไตล์การหลอกของผีที่ทั้งโหด มีฉากเห็นเลือดเห็นเนื้อ 

รีวิวหนังธี่หยด หนังสยองขวัญสไตล์ไทยๆ สร้างความหลอนได้อย่างดีเยี่ยม

ไม่เพียงเท่านั้น หนังยังมีฉากแอ็คชันระหว่างคนกับผีที่ทำออกมาได้ดุเดือดและเป็นรสชาติใหม่ที่ไม่ค่อยเห็นในหนังผีไทย ซึ่งตัวละครที่ท้าทายผีประจำเรื่องก็คือ ยักษ์ที่รับบทโดย ณเดชน์ ซึ่งในเรื่องนี้เขาก็ได้ถ่ายทอดการแสดงบทบู๊ได้อย่างเท่สะใจ จนหลายคนยกให้เป็นตัวละครโปรดในเรื่อง

โดยรวม ธี่หยด คืออีกหนึ่งในผีไทยน้ำดีที่มาพร้อมการเล่าเรื่องแบบคนชอบเรื่องผีจะต้องหลงรัก หนังมีบรรยากาศผีไทยแบบสมัยก่อนที่สร้างบรรยากาศหลอนได้เป็นอย่างดี พร้อมการเล่าเรื่องตลอดสองชั่วโมงที่สนุกแบบไม่มีจังหวะพัก สามารถยกย่องได้ว่านี่คือหนังผีที่เหมาะกับการดูโรงโดยแท้จริง

สามารถรับชม ธี่หยด ได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ 

Cr.ภาพ: M Pictures
ลิงก์ตัวอย่าง: https://youtu.be/4MFA-ZhsK0c

ติดตามบทความ ซีรีย์ – หนัง ในทุกสัปดาห์ได้ที่ news-entertainments.com

FB : รวมพลคนบันเทิง 

รีวิวหนัง Don’t Listen เสียงสั่งหลอน

Don't Listenเสียงสั่งหลอน

รีวิวหนัง Don’t Listen เสียงสั่งหลอน ผีสเปนสุดโหดที่ไม่ได้มาเล่น ๆ

ครอบครัวแดเนียลย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ใหญ่โตน่าอยู่ พวกเขาต้องการที่จะต่อยอดคฤหาสน์หลังนี้และขายต่อด้วยราคาสูงกว่าที่พวกเขาซื้อมา แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายดายแบบนั้นเพราะบ้านที่พวกเขาอยู่ดันแฝงไปด้วยเรื่องราวชวนขนหัวลุกและพีคกว่าที่เราคาดคิดไว้

Don't Listenเสียงสั่งหลอน

คำเตือน : คนรักแมวและคนกลัวของมีคม โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมด้วยนะคะเพราะภาพในหนังค่อนข้างสะเทือนใจอยู่บางฉาก

Don’t Listen เสียงสั่งหลอน : “เอริค” ลูกชายของแดลเนียลและซาร่าเริ่มมีอาการแปลกประหลาด เขาได้ยินเสียงมาจากที่ไหนสักแห่งในตัวบ้านและในบางครั้งเสียงก็มาจากวิทยุสื่อสารของเขาซึ่งมันคอยบอกเรื่องราวให้กับเอริคอยู่เสมอและเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเล่าเรื่องนี้ให้พ่อและแม่ฟัง พวกเขาขอให้นักจิตวิทยามาตรวจอาการเอริคที่บ้าน เอริคบอกเธอไปว่า เสียงเป็นคนบอกเรื่องราวและขอให้เขาวาดรูปหลอน ๆ ให้ แน่นอนว่านักจิตวิทยาไม่มีทางเข้าใจอะไรแบบนี้แน่ ๆ แต่หลังจากที่นักจิตวิทยากลับไป เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นและฝันร้ายของคฤหาสน์หลังนี้ก็เริ่มถูกปลุกให้ตื่นขึ้น

Don't Listenเสียงสั่งหลอน

นักแสดงนำ

Rodolfo Sancho Aguirre : รับบทเป็นแดเนียลสามีของซาร่า มีลูกชายชื่อ เอริค เขาเป็นคนที่รักครอบครัวมากโดยเฉพาะลูกชาย เขายอมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องครอบครัวของเขา

Don't Listenเสียงสั่งหลอน

Belén Fabra : รับบทเป็นซาร่าภรรยาของเอริค เธอเป็นแม่ที่ดีมากและก็น่าสงสารสุด ๆ

Don't Listenเสียงสั่งหลอน

Ramón Barea : รับบทเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งเหนือธรรมชาติ เขามาที่นี่เพื่อช่วยครอบครัวของแดเนียล

Don't Listenเสียงสั่งหลอน

Beatriz Arjona : รับบทเป็นลูกสาวผู้ช่วยของ Germán ในบทบาทที่สตรองและไม่อ่อนแอ มีอุปกรณ์ตรวจสอบจับสิ่งเหนือธรรมชาติ

Don't Listenเสียงสั่งหลอน

ทุกอย่างเริ่มแย่ลง

ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งเหนือธรรมชาติเท่านั้นที่ดูเหมือนจะช่วยพวกเขาให้หลุดพ้นจากขุมนรกอันน่าสยดสยองนี้ได้ พวกเขาต้องแข่งกับเวลา พากันตรวจสอบและไขปริศนาที่เป็นต้นตอของสิ่งเหนือธรรมชาติตัวร้ายที่อยู่ข้างในคฤหาสน์ก่อนที่มันจะสายเกินแก้ มันเป็นการภารกิจที่เสี่ยงและอันตรายมากเพราะสิ่งที่พวกเขากำลังจะพบเจอ มันไม่ใช่คน! ต้องขอบอกเลยว่าในฉากนี้จะเริ่มมีภาพสะเทือนใจแล้วนะคะ โปรดทำใจก่อนดูค่ะ

ผีสเปนหักมุมเก่งมาก

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ได้เห็นฉากเอริคตอนจมน้ำจากตัวอย่างหนัง เราเชื่อว่าทุกคนจะต้อง งง เหมือนกับเราแน่นอนเพราะมันผิดจากที่คิดไว้เพราะบทหนังดันหักมุมเป็นอย่างอื่นซึ่งตัวผู้เขียนเองก็คาดไม่ถึงด้วยซ้ำและนอกจากนี้ก็ยังมีความหักมุมให้เราได้รับชมมากกว่านี้ ซึ่งหลัง ๆ ปมเรื่องก็จะเฉลยจบในตอนนั้น ความกลัวที่สะสมมาตั้งแต่เนิ่น ๆ กลับถูกแทนที่ด้วยความสงสารมากกว่า

Don't Listenเสียงสั่งหลอน

หนังเรื่องนี้สามารถดูได้เรื่อย ๆ แถมยังมีความน่าติดตามอีกด้วย เพราะว่ามีการทิ้งปมให้เราสงสัยไว้ก่อนตั้งแต่เกือบกลางเรื่องเลย นอกจากนี้ก็ยังมีจุดพีคมากมายที่เราคาดไม่ถึงอยู่หลายจุดซึ่งเราก็คิดว่าหนังทำออกมาได้ดีอยู่ค่ะถึงแม้ว่าจะมีจุดที่ติดขัดอยู่บ้างก็ตาม ซึ่งในด้านของความหลอนเรื่องนี้มันก็มีที่มาที่ไปและบทบาทก็ไม่ได้ยัดเยียดความหลอนให้

แต่จะค่อย ๆ ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายซึ่งจะทวีคูณความหลอนยิ่งขึ้นและที่ประทับใจมาก ๆ คือทีมโปรดักชั่นทั้งหลายทำออกมาได้ดีมากเลย ไม่ว่าจะเป็นบทของหนัง ในส่วนของฉากก็มีความเล่นสีสันด้วยโทนสีมืดสลัวหลอน ๆ ได้อย่างสวยงาม ไหนจะเสียงซาวด์เอฟเฟคที่ฟังแล้วแทบจะสะดุ้งและสุดท้ายแล้วก็คือการแสดงที่มีความเป็นธรรมชาติ ไม่รู้สึกติดขัดอะไรเลยค่ะและสำหรับใครที่อยากดูเรื่องนี้นะคะ Don’t Listen เสียงสั่งหลอน ก็สามารถรับชมได้ที่ Netfilx เลย

#news-entertainments.com #ซีรีส์ หนัง